จากเสียงสะท้อนของประชากรมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ในขณะนี้(พ.ย.2552)ทั้งกลุ่มที่ออกเป็นพนักงานมหาวิทยาลัยแล้ว และกลุ่มที่จะตามมาในลำดับต่อไปนั้น เสียงสะท้อนที่ได้รับและอยากให้มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ปรับแก้ไขหรือดำเนินการเชิงรุกพอสรุปได้ดังนี้
1.เมื่อข้าราชการ มช.เลือกทางเดินในการออกเป็นพนักงานมหาวิทยาลัย ตามรายละเอียดที่ได้รับจากเอกสารของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ในเรื่องการต่อกองทุน กบข.ว่ามีรายละเอียดหรือแนวทางอย่างนั้น อย่างนี้ ตัวอย่างเช่น
1.1(แบบ ปข.2) เป็นหนังสือแสดงเจตนาเปลี่ยนสถานภาพเป็นพนักงานมหาวิทยาลัย ตาม พรบ.มช. พ.ศ.2551 สายปฏิบัติการ(ข้าราชการทั่วไป)
1.2(แบบ ป กบข.) และ(แบบ ป กบข.1) เป็นหนังสือแสดงเจตนาเป็นสมาชิก กองทุน กบข.ต่อเนื่อง เมื่อเปลี่ยนสภาพเป็นพนักงานมหาวิทยาลัยตาม พรบ.มช. พ.ศ.2551(กรณีเป็นสมาชิก กบข.อยู่เดิม)
1.3เอกสารข้อมูลเปรียบเทียบสิทธิประโยชน์ของข้าราชการที่จะได้เมื่อเปลี่ยนสถานภาพเป็นพนักงานมหาวิทยาลัยตาม พรบ.มช. พ.ศ.2551
แต่เมื่อข้าราชการเปลี่ยนสถานภาพเป็นพนักงานแล้ว กลุ่มที่ไม่ต่อ กบข. ไม่มีปัญหา แต่กลุ่มที่ต่อ กบข.มีปัญหาเรื่องสิทธิ์สวัสดิการ เบิกไม่ได้เลย และการหักเงินเข้ากบข.ก็ยังไม่ชัดเจน หักเท่าเดิม และเงินบำนาญไม่รู้ว่าจะมีปัญหาด้วยหรือไม่เพราะพูกพันกับ กบข. จึงเป็นความลำบากด้านการเงิน และความกังวลด้านจิตใจเป็นอย่างมาก
2เมื่อลูกจ้างประจำ มช. เลือกทางเดินในการออกเป็นพนักงานมหาวิทยาลัย โดยยื่น (แบบ ปล.) แต่เมื่อเปลี่ยนสถานภาพภาพเป็นพนักงานแล้ว มีสิ่งที่อยากให้มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ทบทวนหรือแก้ไข ดังนี้
2.1 ขอทบทวนเรื่องการหักเงิน20%เข้ากองทุนสวัสดิการแบบเหมารวม เพราะลูกจ้างประจำจำนวนไม่น้อยที่ ไม่จำเป็นต้องใช้สิทธิ์กองทุนสวัสดิการของมหาวิทยาลัยเนื่องจากตนเองเข้าประกันสังคม ลูกอายุเกิน20ปีเบิกไม่ได้แล้ว พ่อแม่เสียชีวิตแล้วหรือมีบัตรรักษาสุขภาพอยู่แล้ว จึงไม่ควรถูกหักเงินดังกล่าว ควรถูกหักตามที่ลูกจ้างประจำขาดและต้องการใช้สิทธิ์ การหักแบบเหมารวมนั้นสร้างความลำบากให้กลุ่มผู้มีรายได้น้อยเป็นอย่างมาก
2.2 มหาวิทยาลัย ควรจะทำการสำรวจว่าลูกจ้างประจำทั้งหมด มีรายละเอียดข้อมูลในเรื่องที่เกี่ยวกับสวัสดิการ อะไรบ้าง เพื่อประกอบการพิจารณาให้กับผู้บริหารตัดสินใจ ก็จะทำให้เห็นภาพชัดเจนขึ้น
สำหรับเรื่องการสื่อสารในองค์กร มช. นั้นอยากให้ผู้บริหารมหาวิทยาลัยเชียงใหม่สักท่านหนึ่งจัดทีมประชาสัมพันธ์ไปให้ข้อมูล และไปรับข้อมูล ที่เป็นผลพวงในทางปฏิบัติของการออกนอกระบบ จากทุกหน่วยงาน แล้วผู้บริหารก็สั่งการแก้ไข ถ้าทำได้จะลดความสับสนและความกังวลของประชากรใน มช.ได้เป็นอย่างมาก และทีมผู้บริหารจะได้ข้อมูลที่แท้จริงทั้งความสุขและความทุกข์ของประชากรมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ทั้งหมด
ไม่มีความเห็น