หน้าแรก
สมาชิก
อ้อ
สมุด
play & play
โรงเรียนชาวนาระดั...
อ้อ
วรรณา เลิศวิจิตรจรัส
สมุด
บันทึก
อนุทิน
ความเห็น
ติดต่อ
โรงเรียนชาวนาระดับอุดมศึกษา (10) พรรณาพันธุ์ข้าว
...การแบ่งข้าวตาม สภาพของแสงแดด สภาพการเก็บเกี่ยว และสภาพพื้นที่ปลูก สภาพแวดล้อม...
๑๐ พรรณาพันธุ์ข้าว
นับพันๆ พันธุ์ที่ยากจะพรรณนา...เมื่อกล่าวมาถึงเรื่องพันธุ์ข้าว เราๆท่านๆต้องยอมรับว่าบนผืนแผ่นดินไทยเรานี้อุดมสมบูรณ์เหลือคณา ในน้ำมีปลาในนามีข้าว พันธุ์ข้าวมีนับไม่ถ้วน นับได้หลายพันพันธุ์เลยทีเดียว
เมื่อพันธุ์ข้าวมีหลายพันธุ์เช่นนี้ แน่นอนแหละว่า แต่ละชนิดแต่ละพันธุ์ย่อมมีความเหมือนความคล้ายและความแตกต่างกันไป ซึ่งถือเป็นเรื่องธรรมชาติ อย่างไรก็ตาม ยังพอสามารถจำแนกแยกประเภทข้าวออกเป็นประเภทตามสภาพ นักเรียนชาวนาลองมาพิจารณาข้าวตามสภาพดูกัน... ไหนดูซิว่า แต่ละสภาพเป็นอย่างไร
หากพิจารณากันตาม
สภาพของแสงแดด
จะแบ่งข้าวได้เป็น ข้าวไวแสง กับ ข้าวไม่ไวแสง ซึ่งเป็น ๒ สภาพที่มีความแตกต่างกัน
ข้าวไวแสง
เป็นข้าวที่มีช่วงเวลาของการออกดอกที่แน่นอน และเป็นข้าวที่ปลูกในฤดูนาปีเท่านั้น ข้าวจะออกดอกในช่วงที่มีเวลากลางวันสั้นกว่ากลางคืน จึงต้องปลูกในฤดูฝนเพื่อให้ออกดอกในช่วงฤดูหนาว ซึ่งมีช่วงเวลากลางวันสั้นกว่า ๑๒ ชั่วโมง และนอกจากนี้ ข้าวไวแสงก็ยังมีรายละเอียดของสภาพต่อการไวแสงแยกย่อยอีก ได้แก่ ข้าวที่มีความไวต่อแสงมาก ข้าวที่มีความไวต่อแสงน้อย รายละเอียดอย่างนี้นี่เองที่ส่งผลให้ข้าวแต่ละพันธุ์มีช่วงเก็บเกี่ยวต่างกันออกไป และข้าวพันธุ์พื้นเมืองส่วนใหญ่จัดอยู่ในกลุ่มข้าวไวแสง
ส่วน
ข้าวไม่ไวแสง
เป็นข้าวที่ออกดอกตามอายุเก็บเกี่ยวของข้าวโดยไม่ขึ้นอยู่กับช่วงแสง และเป็นข้าวนาปรัง หากแต่มีน้ำเพียงพอก็สามารถปลูกได้ตลอดปี ข้าวไม่ไวแสงนี้จะปลูกได้ดีในฤดูร้อน เพราะมีช่วงแสงมากกว่าฤดูอื่น อายุของข้าวตั้งแต่ปลูกจนถึงเก็บเกี่ยวจะอยู่ในช่วงประมาณ ๑๑๐ – ๑๕๐ วัน
หรือหากพิจารณาตามเงื่อนไขใน
สภาพการเก็บเกี่ยว
โดยเงื่อนไขเป็นไปตามระยะเวลาปลูกจนถึงเก็บเกี่ยว สามารถแบ่งข้าวได้เป็น ข้าวเบา ข้าวกลาง และ ข้าวหนัก รวม ๓ สภาพ
ข้าวเบา
เป็นข้าวที่ใช้ระยะเวลาสั้น หากเป็นข้าวไวแสงจะเก็บเกี่ยวในช่วงเดือนกันยายนถึงเดือนตุลาคมของทุกพื้นที่ภาคของประเทศ เว้นแต่ภาคใต้ และข้าวเบานี้ยังสามารถแยกย่อยอีก ได้แก่ ข้าวค่อนข้างเบา ข้าวเบา และข้าวเบามาก
ข้าวกลาง
เป็นข้าวที่ใช้ระยะเวลาปานกลาง หากเป็นข้าวไวแสงจะเก็บเกี่ยวในช่วงเดือนตุลาคมถึงเดือนพฤศจิกายนของปี
ส่วน
ข้าวหนัก
เป็นข้าวที่ใช้ระยะเวลานาน หากเป็นข้าวไวแสงจะเก็บเกี่ยวในช่วงเดือนธันวาคมถึงเดือนมกราคม และข้าวหนักก็ยังสามารถแยกย่อยอีก ได้แก่ ข้าวค่อนข้างหนัก ข้าวหนัก และข้าวหนักมาก
และหากพิจารณาจาก
สภาพพื้นที่ปลูก สภาพแวดล้อม
ก็สามารถแบ่งสภาพได้เป็น ข้าวไร่ ข้าวนาสวน และ ข้าวนาเมือง รวม ๓ สภาพ
ข้าวไร่
เป็นข้าวที่ปลูกตามสภาพธรรมชาติ อาศัยน้ำฝน ปลูกในพื้นที่ไร่หรือพื้นที่ดอน ไม่มีการเก็บกักน้ำในแปลงนา ปลูกด้วยวิธีการหยอดหรือโรยเมล็ดข้าวแห้ง ซึ่งพันธุ์ข้าวไร่ส่วนใหญ่มักจะทนต่อความแห้งแล้ง
ข้าวนาสวน
เป็นข้าวที่ปลูกกันทั่วไปในพื้นที่ที่มีน้ำขัง มีการเก็บกักน้ำไว้ในแปลงนา ซึ่งมีระดับน้ำลึกตั้งแต่ ๑ เซนติเมตรเป็นต้นไป แต่ลึกไม่เกิน ๕๐ เซนติเมตร สำหรับข้าวนาสวนยังสามารถแบ่งย่อยได้เป็น “ข้าวนาน้ำฝน” กับ “ข้าวนาชลประทาน” ๒ สภาพ โดยที่ข้าวนาน้ำฝนนี้จะเป็นข้าวนาปี อาศัยน้ำฝนธรรมชาติ ปลูกด้วยข้าวพันธุ์พื้นเมืองหรือข้าวที่คัดพันธุ์มาจากข้าวพันธุ์พื้นเมือง ซึ่งเป็นข้าวที่มีคุณภาพ เมล็ดดี ทว่าต้นข้าวจะสูง แล้วล้มง่าย ส่วนข้าวนาชลประทานนั้น จะเป็นข้าวที่ปลูกในเขตนาชลประทาน สามารถปลูกได้ทั้งนาปีและนาปรัง ปลูกด้วยข้าวพันธุ์ที่พัฒนาพันธุ์ขึ้นมาใหม่ ซึ่งให้ผลผลิตสูง และเหมาะสำหรับการใช้ปุ๋ยเคมี
ข้าวนาเมือง
หรือข้าวขึ้นน้ำ หรือข้าวฟางลอย เป็นข้าวนาปี ส่วนใหญ่ปลูกด้วยข้าวพันธุ์ที่คัดมาจากพันธุ์พื้นเมือง อาทิเช่น ปิ่นแก้ว ๕๖ เจ๊กเชย ๑๕๙ เล็บมือนาง ๑๑๑ ซึ่งเป็นข้าวที่สามารถยืดปล้องตามระดับน้ำได้ มีการแตกแขนงและรากที่ข้อ ทนต่อสภาพน้ำท่วมขังเป็นเวลานาน และยังทนต่อสภาพแห้งแล้งได้ดี ทว่าผลผลิตค่อนข้างจะต่ำกว่านาน้ำฝน
ภาพที่ ๔๕ สภาพพ้นที่ นาข้าวชลประทานในจังหวัดสุพรรณบุรี
ภาพที่ ๔๖ สภาพพื้นที่ที่ปลูกข้าวไร่ ซึ่งปลูกตามธรรมชาติอาศัยน้ำฝน พื้นที่บนภูเขาในจังหวัดเชียงใหม่
เขียนใน
GotoKnow
โดย
อ้อ
ใน
play & play
คำสำคัญ (Tags):
#โรงเรียนชาวนา
#กระบวนการเรียนรู้
#คลังความรู้
#คุณอำนวย
หมายเลขบันทึก: 31639
เขียนเมื่อ 29 พฤษภาคม 2006 09:52 น. (
)
แก้ไขเมื่อ 28 พฤษภาคม 2012 18:28 น. (
)
สัญญาอนุญาต:
จำนวนที่อ่าน
จำนวนที่อ่าน:
ความเห็น (0)
ไม่มีความเห็น
ชื่อ
อีเมล
เนื้อหา
จัดเก็บข้อมูล
หน้าแรก
สมาชิก
อ้อ
สมุด
play & play
โรงเรียนชาวนาระดั...
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID
@gotoknow
สงวนลิขสิทธิ์ © 2005-2023 บจก. ปิยะวัฒนา
และผู้เขียนเนื้อหาทุกท่าน
นโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Policy)
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท