สวัสดีเพื่อนผู้ป่วยโรคไต และผู้สนใจเรื่องไต ทุกท่าน ครับ
คงไม่มีใครอยากป่วยไข้ อยากเจ็บปวด เพราะมันทั้งทุกข์ ทรมาน เสียเงินทอง เสียเวลา เดือดร้อนกันไปหมด เลยอยากจะเตือนภัยท่านทั้งหลายที่ยังแข็งแรง ยังไม่ป่วยเป็นโรคไตวายเรื้อรัง เพราะใครที่ป่วยด้วยโรคไตวายเรื้อรังแล้วไม่มีโอกาสที่จะหายได้ หายได้ยากครับ เมื่อไม่หายจากโรคภัยก็มีความจำเป็นต้องอยู่กับโรคไตเรื้อรังที่มันทั้งปวด ทั้งทรมาน เพราะไต คนเรานั้นมีหน้าที่ขับถ่ายของเสียที่เหลือจากร่างกายใช้งานดังนั้นจึงต้องศึกษาเรื่องการทำงานของไตคนเราให้เข้าใจอย่างถูกต้อง เพราะเราจะได้ไม่ซ้ำเติมร่างกายของเราเอง เช่น พอไตเราวายแล้ว จะไม่สามารถขับสารอาหารบางชนิดได้( โปรแตสเซี่ยม ฟอสฟอรัส น้ำ เป็นต้น ) เราก็ต้องรู้อีกว่า
โปรแตสเซี่ยม มีมากในกล้วย หรือของที่มีสีเหลือง หรือฟอสฟอรัส ก็มีมากในผลไม้ทุกชนิด เป็นต้น ถ้าเรารับประทานอาหารดังกล่าวมากเหมือนคนที่ยังไม่ป่วย ก็จะมีอาการปวด หรือบวม หรืออาการอื่น ๆ ซึ่งมันจะทำให้เราลำบาก ต้องใช้ทั้งเงิน ทั้งเวลาในการจัดการกับร่างกายของเรา คือต้องไปพบแพทย์ เพื่อรักษาก็ใช้วิธีรักษาได้3 วิธี คือ
1 ฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม ใช้เวลาฟอกครั้งละ ประมาณ 3-4 ชั่วโมง โดยแพทย์ จะผ่าตัดเส้นเลือดใหญ่ ใส่สายเข้าไปเพื่อให้เครื่องไตเทียมดูดเอาเลือดในร่างกายเราออกมาแยกของเสียดังกล่าวที่ไตไม่สามารถขับออกได้ แล้วส่งเลือดดีกลับเข้าสู่ร่างกายทางท่อเดิมโดยท่อจะแยกเป็น สองทาง เครื่องจะทำได้เร็วมาก แต่ก็ประมาณ 3-4 ชั่วโมงจึงจะสำเร็จ เราก็จะแข็งแรงดีเหมือนคนปกติ แต่พอเรารับประทานอาหารเข้าไปใหม่ก็เป็นเหมือนเดิม ก็ต้องทำการฟอกเลือดเหมือนเดิม การทำนี้แพทย์จะต้องตรวจวัดความดันเลือด ตลอดเวลาและจัดยาให้เรารับประทานตลอด บางคนก็ต้องทำสัปดาห์ละ2 ครั้ง บางคน 3 ครั้งก็อยู่ที่ร่างกายของแต่ละคน
2 การล้างไตทางช่องท้อง แพทย์ต้องผ่าที่หน้าท้องด้านใดด้านหนึ่งของผู้ป่วยเพื่อใส่สายและอุปกรณ์เพื่อสอดปลายสายออกมาทางหน้าท้องผู้ป่วย เพื่อใส่น้ำยา ซึ่งเหมือนกับน้ำเกลือนั่นแหละครับ มีน้ำหนักประมาณ 2,000 กรัม ( 2 กิโลกรัม ) ผู้ป่วยต้องรอให้แผลผ่าตัดแห้งประมาณ 2 สัปดาห์ จึงจะเริ่มล้างทางช่องท้องได้ครับ น้ำยาที่ใส่เข้าไปจะอยู่ในช่องท้องตามเนื้อเยื่อต่าง ๆ ของผู้ป่วย 6 ชั่วโมง หลังจากนั้น จะต้องถ่ายน้ำยาออกจากร่างกาย แล้วตรวจดูน้ำยาที่ออกมามีลักษณะอย่างไร ถ้าใสดีและมีปริมาณมากกว่าปริมาณที่น้ำยาเข้าแสดงว่าร่างกายเป็นปกติดี แต่ถ้ามีสีขุ่น ข้นแสดงว่าติดเชื้อโรคต้องนำน้ำยาไปตรวจว่าเป็นเชื้อโรคตัวใด แล้วต้องนำน้ำยาไปใส่ยาฆ่าเชื้อวันละประมาณ 4 ถุง ติดต่อกัน 14 วัน ไม่มีเว้น บางคนติดเชื้อรุนแรงต้องใส่น้ำยานานถึง 21 วัน หรืออาจมากกว่านี้ ซึ่งแสนทรมานทีเดียวเพราะมันทั้งเจ็บ ทั้งปวด แสนทรมาน เหมือนดังเพลงที่ร้องว่าเธอไม่โดนเธอไม่รู้ ........
3. การปลูกถ่ายไต(เปลี่ยนไต) การรักษาวิธีนี้ดีที่สุดเพราะหลังจากทำได้สำเร็จแล้วเราจะไม่ต้องล้างไตอีกเพราะไตใหม่จะทำหน้าที่ทดแทนไตเดิมที่เสียไป แต่อย่างไรก็ต้องกินยาตลอดชีวิตเพื่อกดภูมิต้านทานไว้ ไม่ให้ไตต่อต้านกัน ไม่สลัดทื้งไตใหม่ ก็ต้องกินยาอย่างนี้ อย่างนั้นตลอดไป ต้องพบแพทย์โรคไตตามนัดตลอดเพื่อตรวจไต และโรคอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับไต
ฟังดูแล้วน่ากลัวมาก หลายคนลำบาก และอาจทุกข์ทรมาน หาทางแก้ปัญหา ดังนั้นขอบอกเลยว่าปัญหาทุกปัญหามีทางแก้ได้ครับ ใครมีปัญหาติดต่อกับเราได้ ยินดีให้คำปรึกษาครับติดต่อเราที่ชมรมเพื่อนช่วยเพื่อนโรคไตพิษณุโลก และขอแจ้งข่าวว่า ขณะนี้ทางโรงพยาบาลพุทธชินราช พิษณุโลก
มีการรวมตัวกันของชมรมต่าง ๆ เรียกว่าจิตอาสาเพื่อนช่วยเพื่อน หรือมิตรภาพบำบัดเพื่อนช่วยเพื่อน ใครเจ็บป่วยด้วยโรคต่าง ๆ เช่นโรคไตวาย เราจะมีเพื่อนโรคไต มาช่วยเหลือให้คำแนะนำทุก ๆ เรื่อง หรือโรคมะเร็ง ก็มีชมรมเพื่อนผู้ป่วยโรคมะเร็งดูแลซึ่งกันและกัน หรือโรคหัวใจ ก็มีชมรมโรคหัวใจดูแลครับ และ
นอกจากนี้เรายังมีผู้สูงอายุ มีแพทย์ และพยาบาลในสาขาต่าง ๆ คอยช่วยเหลือเราได้ทุกเรื่องครับ ปรึกษาเราได้ เพราะขณะนี้เราได้มีการประชุมกันเพื่อจะได้ดูแลกันครับ อย่าลืมนะครับ มีปัญหา อย่าคิดสั้น อย่าซึมเศร้า เราจะไม่โดดเดี่ยวอีกต่อไป ผมขอสัญญา
สมพงษ์/พิมพ์/เผยแพร่/ 26 /11 /52
ไม่มีความเห็น