สรุปงานวิจัยเล่มที่ 3


ชื่อเรื่อง การศึกษาความต้องการและการตอบสนองความต้องการการพัฒนาทรัพยากร

            บุคคลของครูโรงเรียนเอกชนระดับประถมศึกา จังหวัดชลบุรี

ผู้วิจัย    สมศรี   ไตรสรณะศาสตร์

ปีที่วิจัย   2543

วัตถุประสงค์ของการวิจัย

1. เพื่อศึกษาความต้องการการพัฒนาทรัพยากรบุคคลของครูโรงเรียนเอกชนระดับประถมศึกษา จังหวัดชลบุรี

2. เพื่อศึกษาการตอบสนองความต้องการการพัมนาทรัพยากรบุคคลของครูโรงเรียนเอกชน ระดับประถมศึกษา จังหวัดชลบุรี

3. เพื่อเปรียบเทียบความต้องการการพัฒนาทรัพยากรบุคคลของครูโรงเรียนเอกชนระดับประถมศึกษา จังหวัดชลบุรี จำแนกตามวุฒิการศึกษาและประสบการณ์ในการปฏิบัติงาน

4. เพื่อเปรียบเทียบการตอบสนองความต้องการการพัฒนาทรัพยากรบุคคลของครู โรงเรียนเอกชน ระดับประถมศึกษา จังหวัดชลบุรี จำแนกตามวุฒิการศึกษาและประสบการณ์ในการปฏิบัติงาน

วิธีการดำเนินงานศึกษาค้นคว้า

ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง

1. ประชากร ในการศึกษาได้แก่ครูโรงเรียนเอกชน ระดับประถมศึกษา สังกัดคณะกรรมการการศึกษาเอกชน ในจังหวัดชลบุรี จำนวน 2,313 คน

2. กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ครูโรงเรียนเอกชนระดับประถมศึกษา สังกัดคณะกรรมการการศึกษาเอกชน ในจังหวัดชลบุรี จำนวน 327 คน โดยประมาณขนาดกลุ่มตัวอย่างจากตารางเครซี่และมอร์แกน โดยสุ่มแบบหลายขั้นตอน

     ขั้นที่ 1 สุ่มอำเภอ จำนวนร้อยละ 50 ของจำนวนอำเภอทั้งหมด 10 อำเภอ ได้อำเภอ 5 อำเภอ

     ขั้นที่ 2 สุ่มโรงเรียนจากโรงเรียนแต่ละอำเภอ จำนวนร้อยละ 50 ของจำนวนโรงเรียนแต่ละอำเภอได้โรงเรียนทั้งหมด 36 โรงเรียน

     ขั้นที่ 3 สุ่มครูแต่ละโรงเรียนร้อยละ 50 ของแต่ละโรงเรียน ได้จำนวนครูทั้งหมด 327 คน

เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล

      เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล เพื่อศึกษาค้นคว้าเป้นแบบสอบถามที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นเองเกี่ยวกับความต้องการทรัพยากรบุคคล แบ่งออกเป้น 2 ตอน คือ

      ตอนที่ 1 เป็นข้อมูลเกี่ยวกับรายละเอียดส่วนตัวของผู้ตอบแบบสอบถาม

      ตอนที่ 2 เป็นแบบสอบถามที่เกี่ยวกับความต้องการทรัพยากรบุคคลและการตอบสนองความต้องการของครูโรงเรียนเอกชน ระดับประถมศึกษาจังหวัดชลบุรีใน 3 ด้าน คือ

     1. ด้านการฝึกอบรม

     2. ด้านการศึกษาต่อ

     3. ด้านการพัฒนาตนเอง

     ลักษณะของมาตราส่วนประมาณค่าแบบของลิเคิร์ท แบ่งเป็น 5 ระดับ ซึ่งกำหนดความมากน้อยตามระดับความต้องการ โดยกำหนดเกณฑ์ 5 4 3 2 1

การสร้างเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล

1. ศึกษาเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาทรัพยากรบุคคล

2. สร้างแบบสอบถามขึ้นเองตามกรอบแนวคิดสำหรับการศึกษาของโรงเรียนเอกชน สังกัดคณะกรรมการการศึกษาเอกชน จำนวน 50 ข้อ แล้วนำแบบสอบถามที่สร้างเสนอคณะกรรมการควบคุมงานนิพนธ์ระดับสูง เพื่อพิจารณาแล้วนำเสนอให้ผู้ทรงคุณวุฒิตรวจสอบความถูกต้อง ความเที่ยงตรง และความครอบคลุมของเนื้อหา รวมทั้งการใช้ภาษาที่เหมาะสม และนำไปปรับปรุงแก้ไขร่วมกับคณะกรรมการที่ปรึกษางานนิพนธ์ระดับสูงอีกครั้ง

3. ปรับปรุงแบบสอบถามตามที่ผู้ทรงคุณวุฒิเสนอแนะ

4. นำแบบสอบถามที่แก้ไขแล้วไปทดลองใช้(try out) กับครูโรงเรียนสัตหีบ เขตฐานทัพเรือสัตหีบ สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี จำนวน 30 คน ซึ่งไม่ใช่กลุ่มตัวอย่าง แล้วนำแบบสอบถามทั้ง 30 ฉบับ มาวิเคราะห์หาค่าอำนาจจำแนกรายข้อ(discrimination)โดยหาค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ระหว่างคะแนนรายข้อกับคะแนนรวม(item-total correlation)โดยวิธีหาค่าสหสัมพันธ์อย่างง่ายของเพียร์สัน(Pearson product-moment correlation) ได้ค่าจำแนกระหว่าง 0.20-1.00

5. จากนั้นนำแบบสอบถามไปหาค่าความเชื่อมั่น(reliability) โดยวิธีหาค่าสัมประสิทธิอัลฟา ของครอนบาค จากการหาค่าความเชื่อมั่นของแบบสอบถามได้ค่าความเชื่อมั่น.95

6. นำแบบสอบถามที่ได้ทดลองใช้แล้วไปเก็บรวบรวมข้อมูลต่อไป

การเก็บรวบรวมข้อมูลและการจัดกระทำกับข้อมูล

1. ผู้วิจัยขอหนังสือจากภาควิชาบริหารการศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา เพื่อขอความร่วมมือจากผู้รับใบอนุญาตโรงเรียนเอกชนระดับประถมศึกษา จาก 5 อำเภอ 36 โรงเรียนที่เป็นกลุ่มตัวอย่างในจังหวัดชลบุรี ในการแจกแบบสอบถามให้กลุ่มตัวอย่าง

2. ผู้วิจัยดำเนินการแจกแบบสอบถามให้ผู้ตอบแบบสอบถาม แล้วดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลด้วยตนเอง

3. ในกรณีที่ไม่ได้รับแบบสอบถามคืนจากกลุ่มตัวอย่าง ผู้วิจัยได้ติดตามประสานงานกับกลุ่มตัวอย่าง เพื่อติดตามและรวบรวมแบบสอบถามปรากฏว่าได้กลับคืนมา 324 ฉบับคิดเป็นร้อยละ 99

4. นำแบบสอบถามมาตรวจให้คะแนนน้ำหนักที่กำหนดไว้ แล้นำไปวิเคราะห์วิธีทางสถิติต่อไป

สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล

1. การศึกษาความต้องการและการตอบสนองความต้องการการพัฒนาทรัพยากรบุคคลของครูโรงเรียนเอกชน ระดับประถมศึกษา ใช้การหาค่าเฉลี่ย และค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐาน

2. เปรียบเทียบความต้องการและการตอบสนองความต้องการการพัฒนาทรัพยากรบุคคลของครูโรงเรียนเอกชน ระดับประถมศึกษา จำแนกตามวุฒิการศึกษาและประสบการณ์ในการปฏิบัติงานใช้การทดสอบค่าที(t-test)

ผลวิจัยพบว่า

       ความต้องการการพัฒนาทรัพยากรบุคคลของครูโรงเรียนเอกชน ระดับประถมศึกษา จังหวัดชลบุรีโดยรวมและรายด้านอยู่ในระดับมาก และการตอบสนองควมต้องการโดยรวมและรายด้านอยู่ในระดับปานกลาง การเปรียบเทียบความต้องการการพัฒนาทรัพยากรบุคคลของครูโรงเรียนเอกชน จำแนกตามวุฒิการศึกษาและประสบการณ์ในการปฏิบัติงาน โดยรวมไม่แตกต่างกัน วิเคราะห์เป็นรายด้านพบว่าครูโรงเรียนเอกชนที่มีวุฒิต่ำกว่าปริญญาตรีและปริญญาตรีขึ้นไป มีความต้องการด้านการฝึกอบรมและการพัฒนาตนเองแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ด้านการศึกษาต่อเพิ่มเติมมีความต้องการไม่แตกต่างกัน และการตอบสนองความต้องการจำแนกตามวุฒิการศึกษาและประสบการณ์ในการปฏิบัติงานโดยรวมและรายด้านไม่แตกต่างกัน

 

 

หมายเลขบันทึก: 316224เขียนเมื่อ 26 พฤศจิกายน 2009 10:25 น. ()แก้ไขเมื่อ 1 มิถุนายน 2012 18:20 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

น้องเอ๋...แล้วสถิติที่ใช้กับ ผลการวิจัยละน้อง... พี่รออยู่

ค่ะพี่...น้องกำลังดำเนินการค่ะ สักครู่นะจ๊ะ.......

พี่เอ๋ ส่งอีกแล้วขยันจริงๆๆๆ

เรื่องที่สามแล้ว เริ่มชำนาญแล้วใช่มั๊ยเนี่ย

ขยันมากเลยเนี่ย ระวัง จะผอมนะครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท