---------------------------------------
ข้อเท็จจริงของเด็กชายวิษณุ บุญชา
---------------------------------------
เด็กชายวิษณุ บุญชา นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ โรงเรียนป้อมนาคราชสวาทยานนท์ อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ มีชาติพันธุ์มอญ เกิดเมื่อวันที่ ๘ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๓๗ จากการสอบถามมารดาของวิษณุ ทำให้ทราบว่าวิษณุเกิดที่โรงพยาบาลบ้านโป่ง อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี โดยอาศัยอยู่กับบิดามารดา เมื่อปี ๒๕๓๘ เด็กชายวิษณุและบิดามารดาได้ย้ายมาอาศัยอยู่กับยายที่ ซอยวัดคู่สร้าง ถนนสุขสวัสด์ อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ จนกระทั่งปัจจุบัน
เด็กชายวิษณุ เป็นอดีตบุคคลที่ไม่มีชื่อในทะเบียนราษฎร ซึ่งต่อมาได้รับการสำรวจเพื่อจัดทำทะเบียนสำหรับบุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียน (แบบ 89) โดยโรงเรียนป้อมนาคราชสวาทยานนท์ ร่วมกับเทศบาลพระสมุทรเจดีย์ อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ เมื่อต้นปี ๒๕๕๒
ปัจจุบัน เด็กชายวิษณุ ได้รับการกำหนดเลขประจำตัวประชาชน ๑๓ หลัก แล้ว คือ ๐xxxx๘๙xxx๑๕๑ แต่อยู่ระหว่างรอการติดต่อจากทางอำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ เพื่อนัดถ่ายบัตรประจำตัวประชาชน
บิดาชื่อ นายเล็ก บุญชา ชาติพันธุ์มอญ อพยพเข้ามาจากประเทศพม่าเมื่อ ๒๙ ปีก่อน ทางด่านเจดีย์สามองค์ เคยได้รับการสำรวจและจัดทำทะเบียนประวัติแรงงานต่างด้าว(ท.ร.๓๘/๑) เมื่อปี ๒๕๔๗ แต่ขาดการต่ออายุบัตรประจำตัวแรงงานต่างด้าวและใบอนุญาตทำงาน เนื่องจากไม่ได้รับการต่อสัญญาจากนายจ้าง และไม่มีงานทำ ปัจจุบันนายเล็กสุขภาพไม่ค่อยดีนักเพราะว่ามีโรคประจำตัวคือโรคหอบหืด แต่เพราะค่าใช้จ่ายในการรักษาค่อนข้างสูง จึงทำให้นายเล็กซึ่งมีฐานะทางบ้านยากจนไม่ได้ไปรับการรักษาจากแพทย์อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังไม่สามารถเข้าถึงบริการในระบบประกันสุขภาพ(บัตรทอง)ได้ เพราะมีการกำหนดหลักเกณฑ์การใช้สิทธิครอบคลุมเฉพาะคนที่มีสัญชาติไทยเท่านั้น เป็นเหตุให้นายเล็กยังตกหล่นจากระบบประกันสุขภาพของรัฐ
มารดาชื่อ นางปัญจรา บุญชา ชาติพันธุ์มอญ เกิดในประเทศไทย เคยได้รับการสำรวจเพื่อจัดทำทะเบียนประวัติบุคคลบนพื้นที่สูง โดยอำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี เมื่อประมาณ พ.ศ. ๒๕๒๐ แต่ไม่ได้รับการถ่ายบัตรประจำตัว เนื่องจากอพยพออกนอกพื้นที่ไปประกอบอาชีพที่อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี และย้ายมาตั้งถิ่นฐานที่อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ จนถึงปัจจุบัน
แม้ต่อมาในปี ๒๕๕๒ ทางอำเภอสังขละบุรี จะได้แจ้งให้ทราบว่ายังมีข้อมูลทะเบียนราษฎรอยู่ที่อำเภอและแจ้งให้เดินทางไปแสดงตนรวมถึงดำเนินการนำพยานหลักฐานไปพิสูจน์ว่าเป็นบุคคลดังกล่าวจริง แต่เนื่องจากในขณะนี้นางปัญจรา เป็นบุคคลไร้เอกสารพิสูจน์ทราบตัวบุคคลเนื่องจากไม่มีเอกสารราชการใดๆ ที่รับรองสถานะบุคคลตามกฎหมายไทย ดังนั้น นางปัญจราจึงไม่กล้าเดินทางไปพิสูจน์ตนเพราะเกรงจะถูกจับตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมืองในความผิดฐานเข้าเมืองผิดกฎหมาย(เนื่องจากถูกสันนิษฐานว่าเป็นคนต่างด้าว-ตามมาตรา ๕๗ พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.๒๕๒๒ และถูกสันนิษฐานว่าเป็นคนต่างด้าวเข้าเมืองผิดกฎหมาย-ตามมาตรา ๕๘ พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.๒๕๒๒) อย่างไรก็ดี ล่าสุดทางคณะอนุกรรมการด้านสิทธิและสถานะบุคคลของผู้ไร้สัญชาติ ไทยพลัดถิ่น ผู้อพยพ และชนพื้นเมืองได้เห็นชอบที่จะดำเนินการเดินทางพานางปัญจราพร้อมสมาชิกในครอบครัว ไปแสดงตนและพิสูจน์ตนที่อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี
---------------------------------------
ทำไมเด็กชายวิษณุ บุญชา จึงตกเป็นคนไม่มีเลข ๑๓ หลัก
---------------------------------------
บิดาและ มารดาไม่มีเอกสารราชการใด ๆ และเมื่อเด็กชายวิษณุ บุญชา เกิดมาบิดามารดาก็ไม่ได้ไปแจ้งเกิดแต่อย่างใดด้วยเหตุที่ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร จนกระทั่งโตขึ้นก็ยังไม่ได้รับการสำรวจมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน
เด็กชายวิษณุ บุญชา จึงกลายเป็นบุคคลที่ไม่มีหลักฐานทางทะเบียนราษฎรของรัฐไทย และทะเบียนราษฎรจากรัฐใด ๆ เลย เรียกว่าเป็น “คนไร้รัฐ” ที่ไม่มีรัฐใดยอมรับเป็นเจ้าของตัวบุคคล และ ในภาษาราชการของกรมการปกครองไทย เรียกว่า “บุคคลไม่มีสถานะทางทะเบียน”
-------------------------------
หมายเหตุ
บทความนี้เป็นส่วนหนึ่งของเอกสารในงานมอบรางวัลประกวดข่าว “สิทธิเด็ก” วันพฤหัสบดีที่ ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๒ ณ โรงแรม ดิ เอ็มเมอรัลด์ ห้องบอลรูม ๑ รวบรวมและเรียบเรียงโดย นางสาวอัจฉรา สุทธิสุนทรินทร์ และนางสาวกิติวรญา รัตนมณี
ไม่มีความเห็น