วันนี้นึกยังไงไม่รู้ พอแดดร่มลมตก เลยหยิบกล้องออกมาลองถ่ายเล่นๆที่หลังหอพัก เป็นช่วงที่อาทิตย์ตกดินไปแล้วเหลือแต่แสงสีแดงที่สะท้อน อยู่ที่ท้องฟ้า เป็นโอกาสที่ดี ของคนชอบถ่าย (ถ่ายรูปนะครับอิอิ…) ก็เลยได้เก็บภาพมาฝากทุกท่านที่ชื่นชอบในบรรยากาศในยามเย็นอย่างนี้ ที่อากาศกำลังดี มีลมพัดผ่าน ท้องฟ้าทาด้วยสีครามปนกับสีแดง บางที่คำอธิบายหลายร้อยคำก็ไม่เท่าได้ดูภาพเพียงภาพเดียว (เจ้าสำนวนนะอิอิ...)
ท้องฟ้ายามเย็น ที่ขอนแก่นยามนี้ ช่างสวยงามเหลือหลาย...
แต่ถ้ายิ่งเป็นภาพที่ออกมาจากใจของผู้เขียนและปลายพู่กันแล้วล่ะก็ ไม่ต้องพูดถึงความตั้งใจเลยครับ เกินร้อยแน่นอน ไม่มีคำบรรยายใดๆเท่าได้ไปเห็นด้วยตัวเองเป็นแน่ เป็นการจัดแสดงนิทรรศการภาพเขียนที่หอศิลปวัฒนธรรมหรือหอศิลป์นั้นเอง
อยู่ที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น พอดีมีเพื่อนเป็นเด็กศิลป์ก็เลยทราบเรื่องนี้ เพื่อนยังมีน้ำใจวาดภาพมาฝากด้วย ตั้ง1 ภาพ (อิอิ...นึกว่าจะเอามาฝากเยอะกว่านี้) ไม่หรอกครับ แค่เห็นหน้าเพื่อนที่ไม่ได้เจอกันมานานหลายปี ตั้งแต่เรียนจบมัธยมเลยครับ ก็ดีใจมากแล้ว ลืมบอกไปว่าเพื่อนเป็นคนมาช่วยจัดนิทรรศการในครั้งนี้ อีกไม่นานก็น่าจะมีผลงานออกมาแสดงอย่างนี้ อิอิ...ชมไปหรือเปล่า
ศิลปินแต่ละคนจะมีเทคนิคในการสร้างสรรค์งานศิลป์ของตัวเองที่แตกต่างกัน เรียกว่า ลอกเลียนแบบกันไม่ได้เลย เจ้าเทคนิคที่ว่านี้ก็ต้องผ่านการฝึกฝน ศึกษา ทดลองทำ และวิเคราะห์ สังเคราะห์แล้วก็สรุปสุดยอดมาเป็นเทคนิคของตนเอง บางคนก็ต้องหาทั้งชีวิตเลยแต่บางคนก็ใช้เวลาไม่นาน ต้องเก็บเล็กผสมน้อยไปเรื่อยๆ ยิ่งนานวันยิ่งมีวิชาที่แก่กล้า ว่ากันอย่างนั้น
เอารูปมาฝาก ยั่วน้ำลายเล่น มีอะไรอีกมาก
สองมือล้วงกระเป๋า สองเท้าเก้าเข้ามา อิอิ...
การจัดนิทรรศการในครั้งนี้ก็มีถึง 30 พย. 52 นี้เท่านั้น หากใครว่างๆก็เชิญมาพักความสับสนวุ้นวาย ด้วยการมาชมภาพวาดที่หาดูไม่ง่ายเลย ศิลปะมันมีจิตวิญญาณ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับพุทธศิลป์ บอกได้คำเดียวว่า... ต้องไปดูเองครับ
มาเยี่ยมยามครับ "ศิลป คือ ชีวิต"
"ชีวิต คือ ธรรมชาติ"