การเดินสู่งานวิจัย...เริ่มจาก การทำงานมีข้อจำกัดอยู่บ้างในด้านปัจจัยภายในและภายนอก
ปัจจัยภายนอก ได้แก่
- การจัดการศึกษาแบบแยกส่วนในระบบโรงเรียนที่เด็ก ๆ ต้องใช้เวลาในการเรียนรายวิชาต่างๆ ซึ่งเกี่ยกับประเด็นสำคํญของชีวิต
-การใช้เวลาในห้องเรียนมาก มีเวลาเรียนรู้ในสถานการณ์จริงน้อย
- ความสัมพันธ์ทางสังคมในแบบทุนนิยมและวัฒนธรรมการใช้ชีวิตแบบเก่าที่ไม่เอื้อต่อการเรียนรู้
-มีการขยายฐานกลุ่มการเรียนรู้น้อยลง
ปัจจัยภายใน ได้แก่
-การขาดความชัดเจนเกี่ยวกับรูปแบบและแนวทางการจัดกระบวนการเรียนรู้ของกลุ่ม/เครือข่าย ซึ่งมีความจำเป็นที่จะต้องหาแนวทางในการทำงานเชิงคุณภาพยิ่งขึ้น
ในปี 2543 คุณสมบูรณ์ อัพภาสกิจ ผู้ประสานงานวิจัยเพื่อท้องถิ่นภาคใต้ ได้เข้าไปเยี่ยมเยียนเด็ก ๆ และประชาคมสุราษฎร์ธานีบ่อย ๆ ทำให้รู้จักที่ปรึกษากลุ่มยุวชนสร้างสรรค์ คือ ครูนิวัตร์ และได้ให้กำลังใจว่า "งานที่ทำอยู่มีคุณค่ามาก สามารถยกระดับขึ้นได้โดยใช้กระบวนการงานวิจัยเป็นเครื่องมือหนึ่งได้" นั่นเป็นโอกาสให้ได้รู้จักคำว่า "งานวิจัยเพื่อท้องถิ่น"
ต่อมาในปี 2544 กลุ่มยุวชนสร้างสรรค์มีโอกาสเข้าร่วมรับฟังแนวคิด/หลักการของงานวิจัยเพื่อท้องถิ่นด้วยตนเอง จึงร่วมกันว่า "งานวิจัยน่าจะเป็นช่องทางหนึ่งที่เราจะใช้เสริมกระบวนการเรียนรู้ได้" ถึงแม้ว่าจะไม่คุ้นเคยกับงานใหม่ แต่ "น่าจะทดลองใช้วิธีการใหม่ๆ ดูบ้าง อย่าทำตัวเป็นชาล้นถ้วย งานที่ทำอยู่เป็นงานเชิงพัฒนา ต้องใช้เส้นทางยาวไกลกว่าจะถึงวันนี้ งานในแบบแผนใหม่ ๆ อาจจะเหมาะกับการพัฒนาเยาวชนในเชิงเครือข่ายการเรียนรู้ที่กำลังจะเกิดขึ้น"
เริ่มต้นสู่...ขั้นตอน
1. การกำหนดโจทย์เพื่อหาวัตถุประสงค์/เป้าหมาย สิ่งที่เหมาะสมในช่วงนี้คืออะไร/มีบทเรียนเพียงพอแล้วหรือยัง/ได้สรุปบทเรียนชัดเจนแล้วหรือยัง โดยเฉพาะรูปแบบและแนวทางการจัดการะบวนการเรียนรู้ของกลุ่มยุวชนสร้างสรรค์และกลุ่มเรียนรู้อื่น ๆ ที่ผ่านมาเป็นอย่างไร และจะพัฒนาให้เกิดประสิทธิภาพได้อย่างไร
2. วัตถุประสงค์ โครงการ "ศึกษารูปแบบและแนวทางการจัดกระบวนการเรียนรู้ของเครือข่ายเยาวชนจังหวัดสุราษฎร์ธานี"
3. เวทีถอดบทเรียนของกลุ่มยุวชนสร้างสรรค์ โดยแบ่งเป็น 4 กลุ่ม คือ
- กลุ่มยุวชนสร้างสรรค์รุ่นพี่
- กลุ่มเพื่อน ๆ ยุวชนสร้างสรรค์
- กลุ่มน้องใหม่
- กลุ่มเพื่อนครูลานสนสัมพันธ์
4. แลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน แต่ละกลุ่มเป็นมาอย่างไร/ ได้ดำเนินการกิจกรรมอะไรบ้าง/ ผลการดำเนินงานที่ผ่านมาเป็นอย่างไร/ การจัดกระบวนการเรียนรู้ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันเป็นอย่างไร.....
5. ถอดออกมาได้
ปัจจัยที่เอื้อให้การทำงานเป็นไปด้วยดี
- ความสนใจและตั้งใจของสมาชิก -มีความต่อเนื่องของกิจกรรมการเรียนรู้ - บรรยากาศการเรียนสนุก - มีแกนนำกลุ่ม - มีการทำงานอย่างเป็นระบบ - มีความเป็นพี่เป็นน้องภายในกลุ่มสูง -มีความมั่นใจเกิดขึ้นจากผลงานที่ดี - การรับรู้ศักยภาพของตนเอง - ครอบครัวสนับสนุน - มีทรัพยากรที่มีคุณค่าในท้องถิ่นเป็นแรงผลักดันให้เกิดกิจกรรม
ที่ผ่านมามีการเรียนรู้ 7 รูปแบบ
1. ชุมชนศึกษา 2. การเรียนรู้แบบซึมซับ 3. การสนทนา (dialogue) 4. การฝึกอบรม 5. การศึกษาดูงานหรือการศึกษานอกสถานที่ 6. การสื่อสาร ประชาสัมพันธ์ รณรงค์ 7. การเรียนรู้จากการปฏิบัติและสรุปงาน
การทบทวนสถานการณ์ภายนอก ทุนข้ามชาติที่กำลังคุกคามเข้ามาอย่างหนัก
ข้อจำกัด - เรื่องของเวลาที่จะให้กับการเรียนรู้ - การทวนกระแสการศึกษาแบบเดิม ๆ - ขาดพี่เลี้ยงในการจัดกระบวนการ - ขาดเงินทุนหมุนเวียน
ค้นพบว่า ความสำเร็จในการจัดเวทีการเรียนรู้
1. ต้องมีการตั้งโจทย์ที่ชัดเจน
2. มีการสื่อสารกับผู้เข้าร่วมด้วยคำอธิบายที่ฟังง่าย กระชับ อาจจะใช้การเขียนในกระดาษแผ่นโต ๆ ด้วยตัวอักษรโตๆ
3. มีทีมงานที่ได้รับการฝึกฝน ผ่านการสร้างความเข้าใจร่วมกันมาแล้ว
4. มีการแบ่งบทบาทหน้าที่ในการทำงานอย่างชัดเจน เช่น ฝ่ายดำเนินเวที ฝ่ายจดบันทึก ฝ่ายสรุป ประมวลประเด็นสำคัญ และเชื่อมโยงการสังเคราะห์ได้อย่างเป็นธรรมชาติ
5. บรรยากาศของเวทีที่มีความพอดีระหว่างความเป็นกันเองกับความเป็นทางการ
6. สถานที่ควรห่างไกลเส้นทางสัญจร
7. มีการจัดการด้านต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวก/การบริการอาหาร และเครื่องดื่ม
เป็นต้น
ขอให้ทุกท่านติดตามตอนต่อไป
smile
ไม่มีความเห็น