การเลือกหัวข้อเรื่องที่จะทำโครงงานเป็นการดำเนินงานที่ต้องตัดสินใจทำโครงงานให้บรรลุตามจุดประสงค์ที่กำหนดไว้ มีองค์ประกอบที่สำคัญดังนี้ คือ
1. การเลือกหัวข้อเรื่องโครงงาน
2. การศึกษาข้อมูลโครงงาน
3. การวิเคราะห์โครงงาน
1. การเลือกหัวข้อเรื่องโครงงาน
มีหลักการพิจารณาดังนี้
สำรวจความถนัด ความพร้อมและความสนใจ
สำรวจสิ่งอำนวยความสะดวก
สังเกตสภาพแวดล้อม
1.1 สำรวจความถนัด ความพร้อมและความสนใจ หมายถึง การพิจารณาตนเองว่ามี
ความถนัด ความพร้อมและความสนใจที่จะทำโครงงานในเรื่องที่ตนเองมีความชอบและรักกที่จะทำอย่างแท้จริง โดยสำรวจตนเอง ดังนี้ คือ
- เคยเรียนวิชาใด หรือมีความรู้ในวิช่างต่าง ๆ ที่จะทำโครงงานหรือไม่ผลการเรียนหรือเคยฝึกงาน มีประสบการอย่างไรบ้าง
- ปรึกษาครู อาจารย์ฝ่ายแนะแนว หรือครู อาจารย์ที่ตนเองสนใจในวิชานั้น เพื่อขอทราบรายละเอียดความชอบ ความถนัด หรือบกพร่องในสิ่งใด สำหรับนำมาประกอบการตัดสินใจเลือกหัวข้อโครงงาน
- เคยชอบและรักที่จะทำเรื่องใดมาบ้าง หรือเมื่อทำมาแล้ว ได้รับความสำเร็จหรือล้มเหลวในงานที่ทำหรือไม่
เมื่อได้สำรวจตนเองดังหัวข้อดังกล่าว จึงเรียงลำดับความสำคัญของชื่อโครงงานที่จะทำ
1.2 สำรวจสิ่งอำนวยความสะอาด หมายถึง การสำรวจข้อมูลต่าง ๆ ที่จะอำนวยความสะดวกให้การทำโครงงานได้ดำเนินไปอย่างราบรื่น ทำให้โครงงานได้รับความสำเร็จด้วยดี ได้แก่
- เครื่องมือและวัสดุอุปกรณ์
- การสนับสนุนของเพื่อนร่วมงาน
- สถานที่ปฏิบัติงาน
- เงินค่าใช้จ่าย เพื่อศึกษาพัฒนาเพิ่มเติม
1.3 สังเกตสภาพแวดล้อม หมายถึง การสังเกตสิ่งต่าง ๆ ที่อยู่ใกล้สภาพแวดล้อมที่จะดำเนินงานตามโครงงาน มีผลกระทบต่อโครงงานที่ทำให้เกิดผลดีหรือเสียหาย และเอื้ออำนวยต่อการปฏิบัติงานอย่างไร ได้แก่
- การขยายโครงงาน ทำได้หรือไม่เพียงใด
- ระยะทางและการเดินทางไปปฏิบัติงาน
- ผลกระทบที่มีต่อสภาพแวดล้อมและแนวทางแก้ไข สภาพปัญหาของโครงงาน
สรุปแล้ว การเงือกหัวข้อโครงงานนั้น จะต้องจัดลำดับหัวข้อเรื่องที่จะเลือกหลาย ๆ หัวข้อ โดยพิจารณาจากหัวข้อที่ตนเองมีความรู้ ความถนัด ความพร้อมและความสนใจในงานนั้น ๆ มากท่าสุดรวมทั้งการหาแนวทางที่จะขจัดปัญหาต่าง ๆ โดยการจัดสิ่งอำนวยความสะดวกไว้ให้พร้อม และผลกระทบต่าง ๆ จากสภาพแวดล้อมที่อยู่ข้างเคียง
2. การศึกษาข้อมูลโครงงาน
การศึกษาข้อมูลโครงงาน เป็นงานที่สนับสนุนให้งานที่ปฏิบัติสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี ทำให้เกิดแนวความคิดและประสบการณ์อย่างหลากหลาย โดยการศึกษาหาข้อมูลได้จากแหล่งต่าง ๆ ดังนี้
2.1 การศึกษาเยี่ยมชมกิจการตามแหล่งวิชาการต่าง ๆ เช่น ฟาร์มเลี้ยงสัตว์ สวนผัก สวนผลไม้ สวนดอกไม้ประดับ วนอุทยาน สถานีวิจัยทางการเกษตร สถานีทดลองพืชไร่ พืชสวน ศูนย์ธุรกิจการค้าต่าง ๆ โรงงานอุตสาหกรรม ศูนย์ศิลปาชีพ บริษัทร้านค้าต่าง ๆ ฯลฯ
2.2 การฟังคำบรรยายทาวิชาการจากที่ประชุมสัมมนาต่าง ๆ ที่จัดโดยทางราชการหรือเอกชน รวมทั้งการฟังวิทยุ และโทรทัศน์ด้วย
2.3 การศึกษาผลงานของผู้อื่นที่ทำไว้แล้ว
2.4 การสนทนากับเพื่อน หรือครูอาจารย์ที่ปรึกษาและวิทยากรอื่น ๆ
2.5 การเข้าชมนิทรรศการต่าง ๆ ทั้งของโรงเรียนที่จัดและงานมหกรรมต่างๆ
เช่น งานศิลปหัตถกรรมและอาชีวศึกษาของกระทรวงการศึกษาธิการ เป็นต้น
2.6 การสังเกตสิ่งที่พบเห็นในชีวิตประจำวันหรือธรรมชาติรอบตัว
2.7 งานอดิเรกที่ตนเองชอบตนเองชอบและทำอยู่ หรือกิจกรรมการเรียน
สอนในโรงเรียน
3. การวิเคราะห์โครงงาน
การวิเคราะห์โครงงานอาจพิจารณาหัวข้อต่าง ๆ จากรายการข้างล่างนี้ โดยตัวนักเรียนหรือกลุ่มที่จะทำโครงงาน เป็นผู้วิเคราะห์จากโครงงานที่ตนเอง หรือกลุ่มกำหนดไว้อย่างหลากหลายโครงงาน แล้วเลือกเอาโครงงานที่ตนเองเห็นว่าน่าจะทำที่สุด โดยให้คะแนน 1, 2, 3 หรือ 4 ตามความเห็นชอบแล้วนำมารวมตัวเลขหากคะแนนที่ได้ที่จำนวนสูงกว่าโครงงานอื่น ก็ควรพิจารณาจัดทำต่อ
ดีมากครับ โครงงานส่วนใหญ่เกิดจากครู ไม่ใช่เด็กครับ ครูเก่งเด็กก็เพียงฝึกนำเสนอเท่านั้น
มือใหม่หัดทำบล็อกค่ะ ผอ.
ครูก็ได้เรียนรู้ไปพร้อม ๆ ก้บเด็ก ๆ ค่ะ ทั้งเรื่องเว็บบล็อก และเรื่องโครงงาน
ดีมาก ๆ
พอดีเพิ่งหัดทำโครงงานวิจัยส่งอาจารย์อยู่อ้ะค้ะ แล้วหนูเลือกเกี่ยวกับการทดลองของจากเดิมที่ดีอยู่แล้วให้พัฒนาไปอีก หนู่อยากทราบว่าต้องทำโครงงานเป้นรูปเล่มทำยังไงค้ะ
ดีมากๆเลยค่ะเข้าใจง่าย
อยากจะทราบว่า พอจะมีเว็ปไหนบ้างครับ ที่มีชื่อโครงงานทั้งหมด