คำถามเดียวที่ผู้เขียนมักถูกถามอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นคำถามที่ถามโดยตรงกับตัวผู้เขียน หรือคำถามที่ถามผ่านทางเว็บไซต์ ที่ผู้เขียนได้นำเสนอบทคัดย่อเกี่ยวกับ “ความรู้สึกเชิงจำนวน” รวมทั้งการนำเสนอผลงานวิจัยบนเวทีในสถาบันการศึกษาต่าง ๆ หลายสถาบัน คำถามนั้นก็คือ “ความรู้สึกเชิงจำนวนคืออะไร” ต้องย้อนกลับไปทำความเข้าใจหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2544 ที่ได้กำหนดคุณภาพของผู้เรียนในกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ว่า เมื่อผู้เรียนเรียนจบการเรียนช่วงชั้นที่ 1 ผู้เรียนควรจะมีความสามารถด้านความคิดรวบยอดและความรู้สึกเชิงจำนวนเกี่ยวกับจำนวนนับและศูนย์ และการดำเนินการของจำนวน สามารถแก้ปัญหาเกี่ยวกับการบวก การลบ การคูณ และการหารจำนวนนับ พร้อมทั้งตระหนักถึงความสมเหตุสมผลของคำตอบที่ได้ (สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. 2546 : 2) ผู้เขียนในฐานะที่เป็นครูสายปฏิบัติการสอน ในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 จึงได้พยายามศึกษาหลักสูตรดังกล่าว เพื่อนำหลักการไปปฏิบัติสู่ตัวเด็ก และก็ต้องมาสะดุดอยู่กับคำว่า “ความรู้สึกเชิงจำนวน” ซึ่งคำถามแรกที่เกิดขึ้นใจของผู้เขียนก็ไม่ต่างไปจากคำถามข้างต้นที่ว่า “ความรู้สึกเชิงจำนวนคืออะไร” และนั่นคือจุดเริ่มต้นของการศึกษาความรู้สึกเชิงจำนวนอย่างจริงจัง โดยการศึกษาต่อในระดับปริญญาโท และทำวิทยานิพนธ์เกี่ยวกับความรู้สึกเชิงจำนวน ทำให้ผู้เขียนพอจะมีความรู้เกี่ยวกับความรู้สึกเชิงจำนวนในระดับหนึ่ง จึงอยากฝากบอกกล่าวกับครูไทยทุกท่านว่าอย่ากังวล เพราะว่า “ความรู้สึกเชิงจำนวน” เป็นสิ่งที่คุ้นเคยและอยู่คู่กับครูไทยมาโดยตลอด โดยที่ครูไม่ทราบว่าวิธีการที่ครูได้ใช้สอนนักเรียนมาตลอดชีวิตของความเป็นครูนั้น คือ คำตอบที่ครูถามหาความหมายนั่นเอง“ความรู้สึกเชิงจำนวน” นับว่าเป็นคำใหม่ ที่ครูส่วนใหญ่ยังไม่คุ้นเคย ตรงกับภาษาอังกฤษว่า Number Sense ซึ่งในภาษาไทยมีผู้ใช้คำต่าง ๆ กัน เช่น ความรู้สึกเชิงจำนวน สำนึกเกี่ยวกับจำนวน การหยั่งรู้เกี่ยวกับจำนวนซึ่งมีความหมายเดียวกัน มีนักการศึกษาได้ให้ความหมายไว้หลายทัศนะ เช่น นพพร แหยมแสง (2544 : 3-4) ได้ให้ความหมายของความรู้สึกเชิงจำนวน (Number Sense) ไว้ว่า ความรู้สึกเชิงจำนวน หมายถึง การรับรู้เกี่ยวกับจำนวนในหลาย ๆ ด้าน คือ ความเข้าใจความหมายของการใช้จำนวน ทั้งด้านจำนวนเชิงการนับ (Cardinal Number) และจำนวนเชิงอันดับที่ (Ordinal Number) การรู้ความสัมพันธ์ระหว่างจำนวน ความเข้าใจขนาดสัมพัทธ์ของจำนวน ความสามารถในการใช้ประสบการณ์มาเป็นเกณฑ์ในการอ้างอิงความเป็นไปได้ของการวัด และความสามารถในการคิดคำนวณในใจได้อย่างยืดหยุ่น กรมวิชาการ (2545 : 219) ให้ความหมายของความรู้สึกเชิงจำนวนไว้ว่า เป็นสามัญสำนึกและความเข้าใจเกี่ยวกับจำนวนที่อาจพิจารณาในด้านต่าง ๆ เช่น เข้าใจความหมายของจำนวนที่ใช้บอกปริมาณ เข้าใจความสัมพันธ์ที่หลากหลายของจำนวนใด ๆ กับจำนวนอื่น ๆ เข้าใจเกี่ยวกับขนาดหรือค่าของจำนวนใดๆ เมื่อเปรียบเทียบกับจำนวนอื่น เข้าใจผลที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับการดำเนินการของจำนวนและการใช้เกณฑ์จากประสบการณ์เทียบเคียงถึงความสมเหตุสมผลของจำนวน สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (2545 ก : 2-19) ได้ให้ความหมายของความรู้สึกเชิงจำนวนที่ครูควรพัฒนาดังนี้ คือ 1) ความเข้าใจจำนวนทั้งจำนวนเชิงการนับ และจำนวนเชิงอันดับที่ 2) ความเข้าใจความสัมพันธ์หลากหลายระหว่างจำนวน 3) ความเข้าใจขนาดสัมพัทธ์ของจำนวน 4) การรู้ผลสัมพัทธ์ของการดำเนินการ5) ความสามารถในการพัฒนาสิ่งอ้างอิงในการหาปริมาณของสิ่งของและสถานการณ์ในสิ่งแวดล้อมของนักเรียน 6) ความสามารถในการคิดคำนวณในใจได้อย่างยืดหยุ่น และ 7) ความสามารถในการประมาณค่า นอกจากนี้ นักการศึกษาคณิตศาสตร์อีกหลายท่าน ได้ให้ความหมายของ ความรู้สึกเชิงจำนวน ไว้ใกล้เคียงกัน สรุปได้ว่า ความรู้สึกเชิงจำนวนเป็นความรู้สึกที่เกิดขึ้นเองภายในของแต่ละคน เป็นความเข้าใจที่หลากหลายของจำนวนใด ๆ กับจำนวนอื่น ๆ และเข้าใจผลที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับการดำเนินการของจำนวนนั้น ๆ รวมถึงความสามารถในการคิดคำนวณในใจได้อย่างถูกต้องสมเหตุสมผลและมีประสิทธิภาพ หรืออีกความหมายหนึ่ง คือ เป็นความรู้สึกที่เข้าใจอย่างทันทีทันใดเกี่ยวกับจำนวนและตัวเลขในแง่ของการตีความหมายและการใช้ในสถานการณ์ต่าง ๆ ความชื่นชอบในความถูกต้องของการใช้สัญลักษณ์ในระดับต่าง ๆ ความสามารถในการบ่งบอกถึงความผิดพลาดของเลขคณิตและสามัญสำนึกในการใช้จำนวนและตัวเลขจากความหมายของความรูสึกเชิงจํานวน ที่ไดกล่าวมาแล้วจะเห็นได้ว่า ความรูสึกชิงจํานวนนั้น มีความเกี่ยวของกับการเรียนการสอนในวิชาคณิตศาสตรเป็นอยางมาก เช่น ฮาวเดน (อุษา คงทอง. 2539 : 9-10 ; อางอิงมาจาก Howden. 1989 : 6-7) ไดกลาววา ความรูสึกเชิงจํานวน สรางขึ้นภายในความคิดของนักเรียนอยางเปนธรรมชาติ ทําใหเกิดความมั่นใจในคณิตศาสตรวาเปนวิชาที่เขาใจได มีเหตุมีผล ไมใชการจํากฏเกณฑตาง ๆ ไปใชเทานั้น เชน นักเรียนที่สามารถตัดสินใจวาคําตอบที่ไดจากการคํานวณของตนนั้นมีความสมเหตุสมผล และตระหนักวามีวิธีการหาคําตอบไดมากกวาหนึ่งวิธี จะเกิดความมั่นใจในความสามารถของตนในการเรียนคณิตศาสตร นอกจากนี้ยังมีการวิจัยที่พบว่า ความมั่นใจการเรียนคณิตศาสตรมีอิทธิพลตอการตัดสินใจศึกษาคณิตศาสตรตอในอนาคตของนักเรียน รีสและคณะ (Reys and others. 1991 : 3-5) กลาวสนับสนุนว่าผูที่มีความรูสึกเชิงจํานวน
จะสามารถนําจํานวนไปใชในชีวิตประจําวันไดอยางมีประสิทธิภาพและเหมาะสมตามสถานการณ สามารถนําไปใชในการคิดคํานวณในใจ การแกโจทยปญหา การคิดขั้นสูง การประมาณ และสามารถพิจารณาความสมเหตุสมผลไดโรเนา (Ronau. 1998 :437) ไดกลาวถึงความสําคัญของความรูสึกเชิงจํานวน ทางดานจํานวนที่มีค่ามาก ๆ วาความรูสึกเชิงจํานวนเปนพื้นฐานสําคัญของความสําเร็จใน การประมาณคาในการหาคาใกลเคียงและการแกปญหาในปจจุบัน การพัฒนาความรูสึกเชิงจํานวนที่มีค่ามาก ๆ เป็นสิ่งจําเปนอยางยิ่งเพราะวาหนังสือพิมพ โทรทัศนและรายงานขาวตาง ๆ มักจะอางอิงถึงจํานวนที่มีคามาก ๆ อยูเสมอจึงสมควรอยางยิ่งที่จะมีการสงเสริมใหนักเรียนไดมีความรูสึกเชิงจํานวนโดยเฉพาะนักเรียนในระดับมัธยมศึกษาความรูสึกเชิงจํานวน มีคุณคาและมีความสําคัญ จึงตองมีการพัฒนาและบรรจุไวในหลักสูตร ดังการเสนอของนักการศึกษาหลายทานในหนังสือ Everybody Counts (NationalResearch Council. 1989 : 46) ที่กล่าวว่า ความรูสึกเชิงจํานวนเป็นจุดประสงคที่สําคัญของการเรียนคณิตศาสตร ในระดับชั้นประถมศึกษา นอกจากนั้นสภาครูคณิตศาสตรแหงชาติของสหรัฐอเมริกา (The National Council Teachers of Mathematics หรือ NCTM) ไดออกหนังสือลงมาตรฐานหลักสูตรและการประเมินผลคณิตศาสตรในโรงเรียน (Curriculum and Evaluation Standards for School Mathematics) โดยใหเนนและใหความสําคัญกับความรูสึกเชิงจํานวนตั้งแตระดับอนุบาลถึงระดับมัธยมศึกษา และแมคอินทอช (Mclntosh. 1997 : 3) ได้ใหความเห็น
วา โรงเรียนควรจะใหความสําคัญในการพัฒนาความรูสึกเชิงจํานวนของนักเรียนอย่างยิ่ง สำหรับในประเทศไทยนั้น คูมือการจัดการเรียนรูกลุมสาระการเรียนรู
คณิตศาสตร ไดใหความสําคัญกับการพัฒนาความรูสึกเชิงจํานวนของนักเรียน
โดยกําหนดไวในมาตรฐานการเรียนรูชวงชั้น ประถมศึกษาปที่ 1-6 (สถาบัน
ส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตรและ เทคโนโลยี. 2545 ข : 8) เช่นกันนักการศึกษาหลายทานและหลายกลุมของนักคณิตศาสตรศึกษา มีความเห็นรวมกันวา ความรูสึกเชิงจํานวน ควรสงเสริมใหนักเรียนไดมีการพัฒนา เพราะวาเปนสิ่งที่สงเสริมความสามารถในการเรียนคณิตศาสตรของนักเรียนในดานตาง ๆ ดังเชน ความสามารถในการคิดคํานวณในใจอยางยืดหยุน ความสามารถในการประมาณคา ความสามารถในการแกโจทย ปญหา ความสามารถในการนําคณิตศาสตรไปใชในชีวิตประจําวัน ความสามารถในการพิจารณา ความสมเหตุสมผลของคําตอบ และนอกจากนี้ความรูสึกเชิงจํานวนยังมีความสําคัญกับเจตคติของ นักเรียน คือ ชวยสรางให
นักเรียนเกิดความมั่นใจในความสามารถของตนในการเรียน คณิตศาสตร ซึ่งมีความสําคัญตอการเรียนคณิตศาสตรในระดับสูงตอไป ซึ่งการพัฒนาความรู้สึกเชิงจำนวนดังกล่าว เป็นสิ่งที่สามารถพัฒนาให้เกิดขึ้นกับนักเรียนทุกช่วงวัยได้ ดังนั้นครูผู้สอนจึงควรจัดรูปแบบการเรียนการสอนเพื่อพัฒนาความรู้สึกเชิงจำนวน เพื่อให้นักเรียนเกิดความคิดรวบยอดและความเข้าใจที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับจำนวน อันเป็นพื้นฐานในการเรียนคณิตศาสตร์ในระดับที่สูงขึ้นต่อไปสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (2545 ก : 2-19) แบ่งความรู้สึกเชิงจำนวนออกเป็น 7 องค์ประกอบ ดังนี้
2.1. ความเข้าใจจำนวนทั้งจำนวนเชิงการนับ และจำนวนเชิงอันดับที่ หมายถึงนักเรียนสามารถบอกจำนวนของสิ่งต่างๆที่กำหนด (จำนวนเชิงการนับ) จำนวนที่ใช้สำหรับจัดสิ่งของตามลำดับ (จำนวนเชิงอันดับที่) และนักเรียนเห็นความเชื่อมโยงระหว่างจำนวนสิ่งของ ตัวเลขแสดงจำนวน และค่าประจำหลัก
ดังตัวอย่าง(0) 48 ตัวเลขลำดับที่ 2 จากด้านขวามีค่าเท่าใด ก. 4 ข. 40 ค. 48
(00) 29 35 34 จำนวนใดมีค่ามากเป็นอันดับที่ 2 ก. 29 ข. 34 ค. 35
2.2 ความเข้าใจความสัมพันธ์หลากหลายระหว่างจำนวน หมายถึงนักเรียนสามารถแสดงความคิดที่หลากหลายเกี่ยวกับจำนวน สิ่งที่นักเรียนแสดงความคิดออกมาสามารถบ่งบอกความรู้สึกเชิงจำนวนที่แตกต่างกัน ความรู้สึกเชิงจำนวนที่ดีย่อมแสดงความคิดเกี่ยวกับจำนวนได้อย่างหลากหลาย
ดังตัวอย่าง (0) 34 รูปแบบใดต่อไปนี้ที่ถูกต้อง
ก. 34 เท่ากับ 2 สิบ กับ 4 หน่วย
ข. 34 เท่ากับ 4 สิบ กับ 4 หน่วย
ค. 34 เท่ากับ 2 สิบ กับ 14 หน่วย
(00) 9 ข้อใดถูกต้องที่สุด
ก. มากกว่า 7 อยู่ 3 ข. น้อยกว่า 10 อยู่ 3 ค. 3 เท่าของ 3
2.3. ความเข้าใจขนาดสัมพัทธ์ของจำนวน หมายถึง ความสามารถในการเปรียบเทียบค่าของจำนวนที่กำหนดให้ว่าจำนวนใดมีค่ามากกว่า หรือน้อยกว่า หรือเท่ากับและพิจารณาจำนวนจำนวนหนึ่งว่ามีค่าใกล้เคียงจำนวนใดจากจำนวนที่กำหนด ดังตัวอย่าง
(0) 49 8 15 จำนวนใดมีค่าน้อยที่สุด
ก. 49 ข. 15 ค. 8
(00) 50 48 49 56 52 จำนวนมีค่าใกล้เคียงกันมากที่สุด
ก. 50 กับ 52 ข. 49 กับ 56 ค. 48 กับ 49
2.4 การรู้ผลสัมพัทธ์ของการดำเนินการ หมายถึง ความสามารถทำความเข้าใจ
ปัญหา เลือกและตัดสินใจว่าจะใช้การดำเนินการแบบใดในการแก้ปัญหา วางแผนการแก้ปัญหาและสามารถพิจารณาความสมเหตุสมผลของการหาคำตอบ ดังตัวอย่าง
(0) 9 5 2 12 ใส่เครื่องหมายใดลงในช่อง ถูกต้องที่สุด
ก. , ข. , ค. ,
(00) 50 2 5 = 20 ใส่เครื่องหมายใดลงในช่อง ถูกต้องที่สุด
ก. , ÷ ข. , ค. ,
2.5 ความสามารถในการพัฒนาสิ่งอ้างอิงในการหาปริมาณของสิ่งของและสถานการณ์ต่าง ๆ ในสิ่งแวดล้อมของนักเรียน หมายถึง ความสามารถในการใช้ประสบการณ์มาเป็นตัวอ้างอิง เพื่อหาปริมาณของสิ่งของ และสถานการณ์ต่างๆ ในสิ่งแวดล้อมของนักเรียน รวมทั้งใช้พิจารณาความสมเหตุสมผลของคำตอบจากปัญหาต่าง ๆ ดังตัวอย่าง
(0) นักเรียนสามารถยกเหรียญบาทจำนวน 100,000 เหรียญ ได้หรือไม่ เมื่อเหรียญบาท 100 เหรียญ หนัก 1 กิโลกรัม
ตอบ ........................................
2.6 การคิดคำนวณในใจอย่างยืดหยุ่น หมายถึง นักเรียนสามารถใช้กลวิธีการคิดคำนวณภายในใจอย่างรวดเร็วโดยใช้กระบวนการคิดเท่านั้น เพื่อให้ได้คำตอบที่ถูกต้อง โดยปราศจากการใช้กระดาษ ดินสอ เทคโนโลยี หรือเครื่องมืออื่นใดมาช่วยในการคำนวณ ด้วยการใช้กลวิธีการคิดคำนวณได้อย่างยืดหยุ่น ดังตัวอย่าง
(0) ข้อใดเท่ากับ 25
ก. (15 8) 2 ข. (15 8) 2 ค. (15 8) 2
(00) (25 10) 5 =
ก. 235 ข. 245 ค. 255
2.7 การประมาณค่า หมายถึง นักเรียนมีความสามารถในการหาคำตอบ โดยประมาณอย่างรวดเร็ว การคำนวณด้วยการปัด การใช้จุดอ้างอิง การประมาณโดยใช้เทคนิค หน้า-หลังและการประมาณช่วงคำตอบ ซึ่งมีค่าใกล้เคียงพอที่จะยอมรับได้ตามสถานการณ์นั้น ๆโดยไม่จำเป็นต้องได้คำตอบที่ถูกต้อง (Exact Answer) ดังตัวอย่าง
(0) 12 11 มีค่าประมาณเท่าใดใกล้เคียงที่สุด
ก. 12 ข. 14 ค. 132
(00) 408 419 มีค่าประมาณเท่าใดใกล้เคียงที่สุด
ก. 800 ข. 900 ค. 1,000
ท่านเชื่อหรือยังว่า ความรู้สึกเชิงจำนวน เป็นสิ่งที่ครูคุ้นเคยและอยู่คู่กับการจัดกิจกรรม
การเรียนการสอนของครูไทยมาโดยตลอด เพียงแต่ครูไทยยังไม่ได้ทำความเข้าใจกับความรู้สึก
เชิงจำนวนอย่างจริงจัง ว่าสิ่งที่กำลังสอนอยู่นั้น เป็นการสอนความรู้สึกเชิงจำนวนในด้านใด
เท่านั้นเอง หากครูไทยพยามศึกษาและหันมาให้ความสนใจกับความรู้สึกเชิงจำนวน พร้อมกับจัดกิจกรรมการเรียนการสอนที่สอดแทรกความรู้สึกเชิงจำนวนในแต่ละด้านอย่างเป็นระบบ มีขั้นตอน นักเรียนก็จะมีความรู้สึกเชิงจำนวนอย่างเป็นระบบตามไปด้วย ซึ่งการพัฒนาความรู้สึกเชิงจำนวนนั้น ควรฝึกนักเรียนอย่างสม่ำเสมอและทุกครั้งที่มีโอกาส ไม่เฉพาะในสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์เท่านั้น ในสาระการเรียนรู้อื่นก็สามารถสอดแทรกได้ตลอดเวลา โดยอาจสอดแทรกให้บูรณาการกับเรื่องที่เรียนในสาระการเรียนรู้อื่นอย่างกลมกลืน แล้วคำถามข้างต้นที่ถามว่า “จริงหรือ....ที่ครูไทยไม่รู้จักความรู้สึกเชิงจำนวน” ก็สามารถหาคำตอบในตัวของมันเองได้ โดยไม่ต้องอาศัยการตอบคำถามจากใครอีกต่อไป
บรรณานุกรม
กรมวิชาการ. หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2544 สาระและมาตรฐานการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์. กรุงเทพฯ : องค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์,2545.
นพพร แหยมแสง. การพัฒนาสำนึกเกี่ยวกับจำนวนสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2.ปริญญานิพนธ์ กศ.ด. กรุงเทพฯ : มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร, 2544.
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. การจัดสาระการเรียนรู้ กลุ่มคณิตศาสตร์ช่วงชั้นที่ 1-2 หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน. พิมพ์ครั้งที่ 2 . กรุงเทพ : กราฟฟิค โกร,2546.
________. เอกสารเสริมความรู้ทางคณิตศาสตร์ เรื่อง ความรู้สึกเชิงจำนวน. กรุงเทพฯ : เอส. พี.เอ็ม. การพิมพ์, 2545.
อุษา คงทอง. ผลของสำนึกทางด้านจำนวนและตัวแปรคัดสรรค์ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทาง
การเรียนคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาตอนต้น. วิทยานิพนธ์ ค.ด.
กรุงเทพฯ : จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2539.
McIntosh, A, B. J. Reys, and RE Reys. “Mental Computation in The Middle Grades :
The importance of Thinking Strategies,” Mathemating Teaching in the Middle
School. 2(5) : 322-327, 1997.
Reys, R.E. and others. “Early Development of Number sense and Counting,” Helping
Chidren Learn Mathematics. 3rd ed. Boston : Simpn and Schusterp, 1991.
Ronau, R. N. “Number sense Mathematics Teach,” Arithmetic Teacher. 81(6) : 437-440 ;September, 1998.
ดีจัง เป็นศัพท์ใหม่ที่เพิ่งเจอ ให้ความรู้สึกที่ดีมากค่ะ ในบรรทัดแรกๆ ที่อ่านศิริวรรณเข้าใจว่าเป็น ความรู้สึกต่อสิ่งต่างๆ ที่เอาจำนวนมาจับ เช่น เมื่อเห็นคนอ้วน/ผอม ก็นึกถึงน้ำหนักตัวอาจในเชิงเปรียบเทียบหรือเชิงใดๆ ตามแต่ประสบการณ์ของแต่ละบุคคล เมื่อเห็นฝนตกหนักมากหนักน้อยก็อาจนึกถึงปริมาณเม็ดฝนในรูปร้อยละของพื้นที่หรือปริมาณน้ำฝนที่จะเก็บหรือรองไว้ได้ว่ากี่ตุ่มกี่ถัง หรือเวลากำลังเล่นเน็ต อยู่ๆก็ช้าลงๆ ก็ชวนให้คิดถึงความเร็วของเน็ตว่าเป็นเท่าไร เต็มตามโฆษณาหรือเปล่า
ขอบคุณนะคะ สำหรับความรู้ใหม่(ของศิริวรรณค่ะ)
ต้องขอขอบคุณ คุณศิริวรรณมาก ๆ เลยค่ะที่แวะเข้ามาให้กำลังใจ ความเข้าใจของท่านอาจเข้าค่ายความรู้สึกเชิงจำนวนในข้อ 2.5
คือ ความสามารถในการพัฒนาสิ่งอ้างอิงในการหาปริมาณของสิ่งของ และสถานการณ์ต่าง ๆ ในสิ่งแวดล้อมที่เป็นอยู่ ก็ได้ค่ะ
เขามาดู เพราะได้ข้อสังเกตจากคณะกรรมการตรวจผลงานทางวิชาการ คศ.3 ดังนี้ จำนวนเชิงอันดับ หน้า 42 สรุปไม่ถูกต้อง ดังนี้ค่ะ
ลักษณะของจำนวน มี 3 ลักษณะ ดังนี้ คือ
1. จำนวนนับ เป็นการเริ่มต้นนับจากจำนวน 1,2,3 ...จำนวน 0 (ศูนย์)ไม่เรียกจำนวนนับ2. จำนวนเชิงนับ เป็นการนับเพื่อทราบจำนวน เช่น ผีเสื้อ 3 ตัว 3 เป็นจำนวนเชิงนับ3. จำนวนเชิงอันดับที่ เป็นการนับเพื่อทราบตำแหน่งหรืออันดับที่ เช่น หนูแดงเป็นบุตรคนที่ 4 4 เป็นจำนวนเชิงอันดับที่
สรุปได้ว่า จำนวนเป็นนามธรรมใช้แสดงปริมาณ จำนวนมี 3 ลักษณะ คือ
จำนวนนับ จำนวนเชิงนับ จำนวนเชิงอันดับ
จะแก้ใหม่ โดยสรุปว่า จำนวนเป็นนามธรรมใช้แสดงปริมาณ จำนวนมี 3 ลักษณะ คือ จำนวนนับ จำนวนเชิงนับ (หรือเชิงการนับ) จำนวนเชิงอันดับที่
ได้โปรดช่วยหน่อยนะคะ ไม่ได้เอกคณิตฯ แต่สอนคณิต และค้นคว้าศึกษาหาความรู้ด้วยตนเอง และสอนสอนเสริมวิชาการเด็กพิเศษเรียนร่วมและเสนอผลงานขอ คศ.3 ด้วยค่ะ กำลังปรับปรุง(คณิต)
ขอขอบคุณสำหรับความรู้ที่ได้ค้นพบที่นี่มากๆๆ ค่ะ