รูปแบบการประเมินโครงการทางการศึกษา มีอยู่ทั้งหมด 4 รูปแบบ คือ
1. รูปแบบที่ยึดจุดมุ่งหมายเป็นหลัก แนวคิดนี้ คือ ไทเลอร์(Tyler) แฮมมอนด์(Hammond) ตาบา(Taba)และ เมทเฟสเซลและไมเคิล(Metfesel and Michael)
2. รูปแบบที่ยึดเกณฑ์ภายนอกเป็นหลัก ได้แก่ สครีพเว่น(Scriven) และของ สเตก(Stake) เป็นรูปแบบที่ใช้ตัดสินคุณค่า
3. รูปแบบที่ยึดเกณฑ์ภายในเป็นหลัก ได้แก่ รูปแบบของสมาคมภาคกลางเหนือของอเมริกา
4. รูปแบบที่ช่วยในการตัดสินใจ เป็นรูปแบบการประเมินที่ช่วยในการหาข้อมูล เพื่อช่วยในการตัดสินใจของผู้บริหารในการดำเนินงานของโครงการ ได้แก่ รูปแบบการประเมินของสตัฟเฟิลบีม(Stufflebeam) ของอัลคิล(Alkin)และโพรวัส(Provous)
แต่ละรูปแบบมีข้อจำกัดและลักษณะแตกต่างกัน
รูปแบบการประเมินแบบซิป(CIPP Model)
มีจุดมุ่งหมายเพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลข้อมูลหรือสารสนเทศ เพื่อนำไปใช้ในการตัดสินใจหาทางเลือกที่เหมาะสม ในการประเมินนั้นมุ่งประเมินจากสิ่งที่ประเมิน 4 ประการ
1. สภาวะแวดล้อม(context) เพื่อพัฒนาจุดมุ่งหมายของโครงการ
2. ปัจจัยเบื้องต้น(input) เพื่อออกแบบโครงการ
3. กระบวนการ(process) เพื่อประเมินขั้นตอนในการดำเนินการตามโครงการ
4. ผลผลิต(product)เพื่อประเมินผลสัมฤทธิ์ตามโครงการ
วิธีการประเมินสภาวะแวดล้อมมี 2 วิธี คือ
1. การประเมินสภาวะแวดล้อม เพื่อหาโอกาสและแรงผลักดันจากภายนอกระบบ(contingency Mode) เพื่อให้ได้ข้อมูลมาพัฒนาส่งเสริมโครงการให้ดีขึ้น
คำถามที่ใช้ในการประเมินสภาวะแวดล้อมแบบ(contingency Mode) คือคำถามประเภท"ถ้า......แล้ว..."
2. การประเมินโดยการเปรียบเทียบ ระหว่างปฏิบัติจริง(Attual result) กับวัตถุประสงค์ที่วางไว้(Congruence Mode) การประเมินแบบนี้ทำให้เราทราบว่าวัตถุประสงค์ใดบ้างที่ไม่สามารถจะบรรลุได้
การประเมินปัจจัยเบื้องต้น(Input Evaluation)
1. ความสามารถของหน่วยงานหรือตัวแทนในการจัดการโครงการ
2. ยุทธวิธีที่ใช้ในการบรรลุวัตถุประสงค์ของโครงการ
3. การให้ได้รับความช่วยเหลือในด้านต่างๆซึ่งจะช่วยให้โครงการดำเนินไปได้
ผลที่ได้จากการประเมิน คือ การวิเคราะห์รูปแบบวิธีการที่ใช้ในรูปของราคาและกำไรที่จะได้รับ(cost and benefit)
รูปแบบของคำถาม เช่น วัตถุประสงค์จะกำหนดวิธีการด้หรือไม่และจะประสบความสำเร็จหรือไม่ฯลฯ โดยคำถามที่จะใช้มีตั้งแต่ระดับกว้างๆและคำถามเฉพาะ
การประเมินกระบวนการจำเป็นต้องได้รับการเตรียมการเพื่อให้ได้ข้อมูลย้อนกลับ(Feedback) แก่ผู้รับผิดชอบและผู้ดำเนินการทุกลำดับขั้น การประเมินกระบวนการมีวัตถุประสงค์ 3 ประการ คือ
1. เพื่อหาและทำนยข้อบกพร่องของกระบวนการหรือการดำเนินการตามขั้นตอนที่วางไว้
2. เพื่อรวบรวมสารสนเทศสำหรับผู้ตัดสินใจวางแผนงาน
3. เพื่อเป็นรายงานสะสมถึงการปฏิบัติต่างๆที่เกิดขึ้น
ยุทธวิธีในการประเมินกระบวนการ
1. แสดงให้เห็นหรือกระตุ้นเตือนถึงศักยภาพของทรัพยากร ที่ทำให้เกิดความล้มเหลวในโครงการ
2. เกี่ยวกับการวางโครงการและการตัดสินก่อนวางแผน โดยผู้อำนวยการโครงการ ระหว่างการดำเนินการโครงการนั้น
3. บอกลักษณะสำคัญใหญ่ๆของโครงร่าง โครงการ
ส่วนประกอบที่เป็นหัวใจสำคัญของการประเมินกระบวนการ
1. การจัดหานักประเมินกระบวนการเต็มเวลา
2. เครื่องมือที่เป็นสื่อในการบรรยายกระบวนการ
3. การร่วมประชุมอย่างสม่ำเสมอระหว่างนักประเมินกระบวนการและบุคลากรในโครงการหรือในแผนงาน
4. ปรับปรุงโครงร่างการประเมินอยู่เป็นนิจสิน
โดยสรุปภายใต้การปะเมินกระบวนการ สารสนเทศจะถูกวิเคราะห์รวบรวมและนำเสนอเท่าที่ผู้ดำเนินโครงการต้องการสารสนเทศนั้นอาจจะบ่อยทุกวันถ้าจำเป็น เฉพาะอย่างยิ่งในการคาดคะเนล่วงหน้า และการปฏิบัติเพื่อแก้ปัญหาเท่านั้น แต่ยังต้องบันทึกสารสนเทศของกระบวนการสำหรับแปลความหมายของความสำเร็จของโครงการด้วย
การประเมินผลผลิต
มีจุดมุ่งหมายเพื่อวัดและแปลความหมายของความสำเร็จ ไม่เฉพาะเมื่อสิ้นสุดวัฏจักรของโครงการนั้น แต่ยังมีความจำเป็นอย่างยิ่งในระหว่างการปฏิบัติโครงการด้วย การประเมินผลผลิต คือดูว่ากำหนดวัตถุประสงค์นั้นนำไปใช้ได้หรือไม่ เกณฑ์กรวัดที่สัมพันธ์กับวัตถุประสงค์ของการจัดกิจกรรมคืออะไร เปรีบบเทียบผลที่วัดได้กับมาตรฐานสัมบูรณ์ หรือมาตรฐานสัมพัทธ์ ที่กำหนดไว้ก่อนและทำการแปลความหมายถึงเหตุของสิ่งที่เกิดขึ้นโดยอาศัยรายงานจากการประเมินบริบท ปัจจัยนำเข้าและกระบวนการร่วมด้วย
ที่ผ่านมาการประเมินมีความหมายเพียงส่วนที่เป็นการประเมินผลผลิตเท่านั้น ถึงแม้ว่าจะมีการประเมินแบบอื่นที่ต่างจากการประเมินผลผลิต การประเมินสภาวะแวดล้อมและการประเมินผลผลิตจะประเมินสิ่งที่มีอยู่ว่าบรรลุเป้าหมายใดอย่างมีระบบ
การประเมินปัจจัยนำเข้า และการประเมินผลผลิตสามารถที่จะแยกให้เห็นได้ง่าย การประเมินปัจจัยนำเข้าจะเกิดขึ้นก่อนดำเนินการเปลี่ยนแปลงโครงการและการประเมินผลผลิตจะเกิดขึ้นในระหว่างและหลังโครงการในขณะที่การประเมินสภาวะแวดล้อมกำหนดสิ่งจำเพาะ สำหรับการประเมินผลผลิต การประเมินปัจจัยนำเข้า ก็แสดงสิ่งจำเพาะสำหรับการประเมินกระบวนการ
การประเมินผลผลิตจะสืบสาวสิ่งที่มีอยู่ว่าได้บรรลุวัตถุประสงค์ไปแล้วหรือกำลังจะบรรลุ แต่การประเมินกระบวนการจะประเมินสิ่งที่มีอยู่ว่าระเบียบการนั้นได้รับการกระทำไปตามที่ตั้งใจไว้หรือไม่ การประเมินทั้ง 2 ชนิดจะให้เขียนข้อมูลย้อนกลับสำหรับการควบคุมและพัฒนาการเปลี่ยนแปลงระเบียบปฏิบัติในกระบวนการ
ขยันหาข้อมูลจังเลย เก่งจัง
หาเจอแย้วดีใจจัง
ขยันทำงานจังพี่เรา สู้............
เก่งจริงเลยนะน้องเรา...
มาเยี่ยมชมผลงานครับ
พี่เอ๋..... ก๊อปสูตรลงบล๊อกทำยังงัยดี มันทำไม่ด้ายเย้ยๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ใจเย็นๆ yonnapa พี่เองก็ยังใช้คอมไม่คล่องเลย แต่ก็พยายามเรียนรู้อยู่
เก่งจังเลย ขยันแท้