ชื่อเรื่อง
ความต้องการของผู้ปกครองนักเรียนต่อการจัดการศึกษาของโรงเรียนอนุบาลเอกชนในเขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร
ผู้วิจัย
นางสาวอิสรานุช กิจสมใจ
ปีที่วิจัย
2546
วัตถุประสงค์วัตถุประสงค์ของการวิจัย
1.เพื่อศึกษาความต้องการของผู้ปกครองต่อการจัดการศึกษาของโรงเรียนอนุบาลเอกชน ในเขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร
2.เพื่อเปรียบเทียบความต้องการของผู้ปกครองต่อการจัดการศึกษาของโรงเรียนอนุบาล เอกชนในเขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร จําแนกตามระดับการศึกษาและรายไดรวมของครอบครัว
ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง
1.1. ประชากรได้แก่ผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนอนุบาลเอกชนในเขตธนบุรี กรุงเทพมหานครในปีการศึกษา 2546จํานวน 22 โรงเรียน 2,517 คน
1.2 กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนอนุบาลเอกชนในเขตธนบุรี
กรุงเทพมหานครในปีการศึกษา 2546 จํานวน 22 โรงเรียน 350 คน ตามเกณฑ์ของแครซี่และมอร์แกน ( Krejcie and Morgan. 1970: 608P) และใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างแบบง่าย (Simple Random Sampling)
ตัวแปรที่ศึกษา
1.1 ตัวแปรต้น ไดแก่ระดับการศึกษาและรายได้รวมของครอบครัว
1.2 ตัวแปรตาม ได้แก่ความต้องการของผู้ปกครองต่อการจัดการศึกษาของโรงเรียนอนุบาลเอกชนในเขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร ในปีการศึกษา 2546 จํานวน 6 ด้านได้แก
1.2.1 ด้านบุคลากร
1.2.2 ด้านการจัดสภาพแวดล้อม
1.2.3 ด้านการจัดประสบการณ
1.2.4 ด้านการส่งเสริมสุขภาพอนามัย
1.2.5 ด้านความสัมพันธ์ระหว่างโรงเรียนกับผู้ปกครอง
1.2.6 ด้านการพัฒนาการของเด็ก
เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย
แบบสอบถามความคิดเห็นของผู้ปกครองนักเรียน แบ่งเป็น 2 ตอน ดังนี้
ตอนที่ 1 แบบสอบถามเกี่ยวกับสถานภาพทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถาม ได้แก เพศ อายุ ระดับการศึกษาอาชีพรายได้เป็นแบบสอบถามชนิดกําหนดข้อคําถามใหเลือกตอบ
ตอนที่ 2 แบบสอบถามเกี่ยวกับความต้องการของผู้ปกครองต่อการจัดการศึกษาของ โรงเรียนอนุบาลเอกชนในเขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร เป็นแบบสอบถามประมาณค่า 5 ระดับโดยกําหนดค่าน้ำหนักที่ใช้ในการตัดสินใจดังนี้
1 หมายถึง มีความต้องการน้อยที่สุด
2 หมายถึง มีความต้องการน้อย
3 หมายถึง มีความต้องการปานกลาง
4 หมายถึง มีความต้องการมาก
5 หมายถึง มีความต้องการมากที่สุด
วิธีเก็บรวบรวมข้อมูล
1. ขอหนังสือจากสถาบันราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยาถึงโรงเรียนอนุบาลเอกชนในเขตธนบุรีกรุงเทพมหานครทุกโรงเรียน เพื่อขอความร่วมมือในการตอบแบบสอบถาม
2. พบผู้บริหารโรงเรียนอนุบาลเอกชนในเขตธนบุรีด้วยตนเองทุกโรงเรียนเพื่อขอความร่วมมือให้ผู้ปกครองนักเรียนช่วยตอบแบบสอบถามและเก็บรวบรวมไว้เพื่อส่งคืน
3. ติดตามแบบสอบถามที่ส่งไปกลับคืนมาร้อยละ 100.00
วิธีวิเคราะห์ผลการวิเคราะหข้อมูลและสถิติที่ใชในการวิเคราะห์
วิเคราะห์ข้อมูลด้วยคอมพิวเตอร์โดยใช้โปรแกรมสําเร็จรูป SPSS/PC+ (Statistical Package for the Social Science) ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
1. ข้อมูลทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถามวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าสถิติความถี่และร้อยละ
2. ข้อมูลเกี่ยวกับความต้องการของผู้ปกครองนักเรียนต่อการจัดการศึกษาของโรงเรียนอนุบาลเอกชนในเขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร ค่าสถิติมัชฌิมเลขคณิต (Mean : X ) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation : S.D.) ทั้งนี้ มีเกณฑการแปลความหมายดังนี้เกณฑ์การแปลความหมายนําค่าเฉลี่ย( X ) ที่ได้ไปเปรียบเทียบกับเกณฑ์เพื่อแปล
ความหมาย (บุญชม ศรีสะอาด 2535 : 100) ดังนี้
- ค่าเฉลี่ย 4.51-5.00 หมายถึง มีความต้องการในระดับมากที่สุด
- ค่าเฉลี่ย 3.51-4.50 หมายถึง มีความต้องการในระดับมาก
- ค่าเฉลี่ย 2.51-3.50 หมายถึง มีความต้องการในระดับปานกลาง
- ค่าเฉลี่ย 1.51-2.50 หมายถึง มีความต้องการในระดับน้อย
- ค่าเฉลี่ย 1.00-1.50 หมายถึง มีความต้องการในระดับน้อยที่สุด
3. เปรียบเทียบความต้องการของผู้ปกครองนักเรียนต่อการจัดการศึกษาของโรงเรียนอนุบาลเอกชนในเขตธนบุรกรุงเทพมหานครจําแนกตามระดับการศึกษาและรายได้รวมของครอบครัวใช้ค่าสถิติที (t-test)
ผลการวิจัย พบว่า
1. ความต้องการของผู้ปกครองต่อการจัดการศึกษาของโรงเรียนอนุบาลเอกชนในเขตธนบุรีกรุงเทพมหานครด้านบุคลากร มีความต้องการโดยรวมอยู่ในระดับมาก และเมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า ผู้ปกครองมีความต้องการครูมีบุคลิกภาพที่ดีเป็นแบบอย่างของนักเรียนอยู่ในระดับ สูงสุด รองลงมาได้แก่ ครูรักและเอาใจใส่นักเรียนทั้งในและนอกเวลาและครูมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีกับนักเรียนและผู้ปกครอง
2. ความต้องการของผู้ปกครองต่อการจัดการศึกษาของโรงเรียนอนุบาลเอกชนในเขตธนบุรีกรุงเทพมหานครด้านการจัดสภาพแวดล้อม มีความต้องการโดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง และเมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า ผู้ปกครองมีความต้องการสื่อการเรียนมีความเหมาะสมกับพัฒนาการ ของเด็กอยู่ในระดับสูงสดรองลงมาได้แก่สื่อมีความปลอดภัยและทันสมัย และห้องเรียนมีการระบายอากาศแสงสว่างเพียงพอ
3. ความต้องการของผู้ปกครองต่อการจัดการศึกษาของโรงเรียนอนุบาลเอกชนในเขตธนบุรีกรุงเทพมหานครด้านการจัดประสบการณ มีความต้องการโดยรวมอยู่ในระดับมาก และเมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า ผู้ปกครองมีความต้องการจัดประสบการณให้เด็กมีความพร้อมที่ จะเรียนต่อในชั้นประถมศึกษาอยู่ในระดับสูงสุดรองลงมาได้แก่ มุ่งพัฒนาเด็กให้ช่วยเหลือตนเอง ได้และ ฝึกเด็กให้สามารถเล่นกับเพื่อนและช่วยเหลือเพื่อน ๆ ได้
4. ความต้องการของผู้ปกครองต่อการจัดศึกษาของโรงเรียนอนุบาลเอกชนในเขตธนบุรี กรุงเทพมหานครด้านการส่งเสริมสุขภาพอานามัย มีความต้องการโดยรวมอยู่ในระดับมากและ เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่าผู้ปกครองมีต้องการจัดให้มีการประกันอุบัติเหตุสําหรับนักเรียน ทุกคน เพื่อความปลอดภัยและสวัสดิภาพของนักเรียนอยู่ในระดับสูงสุด รองลงมาได้แก่จัดน้ำดื่ม และภาชนะรองรับที่สะอาด มีปริมาณเพียงพอ และมีการฝึกสุขนิสัยที่ดีในการรับประทานอาหาร
5. ความต้องการของผู้ปกครองต่อการจัดการศึกษาของโรงเรียนอนุบาลเอกชนในเขตธนบุรีกรุงเทพมหานครด้านความสัมพันธระหว่างโรงเรียนกับผู้ปกครองมีความต้องการโดยรวม อยู่ในระดับปานกลางและเมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่าผู้ปกครองมีความต้องการมีส่วนร่วม และแก้ปัญหาของนักเรียนอยู่ในระดับสูงสุดรองลงมาได้แก่ประชาสัมพันธ์กิจกรรมของโรงเรียน ให้ผู้ปกครองและชุมชนและจัดกิจกรรมแสดงผลงานความสามารถของนักเรียนให้ผู้ปกครองและชุมชนได้รับทราบอยู่เสมอ
6. ความต้องการของผู้ปกครองต่อการจัดการศึกษาของโรงเรียนอนุบาลเอกชนในเขต ธนบุรีกรุงเทพมหานคร ด้านการพัฒนาการของเด็กมีความต้องการโดยรวมอยู่ในระดับมากและเมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า ผู้ปกครองมีความต้องการฝึกให้เด็กสามารถชวยเหลือตนเองได้เหมาะสมกับวัยอยู่ในระดับสูงสุดรองลงมาได้แก่ฝึกให้เด็กรู้จักรับผิดชอบต่อหน้าที่ของตัวเองและฝึกให้เด็กมีระเบียบวินัยในตนเอง
เข้ามาเยี่ยมชมครับ ok
งานวิจัยน่าสนใจมากๆๆๆๆๆค่ะน้องบอย ถ้าอยากได้รูปเต็มจอมากๆก็ซูมๆๆๆใกล้ๆๆๆนะจ๊ะ