เตรียมตัวตายอย่างมีความสุข


เตรียมตัวตายอย่างมีความสุข

สวัสดีครับ ท่านผู้อ่านทุกท่าน

       เกิดมาแล้วต้องตายแน่นอน แต่การตายใครๆก็ไม่อยากคิดถึงหรือไม่อยากพูดถึง แต่ทุกคนก็หนีไม่พ้น แล้วเราจะทำยังไง

       เราทุกคนกลัวความตาย กลัวความเจ็บปวดทรมานก่อนจะสิ้นลม กลัวการสูญเสียและพลัดพรากจากคนที่รัก แต่สิ่งเหล่านี้ก็ต้องเกิดขึ้นกับเราทุกคน จะเร็วหรือช้าเท่านั้นเอง

       เราควรเตรียมตัวตายอย่างมีความสุขไม่ดีกว่าหรือ ควรเตรียมทั้งกายและใจให้พร้อมอย่างรู้ทันและเข้าใจความตาย จะได้พร้อมตายได้ทุกเมื่อโดยไม่ทรมาน ไม่ห่วงและกังวล ไม่รู้สึกพลัดพรากจากคนหรือสิ่งที่เรารัก เพราะถ้าเรารู้จักเตรียมตัวตายอย่างมีความสุขแล้ว เราจะปฏิบัติตนอย่างระมัดระวังทั้งกายและใจ มีเป้าหมายของความตายเป็นที่สิ้นสุด เราจะได้ทำแต่คุณงามความดี จะเป็นผู้ให้มากกว่าเป็นผู้รับ มองโลกในแง่ดี มองคนรอบข้างได้ถูกต้อง เข้าใจความจริงของชีวิต ความสุขก่อนตายก็จะบังเกิดกับเราอยู่ทุกเมื่อ

      เข้าใจชีวิตจะได้เตรียมตัวตายอย่างมีความสุข

      รศ.พงศ์วัชร สิริจันทรวงศ์

หมายเลขบันทึก: 312785เขียนเมื่อ 11 พฤศจิกายน 2009 19:19 น. ()แก้ไขเมื่อ 14 มิถุนายน 2012 10:15 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (12)

สวัสดีค่ะอาจารย์

- เรามักจะประมาทในการดำเนินชีวิต

- เราไม่เคยรู้ว่าเราจะตายตอนไหน รู้แต่วันเกิด

- ถึงตอนนี้เราต้องเตรียมตัวกันเสียแล้ว

- ขอบคุณค่ะ

ชีวิตนี้เหมือนทางผ่านที่จะเป็นที่เก็บเสบียงเพื่อใช้ต่อในโลกหน้า

หากโลกนี้เพลิดเพลินจนลืมตัว แล้วโลกหน้าเราจะพึ่งใคร

ไม่มีพระเจ้าอื่นใดที่ถูกกราบไหว้โดยเที่ยงแท้นอกจากอัลลอฮ์องค์เดียวเท่านั้น

ชีวิตนี้เหมือนทางผ่านที่จะเป็นที่เก็บเสบียงเพื่อใช้ต่อในโลกหน้า

หากโลกนี้เพลิดเพลินจนลืมตัว แล้วโลกหน้าเราจะพึ่งใคร

ไม่มีพระเจ้าอื่นใดที่ถูกกราบไหว้โดยเที่ยงแท้นอกจากอัลลอฮ์องค์เดียวเท่านั้น

ความตายเป็นอีกหน้าที่หนึ่งของชีวิต

ตอนนี้ก็กำลังพยายามเตรียมตัวตายค่ะ

แต่ก็ยังไม่รู้ว่าเมื่อถึงวินาทีสุดท้ายแห่งชีวิตจริงๆ จะทำหน้าที่นั้นได้ดีเพียงไร

ขอบพระคุณค่ะ

สวัสดีครับ

ขอบคุณทุกท่านเช่นกันนะครับที่เข้ามาอ่านและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน

หากเรารู้ตัวว่าความตายอยู่คู่กับเรา เราจะพบความสุขที่แท้จริงนะครับ

การเตรียมตัวล่วงหน้า เราจะทำหน้าที่ตอนนั้นได้อย่างดีแน่นอนครับ

สว้สดีค่ะ

  • อาจารย์เตรียมไปได้กว่าดิฉันอีก
  • ดิฉันเตรียมแค่ว่าตัวเองอยากจะเกษียณ
  • แด่พอนึกขึ้นมา..เอเกษียณแล้วเราจะเป็นจะอยู่อย่างไร
  • จะเหงาไหม..ก็แค่คิดว่าเตรียมหาอะไรทำหลังเกษียณ
  • เวลานี้ต้องมาถึงแน่นอน..ยังไม่คิด..ก่อนตาย
  • มีอะไรที่เรายังไม่ได้ทำ อยากทำก็จงทำ..เสียเถิด
  • บังเอิญพอมีโชคอยู่บ้างทรัพย์ที่เตรียมไว้ทำเป็นมรดกของบิดา
  • ประกอบกับคู่ครองก็ไม่ขัดศรัทธา
  • ลูกก็..สำหรับดิฉันผู้เป็นแม่คิดว่าเหมือนมีเทพมาอุ้มสม
  • มารับหน้าที่ต่อจากเราไป คนโตเรียนจบแล้ว..และทำงานแล้ว
  • ดูแลน้องแทนแม่ได้ในระดับหนึ่ง ก็ได้แต่ภาวนาให้เขาเป็นเด็กดีเช่นนี้ตลอดไป
  • คนเล็กกำลังเรียน เขาชอบไปทางศิลปะ..เราคิดว่าพอมองเห็นทางในอนาคตของเขาบ้างแล้ว
  • ตัวดิฉันเองผู้เป็นแม่ก็อยากจะทำอะไรที่มีความชอบ..และน่าจะถึงเวลาที่ต้องทำ
  • ก่อน..จะหมดเวลา...ที่ทุกคนไม่มีใครซื้อหาหรือต่อเวลาให้ตัวเอง เมื่อนึกอะไรได้ก็ต้องขวนขวายรีบทำ
  • ทั้งนี้และทั้งนั้นก็ต้องรอบคอบที่สุด..เพื่อความสุขสงบที่แท้จริง..
  • ที่จะปฏิเสธไม่ได้คงยึดแนวทางขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในบริบทที่ว่า..ความพอเพียงนั่นแล

 

สวัสดีครับ คุณ วาแปลว่าดอกไม้

ยินดีที่ได้รู้จักครับ และยินดีกับความสำเร็จทุกด้าน

ขอเป็นกำลังใจ ให้พบแต่ความสุขทุกลมหายใจเข้าออกนะครับ

สวัสดีครับ

ติดตามเรื่องของท่าน น่าสนใจมมากครับ

โดยเฉพาะเรื่อง เตรียมตัวก่อนตาย

ผมมีประสบการณ์ แลกเปลี่ยนครับ

ผมมีโอกาสอยู่ใกล้กับคนที่กำลังหมดลมหายใจ สองคนครับ

คนหนึ่งคือพ่อ อีกคนหนึ่งคือภรรยา

ผมว่ามันเป็นเรื่องที่เจ็บปวดอย่างแสนหาหัสนะครับ

ที่คนที่รักจากไปต่อหน้าต่อตา

ยังนึกไม่ออกครับว่า ถ้าคราวตัวเองจะทำอย่างไร

 

สวัสดีค่ะ รศ. พงศ์วัชร สิริจันทรวงศ์

อ่านบันทึกแล้วโดนใจค่ะ

"การหลับไม่ตื่น ฟื้นไม่มี หนีไม่พ้น" จริงๆค่ะ

"การประมาทเป็นหนทางแห่งความตาย"

อยู่เป็นขวัญกำลังใจนานๆนะคะท่าน

สวัสดีครับคุณฝน

การพลัดพรากจากกันด้วยความตายนั้น ยากที่จะทำใจได้จริงๆครับ เราทุกคนจึงต้องเตรียมตัวให้พร้อมกับสิ่งนี้ทุกเมื่อ ทุกลมหายใจเข้าออกครับ การให้กำลังใจกันและกันเป็นสิ่งดีครับ

สวัสดีครับครูจิ๋ว

ขอบคุณครับที่เข้ามาทักทาย ขอให้ครูจิ๋วพบแต่ความสุขตลอดไปนะครับ

ผมจะพยายามอยู่ให้ถึง120ปีครับ ครูจิ๋วก็พยายามนะครับ ขอเป็นกำลังใจให้นะครับ

ร.อ.อำนวยวิทย์ ยอดเกวียน

อนิจจัง คือความไม่เที่ยง มีการ เปลี่ยนแปลง ปรวนแปร ทุกขัง คือความทนอยู่ในสภาพใดๆถาวรหรือทนอยู่ในสภาพเดิมไม่ได้อนัตตา คือความไม่ใช่ตัวตน ไม่มีเจ้าของ

เป็นอารมณ์ของวิปัสสนา คือ วิปัสสนา ที่เกิดขึ้นนั้นจะต้องไปเห็นไตรลักษณ์ วิปสสนาคือความรู้แจ้งความรู้จริงตามความเป็นจริง

  ไตรลักษณ์นี้ เหมือนเชือกที่มี 3 เกลียว หมายความว่า

อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา สัมพันธ์กันใกล้ชิด เพราะเป็นลักษณะที่เกิดขึ้นที่เดียวกัน คือเมื่อมีอนิจจัง หรือความไม่เที่ยงปรากฎขึ้น มีการเปลี่ยนแปลง เพราะทนอยู่ในสภาพเดิมไม่ได้ ก็คือเป็นทุกข์นั่นเอง ฉะนั้นทุกข์ก็มาจากอนิจจังนั่นเอง(ทุกข์ ในที่นี้ หมายถึง ความทนอยู่ในสภาพเดิมไม่ได้ ไม่ใช่มีความหมายแค่ทุกขเวทนา ที่เป็นความเจ็บปวดทางร่างกาย) ส่วนอนัตตา ความไม่ใช่ตัวตนคือการบังคับบัญชาไม่ได้  บังคับให้ตั้งอยู่ไม่ได้ เมื่อบังคับไม่ได้ มันก็เป็นทุกข์

ร.อ.อำนวยวิทย์ ยอดเกวียน

อนิจจัง คือความไม่เที่ยง มีการ เปลี่ยนแปลง ปรวนแปร ทุกขัง คือความทนอยู่ในสภาพใดๆถาวรหรือทนอยู่ในสภาพเดิมไม่ได้อนัตตา คือความไม่ใช่ตัวตน ไม่มีเจ้าของ

เป็นอารมณ์ของวิปัสสนา คือ วิปัสสนา ที่เกิดขึ้นนั้นจะต้องไปเห็นไตรลักษณ์ วิปสสนาคือความรู้แจ้งความรู้จริงตามความเป็นจริง

  ไตรลักษณ์นี้ เหมือนเชือกที่มี 3 เกลียว หมายความว่า

อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา สัมพันธ์กันใกล้ชิด เพราะเป็นลักษณะที่เกิดขึ้นที่เดียวกัน คือเมื่อมีอนิจจัง หรือความไม่เที่ยงปรากฎขึ้น มีการเปลี่ยนแปลง เพราะทนอยู่ในสภาพเดิมไม่ได้ ก็คือเป็นทุกข์นั่นเอง ฉะนั้นทุกข์ก็มาจากอนิจจังนั่นเอง(ทุกข์ ในที่นี้ หมายถึง ความทนอยู่ในสภาพเดิมไม่ได้ ไม่ใช่มีความหมายแค่ทุกขเวทนา ที่เป็นความเจ็บปวดทางร่างกาย) ส่วนอนัตตา ความไม่ใช่ตัวตนคือการบังคับบัญชาไม่ได้  บังคับให้ตั้งอยู่ไม่ได้ เมื่อบังคับไม่ได้ มันก็เป็นทุกข์

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท