เช้าวันที่สองของเวที อสม. ติดดาว ทุกคนต่างตื่นแต่เช้า เพราะมีนัดกันว่าจะไปดูนกนางแอ่น และแล่นเรือไปเที่ยวเกาะสี่เกาะห้า ตามกำหนดการเราจะออกเดินทางประมาณ 7 โมงเช้า รับอาหารเช้าเบาๆง่ายๆก่อน..และค่อยเคลื่อนขบวน และกลับมาที่ฝั่ง-เกาะเขาชันประมาณ 10 โมงเช้า...ทุกคนดูท่าทีตื่นเต้นและอยากไปมาก เพราะได้ยินชื่อเสียงมานานแล้ว..ดิฉันเอง..ทีแรกก็ว่าจะไม่ไป..เพราะเกรงว่าจะตื่นไม่ทัน แต่เผอิญเช้าวันที่ว่านี้..กลับตื่นได้เร็วกว่าทุกครั้ง..ระหว่างที่รอตัดสินใจว่าจะไปด้วยดีหรือไม่นั้นได้ยืนมองไปที่ผืนน้ำเบื้องหน้า...
ลมแรง..และคลื่นที่ถาโถมซัดเข้าฝั่ง...เหมือนกับโกรธใครมา แต่ก็คิดๆ..ว่าสักพักคงสงบและคณะเที่ยวเกาะ..คงออกเดินทางล่องเรือ แต่ยืนคิดอะไรเงียบๆ ไม่นาน คุณ"ชายขอบ"ก็มาบอกว่าเปลี่ยนแผน เรือออกไม่ได้เพราะลมและคลื่นแรงมาก...สักพักฝนก็ตกปรอยๆ ลงมาจึงต้องเปลี่ยนแปลง...กิจกรรม เป็นว่าวันนี้เวทีก็เริ่มเร็วขึ้น ดำเนินการเวทีโดย"พี่พันธ์" และ "พี่สมพงษ์" กระบวนการที่เกิด คือ ให้ อสม.แต่ละคนมาเล่าเรื่องความรู้สึก...ให้เพื่อนๆ อสม.ฟัง..บรรยากาศเป็นกันเองมากขึ้นยิ่งกว่าเมื่อวาน บ้างเอกเขนก บ้างนั่ง บ้างนอน เป็นเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ที่อิสระมาก..ไม่ต้องมานั่งเกร็งดูทีเป็นวิชาการ ง่ายๆ สบายๆ แต่กลับได้สิ่งที่เป็นสาระมาก คุณกิจทั้งหลาย...ก็สะดวกและสบายใจที่จะแหลงเรื่องตัวเอง อย่างไม่มีกรอบปิดกั้นที่จะกลัวผิดหรือถูก หากแต่ได้เล่าสู่กันฟัง ก็ก่อเกิดความสุขในใจแล้ว...
หลังจากเวทีเริ่มเดินไปสักพัก..ลมพายุข้างนอกก็สงบ..หลายคนก็รู้สึกอาวรณ์ยิ่งนักที่อยากจะออกเรือไปที่เกาะ แต่คนเรือบอกว่าออกไปตอนนี้ก็ไม่สวยแล้ว เพราะสายแล้ว...และที่สำคัญคุณ"เอื้อ-อำนวยชายขอบ"บอกว่าเวทีได้เดินเรื่องไปสักพัก หากหยุดชะงัก ก็อาจไม่ต่อเนื่องได้ และที่สำคัญหากเราออกไปตอนนี้กลับมาอีกทีมาเริ่มกระบวนการต่อ กว่าจะเสร็จก็อาจจะเลิกค่ำ และที่สำคัญเราๆ ก็จะกลับถึงบ้านค่ำด้วย...แม้จะอาลัยอาวรณ์ยิ่งนัก แต่ทุกคนก็ยังคงเดินหน้า"แหลง"ต่อในเวที "แลกเปลี่ยนเรียนรู้"นี้
เมื่อเราเจอพายุ...หากเรา"นิ่ง"...มอง
พายุนั้น...อย่างเข้าใจ
และมองเข้าไปให้เห็น...
สักพัก...สิ่งที่รุนแรงภายใต้...พายุนั้น...สงบ
เราก็...มองพบ...สิ่งที่เป็นจริงอย่างถ่องแท้
ไม่มีคำว่าสาย...สำหรับการเริ่มต้น