การขอโทษ - การให้อภัย


การขอโทษ - การให้อภัย

บันทึกวันนี้ ผู้เขียนขอตั้งชื่อหัวข้อว่า "การขอโทษ" เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อวันอาทิตย์ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552 ผู้เขียนพร้อมด้วยพี่น้องชาวมหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม ประมาณ 9 คน (พร้อมด้วยคนขับรถ) ได้ขึ้นรถตู้ของมหาวิทยาลัยที่ส่วนวังจันทน์ ในเวลาประมาณ 09.00 น. รถเคลื่อนออกจากส่วนวังจันทน์ เพื่อไปร่วมงานฌาปนกิจศพของบิดา คุณประสิทธิชัย แสงทอง พนักงานขับรถยนต์ ที่วัดบางบัว บางเขน กรุงเทพฯ

หลังจากพิธีฌาปนกิจเรียบร้อยแล้วผู้เขียนและคณะก็เดินทางกลับพิษณุโลก เหตุเกิดที่ทางแยกของจังหวัดนครสวรรค์ ตรงสี่แยกไฟแดง มีรถจักรยานยนต์ 2 คัน ขับตามกันไป โดยที่รถตู้ที่ผู้เขียนนั่งอยู่ขับตามไป พอดีไฟแดงพอดี จักรยานยนต์คันแรกมีผู้ชายเป็นผู้ขับ มีผู้หญิงกำลังอุ้มเด็กอ่อน เป็นผู้ซ้อน เนื่องจากไฟแดงพอดี คันหน้าเลยเบรค ส่วนรถจักรยานยนต์คันที่ขับตามไป คือผู้ชายไม่ได้หมวกกันน็อค นำหมวกกันน็อคไว้ด้านหน้าของตะกร้า พอคันหน้าเบรค คันหลังก็ต้องเบรคกระทันหัน แต่รถคันหลังไปกระแทกกับคันหน้าเสียก่อน ทำให้หมวกกันน็อคกระเด็นล่วงลงไปบนพื้นถนน แต่รถทั้งคู่ก็ไม่ถึงกลับล้มหรือเกิดความเสียหาย เจ้าของหมวกต้องจอดรถแล้วลงไปเก็บหมวกกันน็อค สำหรับคันหน้าผู้ชาย ผู้เขียนคาดว่าเป็น สามี - ภรรยา กัน แล้วมีลูกน้อย ได้จอดรถ (พอดีติดไฟแดง) ลงมาผลักไหล่คนขับคันที่ชนท้าย เขาเหมือนกับโกรธมาก ๆ ผู้เขียนเดาว่าสาเหตุที่โกรธ คงเป็นเพราะว่า คงเป็นห่วงลูกน้อยที่ภรรยาเขาอุ้มไว้ เขาคงคิดเกินไปอีกว่าถ้าเกิดอะไรขึ้น ลูก - ภรรยา ของเขาต้องได้รับบาดเจ็บอย่างแน่นอน...เขาผลักไหล่คนขับคันหลังหลาย ๆ ครั้ง ผู้เขียนและคณะลุ้นกันอยู่อย่างเต็มที่ ว่าต้องมีเรื่องอย่างแน่นอน แต่ภรรยาของเขาซึ่งกำลังอุ้มเด็กอ่อน อยู่ก็เข้ามาห้ามสามี แต่สามีก็ไม่รับฟัง ทำท่าทางเหมือนนักเลงจะเอาเรื่องให้ได้

ผู้เขียนและคณะลุ้นกันอย่างใจจดใจจ่อ...กลัวคนขับคันที่ 2 ก็จะไม่พอใจเหมือนกันแล้วจะชกต่อยกัน...แต่สิ่งที่ผู้เขียนและคณะได้เห็นเป็นภาพที่น่าชื่นชมคนขับรถจักรยานยนต์คันที่ 2 คือ การได้เห็นเขายกมือไหว้ขอโทษคนขับรถจักรยานยนต์คันแรก ซึ่งอายุของคนขับรถคันที่ 2 ดูเหมือนจะมากกว่าคนขับรถคันแรกด้วยซ้ำ ทำให้ผู้เขียนและคณะถึงกลับโล่งอก เพราะรถตู้ของผู้เขียนจอดเทียบคู่กับรถที่เกิดเหตุทั้งคู่พอดีและดูเหมือนคนขับรถคันแรกก็ใจอ่อนลงได้เหมือนกัน ได้แต่บ่น อุบอิบตามประสาคนที่มีความโกรธและก็ไม่ได้ทำอะไรกับคู่กรณี (ผู้เขียนและคณะต่างคิดกันว่าคงเป็นเพราะความห่วงลูก - ภรรยา นั่นเองที่ทำให้เกิดอาการแบบนี้) และพอดีไฟเขียวรถตู้ที่ผู้เขียนนั่งมาก็แล่นออกจากที่ตรงนั้นพอดี

ทำให้ผู้เขียนคิดว่าคนเราเมื่อทำผิดแล้ว การยกมือไหว้เอ่ยคำขอโทษ หรือเอ่ยปากว่าขอโทษ ต่อให้ทำผิดอย่างไรแล้ว การที่ผู้ที่ถูกกระทำเห็น ได้ยิน ได้ฟัง จากจิตใจที่โมโห โกรธ ก็สามารถลดลงได้ และก็ให้อภัยกัน ดีกว่าอีกฝ่ายเมื่อรู้ตัวว่าผิดแล้วยังดันทุรังเฉย ๆ ไม่ขอโทษ ยิ่งทำให้อีกฝ่ายโกรธ โมโหได้ แล้วก็จะมีเรื่องกันตามมา

หมายเลขบันทึก: 312094เขียนเมื่อ 9 พฤศจิกายน 2009 10:50 น. ()แก้ไขเมื่อ 3 เมษายน 2016 15:33 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (16)

ขอโทษ ให้อภัย ให้โอกาส ครับ

เป็นบทความที่ดีค่ะ

อยากให้คนในสังคมรู้จักคำว่า

ให้อภัย และขอโทษ

โลกทั้งใบคงน่าอยู่ขึ้นเยอะนะคะ

สวัสดีค่ะ

  • เรื่องการยกมือไหว้ขอโทษ  พี่คิมเคยยกมือไหว้น้องตำรวจหน้าเด็ก ๆ ยังมีกลิ่นของโรงเรียนติดมาไม่จางหาย
  • เนื่องจากตรงหน้าโรงแรมลิไทย..ไม่ทราบว่าเขาห้ามรถออกไปถนนเอกาทศรถ  น้องตำรวจขับมอเตอร์ไซค์มาปาดหน้า...ท่าทางและหน้าตาบอกว่าต้องเอาเรื่องให้ได้
  • แต่พี่คิมลงจากรถไหว้เขา..และบอกว่าพี่ไม่ทราบว่าพี่ทำผิดเรื่องอะไร  เพราะไม่ทราบและไม่เห็นป้าย  ขอโทษได้ไหมคะน้อง  ต่อไปจะไม่ทำอีก
  • เขาก็ทำเสียงอ่อนลงและปล่อยให้ไป (อันนี้ไหว้เพราะกลัวความผิดค่ะ  อย่าเอาเยี่ยงอย่างนะคะ)

สวัสดีค่ะ...อาจารย์ JJ

แต่สังคมเราไม่ค่อยจะทำกัน  นาน ๆ จะเห็นสักครั้งค่ะ...

สงสัยกลัวเสียฟอร์มมังค่ะ...ฟอร์มเยอะสะด้วย...

สวัสดีค่ะ...คุณสิริพร...

ขอบคุณค่ะ...ใช่ค่ะ ถ้าสังคมเรารู้จักขอโทษ - ให้อภัยกันจะเป็นสังคมที่น่าอยู่มาก ๆ เลยค่ะ...

สวัสดีค่ะ...พี่คิม...

ขอบคุณค่ะ...เมื่ออาทิตย์ก่อนก็เจอะกับตำรวจ...ตำรวจกับหนูไม่ค่อยถูกกันเลยค่ะ...แต่เราผิด...เราก็ยอมรับผิด...เสียค่าปรับสะ...ก็เสร็จเรื่อง...แต่เรื่องมีอยู่ว่าหนูจะต้องไปรับการตรวจสุขภาพกับแพทย์ที่ รพ.พุทธชินราช นี่สิ...พอแพทย์ตรวจชีพจรเต้นเร็วมาก แพทย์ถามว่าเหนื่อยเหรอ...เชื่อไหมค่ะ...ไม่กล้าบอกแพทย์ค่ะว่าชีพจรเต้นเร็วมากเพราะกลัวตำรวจ...555

  • น่ารักมากค่ะ..
  • การยกมือไหว้ หรือขอโทษเป็นสิ่งที่ควรส่งเสริมนะคะ
  • สังคมเราจะได้น่าอยู่ขึ้นอีกเยอะเลย

ขอบคุณค่ะ...อาจารย์พิชชา...

ใช่ค่ะอาจารย์...แต่ทำไม๊...ไม่ค่อยจะทำกันก็ไม่รู้สิค่ะ...

ตามมาอ่านครับอาจารย์

การให้อภัย คือ เมตตาธรรมอันสุงสุดของมนุษย์

ขอโทษ ขออภัย ช่วยให้ร้อนกลับเย็น

การไหว้ของไทยเรา เป็นอะไรที่หลากความหมาย หลายคุณค่า จริงๆนะคะ

ขอบคุณค่ะ

จริงค่ะการยกมือไหว้เพื่อขอโทษเป็นสิ่งที่ดี หนูจะรออ่านบทความต่อไปน่ะค่ะ

ตอบ...คุณกุสุมา...

ขอบคุณค่ะ...อย่าลืมอ่านเรื่อง การไหว้ และการยิ้ม ร่วมกันรักษาวัฒนธรรมไทย ตามเว็บไซต์ด้านล่างนะค่ะ...

http://gotoknow.org/blog/bussaya2/311578

  • ขอบคุณบันทึกข้อคิดค่ะ

สวัสดีค่ะ...คุณ tamtam1...

ขอบคุณค่ะ...

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท