พิการกายหรือพิการใจ
เช้าวานก่อนดูข่าวคุณกฤษณะ ผู้อ่านข่าวช่อง 3 เล่าเรื่องมนุษย์ล้อ (คนพิการที่นั่งเก้าอี้ล้อเลื่อน) ขอให้ผู้ใหญ่ รัฐบาลและผู้มีอำนาจทั้งหลายได้เห็นใจชาวมนุษย์ล้อบ้าง เพราะทุกวันนี้การเดินทางไปไหนโดยรถโดยสาร รถไฟ หรือสถานที่ต่างๆ บางแห่งยังไม่มีที่รองรับให้มนุษย์ล้อได้เดินทางได้อย่างสะดวกสบายขึ้น ไม่อยากให้คนมือเท้าดีต้องคอยช่วยเหลือคนพิการตลอดเวลา
มนุษย์ล้อที่กล่าวถึงนี้ใช่ว่าจะมีเพียงคนพิการเท่านั้น ยังมีคนชรา ที่ดูแลช่วยเหลือตนเองไม่ได้อีกจำนวนมาก หากท่านสังเกตคงจะเห็นได้ว่าสถานที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้า สถานที่พักผ่อนหย่อนใจ โรงแรม โรงพยาบาล ฯลฯ เริ่มเข้าใจและเห็นใจมนุษย์ล้อ เพิ่มขึ้น โดยทำทางราบสำหรับล้อเลื่อน มีห้องน้ำ ที่จอดรถสำหรับมนุษย์ล้อไว้อำนวยความสะดวกมากขึ้น แต่ก็ยังน้อยไม่มากเท่าต่างประเทศที่เห็นความสำคัญของมนุษย์ล้อที่มีที่รองรับและให้บริการแก่คนพิการและคนชราที่นั่งเก้าอี้ล้อเลื่อน
ทุกวันนี้หากพูดถึงคนพิการที่นั่งเก้าอี้ล้อเลื่อน ส่วนมากเป็นคนที่มีคุณภาพประสิทธิภาพ มีความอดทน และที่สำคัญคือมีความรู้ความสามารถที่คนมือเท้าดีๆอายเลย หลายคนมีความสามารถด้านคอมพิวเตอร์ วาดภาพ งานช่าง งานฝีมือต่างๆ ที่หาเลี้ยงคนมือเท้าดีในครอบครัวได้ เรียกว่าพิการแต่กาย แต่ใจไม่พิการ แตกต่างกับคนประเภทที่ร่างกายดีแต่ใจพิการ คนประเภทนี้จิตใจไม่ปกติเท่าไรนัก ดำรงชีวิตอยู่แบบโกหก หลอกลวง ปลิ้นปล้อน โกงกิน ทุจริต อิจฉาริษยา ทำอะไรก็ได้เพื่อชีวิตของตัวเองโดยไม่คำนึงถึงจิตใจคนอื่น
ใครที่มีลักษณะใจพิการ หากคิดกลับตัวกลับใจมาเป็นคนดีในสังคม ก็ยังไม่สายหรอกนะ แต่ถ้ายังปฏิบัติตนเป็นคนใจพิการ คนพวกนี้แหละในบั้นปลายชีวิตไม่มีสุขหรอกเพราะมีแต่คนสาปแช่ง เผลอๆอาจเป็นคนที่พิการทั้งกายและใจ ต้องชดใช้เวรกรรมอย่างทุกข์ทรมานก่อนตายด้วย จึงอยากวิงวอนฝากไว้ให้ช่วยกัน คนพิการก็เป็นเพื่อนร่วมโลกที่มีคุณค่าคนหนึ่งไม่ใช่เป็นภาระของใคร อย่ามองเขาด้วยสายตาเวทนาเพียงอย่างเดียว .
ต่อให้ร่างกายพิการเพียงไหนเเต่ขอให้หัวใจอย่าพิการก็พอคะอาจารย์
จะติดตามอ่านเกือยทุกหัวข้อที่สนใจนะคะ
ขอบใจนะหนูที่ให้กำลังใจ คนเราเมื่อมีโอกาสอ่านก็อ่านซะ เพราะการอ่านไม่ว่าจะอ่านอะไรมันเป็นสิ่งวิเศษ ความรู้ที่จะติดตัวเราไปเป็นประสบการณ์อีกรูปแบบหนึ่งแม้ว่าเราจะไม่ได้เดินทางไปในสถานที่นั้นจริงๆ หรือเราไม่ได้เจอกับเหตุการณ์นั้นจริงๆ