พิพิธภัณฑ์ล้านของเล่น


พิพิธภัณฑ์นี้จึงเป็นสถานที่เล็กๆ แต่อบอุ่น และของเล่นและของสะสมที่อยู่ภายในไม่ได้เล็กอย่างสถานที่เลย แต่กลับมีความสำคัญและมีคุณค่าทางการศึกษาอย่างยิ่งใหญ่เกินตัว

พิพิธภัณฑ์ล้านของเล่น 

เมื่อวันเสาร์ที่ ๒๔ ตุลาคม ๒๕๕๒ ต่อเนื่องจากที่ผมและครอบครัวไปแวะชม “ภาพของพ่อ” ที่หอศิลป์กรุงเทพแล้วในวันที่ ๑๘ ตุลาคม ๒๕๕๒ วันนี้ผมและครอบครัวผม ครอบครัวพี่ภรรยา และคุณพ่อคุณแม่ของภรรยาผมก็ได้ออกเดินทางตามแผนการเดินทางที่ได้วางเอาไว้นั้นก็คือ ไปแวะชม “พิพิธภัณฑ์ล้านของเล่น” ( Million Toys Museum) ที่จังหวัดอยุธยา พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เป็นของเอกชนซึ่งเจ้าของก็คือ อาจารย์เกริก ยุ้นพันธ์

ดังนั้นพิพิธภัณฑ์นี้จึงเป็นสถานที่เล็กๆ แต่อบอุ่น และของเล่นและของสะสมที่อยู่ภายในไม่ได้เล็กอย่างสถานที่เลย แต่กลับมีความสำคัญและมีคุณค่าทางการศึกษาอย่างยิ่งใหญ่เกินตัว และแสดงออกถึงความเป็นมาของสังคมในแต่ละยุคสมัยนั้นผ่านทางของเล่นชิ้นเล็กชิ้นน้อยที่เก็บอยู่มากมายอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย

คณะผมได้นัดหมายกับอาจารย์เกริก ไว้ล่วงหน้าแล้วว่าจะเข้าไปเยี่ยมชมและอยากจะให้อาจารย์เป็นวิทยากรบรรยายให้พวกเราฟังด้วย ซึ่งอาจารย์เกริกก็น่ารักมากๆ ที่ตอบรับพวกเราทันที และอาจารย์ก็ได้มาต้อนรับพวกเราทันทีที่พวกเราถึงพิพิธภัณฑ์

อาจารย์เริ่มต้นด้วยการเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับพระพิฆเนศให้เด็กๆฟัง ถึงประวัติขององค์พระพิฆเนศซึ่งเป็นบิดาของคุณครูทั้งหลาย และเด็กๆก็ตั้งใจฟังสิ่วที่อาจารย์เกริกเล่าให้ฟังด้วยความสนุกสนาน พวกผู้ใหญ่อย่างผมและภรรยาก็พลอยได้ความรู้ใหม่ๆไปด้วย เช่น ทำไมงาของพระพิฆเนศถึงได้หักข้างหนึ่ง ซึ่งก่อนหน้านี้อย่าว่าแต่เรื่องราวเหล่านี้เลยแม้แต่พระพิฆเนศงาหักหนึ่งข้างผมก็ยังไม่ได้สังเกตเห็นด้วยซ้ำ  ผมต้องขอขอบคุณอาจารย์เกริกอย่างจริงจังและจริงใจด้วยการปรบมือดังๆไว้ตรงนี้ด้วยครับ

ใครรู้บ้างมั๊ยครับว่าทำไมพระพิฆเนศถึงได้งาหักข้างหนึ่ง และพระพิฆเนศชอบกินอะไร แล้วผมจะให้ลูกสาวผมน้องหนุนเขียนถึงการไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์ล้านของเล่น และจะให้เค้าเฉลยให้ฟังครับ

ผมได้ตกลงกันไว้กับลูกๆว่ากลับจากเที่ยวทั้ง ๒ คนต้องนำเรื่องราวที่ทั้ง ๒ คนพบเห็นมามาเขียนลงในบล็อก ลูกๆคุยกัน ซึ่งเป็นบล็อกย่อยในบล็อกนี้ น้องนนท์พี่คนโตขอเขียนเรื่องที่ไปแวะชมหอศิลป์ และเค้าก็ได้เขียนไปแล้ว ส่วนน้องหนุนสาวน้อยคนเล็กขอเขียนเรื่องที่ไปแวะเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์ล้านของเล่น แต่เค้ายังไม่ได้ลงมือเขียนเลย แต่ก็คงภายในวันสองวันนี้แหละครับ

หลังจากที่ผมนอกเรื่องไป ๑ พารากราฟ ก็ขอพาทุกคนกลับเข้าที่เข้าทางอีกครั้ง หลังจากที่ได้ฟังอาจารย์เกริกเล่าเรื่องราวสนุกๆเกี่ยวกับพระพิฆเนศแล้ว อาจารย์เกริกก็ได้นำพวกเราเดินดูภายในอาคาร โดยเริ่มต้นที่บริเวณชั้น ๑ พร้อมกับบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ ของของเล่นและของเก่าต่างๆที่เก็บสะสมและนำมาแสดงให้คนทั่วไปได้ชม

มีใครเคยรู้บ้างมั๊ยว่า น้ำอัดลมนั้นได้เข้ามาในเมืองไทยตั้งแต่ต้นกรุงรัตนโกสินทร์แล้ว หลักฐานก็คือขวดแก้วที่ใช้บรรจุน้ำอัดลมในสมัยนั้น แต่ผมขอตั้งข้อสังเกตว่า ยังไม่มียี่ห้อครับ และผมก็ลืมถามอาจารย์เกริกไปว่า สมัยนั้นเค้าเรียกน้ำอัดลมว่าอะไร ใครรู้ช่วยตอบด้วยครับ

จากนั้นพวกเราก็ขึ้นไปบนชั้น ๒ของอาคาร ซึ่งเป็นส่วนที่จัดแสดงของเล่นโบราณต่างๆ มากมาย ทั้งของเล่นสังกะสี ประเภท กบไขลานแล้วมันกระโดดเย็งๆๆๆ รถของเล่น ตุ๊กตาเซลลูลอยด์ ซึ่งเป็นของเล่นที่ผลิตจากพลาสติกยุคแรกๆ อาจารย์ได้รับบริจาคมาจากคุณยายท่านหนึ่งอายุ ๙๐ กว่าปีแล้ว อาจารย์บอกว่าเค้านำมาขายให้เพราะเป็นของเล่นสมัยคุณยายยังเด็กๆ แต่ อาจารย์ บอกว่าราคาที่คุณยายนำมาขายให้นั้นถูกเหมือนกับท่านนำมาบริจาคนั่นแหละ ผมเลยมีความตั้งว่าจะหาของเล่นสมัยตัวเองยังเด็กๆ ที่ยังมีสภาพดีๆ ไปบริจาคให้กับพิพิธภัณฑ์ เพราะอยู่ที่ผมก็เป็นแค่ของเล่นเก่าๆ ชิ้นหนึ่ง แต่เมื่อนำไปรวมกันที่สถานที่แบบนี้แล้วมันจะดูยิ่งใหญ่มีคุณค่าประเมินไม่ได้เลย ผมอยากเห็นพิพิธภัณฑ์ล้านของเล่นเป็นพิพิธภัณฑ์ของเล่นที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งเวลานี้ก็ใกล้เคียงมากแล้ว มีชาวต่างชาติมาเยี่ยมชมมากมายและหลายๆคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า สุดยอดมาก บางคนก็มาขอซื้อเพราะว่าตัวเค้าก็เปิดพิพิธภัณฑ์ของเล่นอยู่ที่บ้านเค้าก็มี แต่อาจารย์ก็ไม่ขายครับ

ค่าเข้าชมก็ถูกมากครับ ผู้ใหญ่ ๕๐ บาท เด็ก ๒๕ บาท เบอร์โทร. 035-328949 , 035-328950

www.milliontoymuseum.com

 

เพื่อนๆคนไหนใน gotoknow ได้มีโอกาสแวะไปกรุงเทพ ลองจัดสรรเวลาซักนิด แวะไปชม พิพิธภัณฑ์แห่งนี้หน่ะครับ ขับรถแค่ ๑ ชมจากกรุงเทพเอง แวะชมพิพิธภัณฑ์เสร็จก็ไหว้พระแล้วก็กลับกรุงเทพ มาดูหอศิลป์กรุงเทพตอนเย็นซัก ๒ ชม สบายๆ หนึ่งวัน

ลืมไปว่า หอศิลป์ปิด วันจันทร์ครับ ส่วนวันอื่นเปิดถึง ๔ทุ่มครับ

ผู้ชายใจดีใส่เสื้อลายดอกคนด้านซ้ายสุดนี้แหละครับ อาจารย์เกริก ยุ้นพันธ์ อาจารย์ผู้ใจดี

ทำไมงาถึงหักข้างหนึ่งครับ และใครสังเกตุเห็นสัตว์สองชนิดที่อยู่ใกล้ตัวท่านมั๊ยครับ มีความเป็นมาที่เกี่ยวข้องกับองค์พระพิฆเนศทั้งสองชนิดครับ

ขวดใส่น้ำอัดลมสมัยแรกๆ ประมาณยุคต้นๆของกรุงรัตนโกสินทร์ ที่ฝาขวดจะมีลูกแก้วปิดผนึกอยู่กันไม่ให้ฟองแก๊สไหลออกาจากขวด นึกสภาพน่าจะคล้ายๆกับขวดเหล้าสมัยนี้ยี่ห้อสีดำๆครับ แต่วัตถุประสงค์ต่างกัน สมัยนี้ป้องกันการเติมเหล้าปลอมครับ

 

หมายเลขบันทึก: 309930เขียนเมื่อ 31 ตุลาคม 2009 14:28 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 21:49 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)
  • เคยพบอาจารย์เกริกที่ มศว ประสานมิตรครับ
  • ชอบไปดูอาจารย์เขียนการ์ตูน
  • น้ำเต้าเอามาต้มจิ้มน้ำพริก
  • เอามาแกงส้มก็ได้ครับ
  • ขำๆๆคนใต้เพื่อนผมเรียกอันนี้ว่าขี้พร้า

555 อาจารย์รู้จักภาษาใต้มากกว่าผมอีก

เดียวจะลองให้แฟนไปซื้อมาทำทานดู แต่แถวนี้หายากพอสมควรเลย

ว่างๆจะขอแวะเข้าไปเยี่ยมอาจารย์หน่ะครับ

ตามมาขอบคุณ ฮาเลยครับ ใช่ครับ หนังสือไทยก็ได้ หนังสือภาษาอังกฤษก็ดีครับ

  • ตามมาแจ้งแบบด่วนๆๆครับ
  • ทางโรงเรียนแจ้งมาว่าของถึงแล้วครับ
  • วันงานจะถ่ายรูปให้ดูนะครับ
  • ขอบคุณมากๆๆครับ
  • เอาผีเสื้อมาฝากหลาน
  • ชื่อ ผีเสื้อหนอนข้าวสารลายเสือ ครับ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท