ห้องเรียน No Paper (ตอนจบ)

หลังจากรับประทานอาหารมื้อเที่ยงที่โรงเรียนสภาราชินี จังหวัดตรังแล้ว ท่าน ผ.อ.ได้แลกเปลี่ยนกันแนะนำบุคลากรหลักพอได้รู้กัน จากนั้นก็ถูกเชิญไปที่ห้องประชุมเล็ก เนื่องากห้องประชุมใหญ่ติดอบรมครูเรื่องการทำบทเรียนคอมพิวเตอร์ CAI

ในการมาศึกษาดูงานที่ตรังครั้งนี้ (ครั้งที่ 2) ผู้เขียนโชคดีที่ได้มีโอกาสพบกับพี่สาวใจดีชื่อพี่หนุ่ย หรือชื่อจริง จิราภรณ์ พันธ์ไพโรจน์ ครู โรงเรียนสวัสดิ์รัตนาภิมุข เป็นโรงเรียนมัธยมประจำอำเภอ เป็นรูมเมทกันเกือบ 1 เดือน ตั้งแต่ปี 2549 ในการอบรมโครงการ Network Training Program ซึ่งจัดโดย สถาบันภาษาอังกฤษ สพฐ. ร่วมกับสถานเอกอัคราชฑูตอเมริกาประจำประเทศไทย และสถาบันสอนภาษา A.U.A. พี่หนุ่ยมารอพบตั้งแต่ 11.00 น. ดีใจที่ได้พบกัน ได้ซื้อของฝากจากอีสานมาฝากพี่หนุ่ยหลายอย่างค่ะ ดีใจมากที่ได้พบกัน

ระหว่างทางเดินไปห้องประชุม เดินผ่านโรงอาหารของโรงเรียนที่สะอาดมาก ได้ทราบจากท่าน ผ.อ. ว่าได้รับรางวัลโรงอาหารดีเด่นระดับประเทศ จึงเก็บภาพมาฝากค่ะ

ท่าน ผ.อ. สมพงษ์ แคนยุกต์ บรรยายห้องเรียน No Paper ด้วยตนเอง และทีมงาน

ห้องเรียน No Paper เป็นโครงการพิเศษที่โรงเรียนจัดขึ้นเพื่อส่งเสริมและสนองความต้องการของนักเรียนและผู้ปกครองที่มีความสนใจเรื่อง ICT ทางโรงเรียนเปิดให้มีห้องเรียนนี้ระดับชั้นละ 2 ห้องเรียน นักเรียนจัดซื้อเครื่อง Notebook เป็นของตนเอง การเรียนการสอน ครูจัดทำบทเรียนออนไลน์ (e-learning)เป็นหลัก โดยใช้โปรแกรม Moodle เปิดทำการสอนมาได้ 3 ปีแล้ว ขณะนี้มีบทเรียนออนไลน์ (e-learning) ครบทุกระดับชั้น มีตัวอย่างบทเรียนและคุณครูก็สาธิตการสอนให้ดูด้วยค่ะ

อย่างไรก็ตาม คุณครูก็ยังยืนยันว่า No Paper ได้ไม่เต็ม 100 % นัก ทั้งนี้ อาจมีใบงานให้เด็กๆได้เขียนบ้าง เพราะเกรงว่า เด็กจะเขียนไม่เป็นหรือลืมการเขียนไปเลย การสอบก็สอบออนไลน์ โดยได้รับการช่วยเหลือ และที่ปรึกษาจากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ค่ะ

จริงๆ แล้ว ที่โรงเรียนของผู้เขียน (สหัสขันธ์ศึกษา สพท.กาฬสินธุ์ เขต 1) เป็น ร.ร.ต้นแบบในฝันรุ่นแรก ก็เคยอบรมการทำบทเรียนออนไลน์มา 3-4 ครั้ง แต่ความที่เป็น ส.ว. และไม่นำมาใช้บ่อยๆ ก็เลยลืม

หลังจากรับประทานอาหารค่ำที่แสนอร่อยที่ร้านปลาเผาของเมืองตรัง โดยมีท่านรอง ผ.อ. ร.ร. สภาราชินี แนะนำดูแลอย่างดี แล้ว...พี่หนุ่ย...เจ้าของบ้านจึงเป็นไกด์พาไปเที่ยวงานลากพระ (ออกพรรษา) ที่บริเวณสนามกีฬากลาง เก็บภาพบรรยากาศมาฝากชาว G2K ด้วยค่ะ

คืนนั้น...นอกจากจะได้อิ่มตาแล้ว...ยังได้อิ่มบุญด้วย เพราะเรือแต่ละลำ จะมีบาตร ให้เราได้หยอดเหรียญทำบุญด้วยค่ะ

ภายในงานยังมีสามเณรน้อย...จำหน่ายหนังสือธรรมให้เลือกซื้อจำนวนมาก

รุ่งเช้า ด้านข้างโรงแรม ธรรมรินทร์ หันไปพบอาคารสวยๆ เลยเก็บภาพมาฝากอีกค่ะ

และพลาดไม่ได้...พี่หนุ่ยกับแฟน มารับแต่เช้าเพื่อไปรับประทานหมูย่างเมืองตรังและโกปี้

ช่วงนี้มีการปรึกษาหารือกันว่า...คณะเราจะลงทะเลไปดูถ้ำมรกตกันหารือไม่ ปรากฎว่า พายุเข้า เราก็เลยบายค่ะ แต่พี่หนุ่ยก็ยังพาไปชมบรรยากาศที่ชายทะเลเมืองตรัง หาดสั้น หาดยาว ที่ยังเป็นธรรมชาติที่สวยงามค่ะ

และนี่คือภูเขาที่มีชื่อว่า นางพันธุรัตน์ ค่ะ ดูดีๆ เป็นนางยักษ์ตอนนอนตายค่ะ

ต้องขอบคุณไกด์ใจดีของเราอีกครั้ง พี่หนุ่ยบอกว่า...คนตรังใจดีและใจกว้าง พวกเราเห็นว่าเป็นเช่นนั้นจริงๆค่ะ

ระหว่างการเดินทางกลับ...ก็อดแวะซื้อของฝากจากที่นี่ไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องกล้วยๆ (ท่าแซะ)

และไม่ลืมแวะชมทะเล...ที่หัวหิน...เพื่อย้อนอดีตวัยหนุ่มวัยสาวกัน

ดูดู๋...แต่ละคน...แต่ละวัยสิคะ อิอิ

อ้อ...ติดใจบรรยากาศร้านอาหารในปั๊ม ป.ต.ท. แถวๆ ประจวบฯ อยู่ร้านหนึ่งเลยเก็บภาพมาฝากอีกค่ะ

ตกลงว่า...ทั้ง งานทั้งเที่ยว เป็นเรื่องเดียวกัน สุขสันต์ในวันปิดเทอมกันค่ะ

ขอบคุณที่มาร่วมแบ่งปันค่ะ

โรงเรียนสภาราชินี

ประวัติโรงเรียน

สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ผู้ให้กำเนิดโรงเรียนสภาราชินี

ภาพตราโรงเรียนสภาราชินี จังหวัดตรัง

โรงเรียนสภาราชินีถือกำเนิดขึ้นจากพระราชประสงค์ อันกอปรด้วยพระมหากรุณาธิคุณ ของสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พระบรมราชินีนาถใน พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

ในปีพุทธศักราช 2459 ทางการได้ย้ายศาลากลางจังหวัด จากอำเภอกันตัง มาตั้งที่อำเภอบางรัก และได้ย้ายครู-นักเรียนจากโรงเรียนตรังคภูมิ ซึ่งเป็นโรงเรียนประจำจังหวัดเดิม มาเรียนที่โรงเรียนวิเชียรมาตุ โรงเรียนประจำจังหวัดใหม่ ในวันที่ 1 พฤษภาคม พุทธศักราช 2459 ซึ่งขณะนั้นกำลังก่อสร้างอาคารบางส่วนอยู่ เมืองตรังที่ตั้งใหม่เจริญขึ้นอย่างรวดเร็ว ประชาชนสนใจการศึกษาอย่างมาก ทำให้โรงเรียนวิเชียรมาตุ ไม่สามารถรับนักเรียนได้พอกับความต้องการ จึงต้องตัดจำนวนนักเรียนส่วนหนึ่งออก ความทราบถึงสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระองค์จึงพระราชทานทรัพย์สินส่วนพระองค์เพิ่มเติมอีกเป็นจำนวน 2,000 บาท สร้างอาคารเรียนหลังที่สองขึ้น พร้อมพระราชทานนาม อาคารหลังนั้นว่า สภาราชินี

กระทั่งปี พ.ศ. 2475 จังหวัดตรังได้เปิด โรงเรียนสตรีประชาบาล เป็นโรงเรียนสำหรับกุลธิดาของจังหวัดตรัง ได้ใช้อาคารสภาราชินี เปิดดำเนินการสอนนักเรียนฝ่ายสตรีจนกระทั่ง ปีพุทธศักราช 2478 ได้ย้ายนักเรียนสตรีจากอาคารสภาราชินี ไปอยู่ที่โรงเรียนสตรีประชาบาล และต่อมาได้ใช้ชื่อ อาคารสภาราชินี เป็นชื่อ 'โรงเรียนสภาราชินี' จนถึงปัจจุบัน

สภาราชินี เป็นมงคลนามที่ได้รับพระราชทานจากสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พระบรมราชินีนาถใน พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโรงเรียนเคยอยู่ในโครงการ คมช.รุ่นที่ 7 ได้รับคัดเลือกเป็นโรงเรียนรับรางวัลพระราชทานระดับมัธยมศึกษา ขนาดใหญ่ ประจำปีการศึกษา 2524 , ปีการศึกษา 2532 และปีการศึกษา 2541 ตามลำดับ

เขียนใน GotoKnow โดย ครูอรวรรณ
ใน เล่าขานผ่านการสอน

คำสำคัญ (Tags): #no paper#ร.ร.สภาราชินี#ศึกษาดูงานการเรียนการสอน

หมายเลขบันทึก: 309793เขียนเมื่อ 30 ตุลาคม 2009 21:45 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 21:49 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่าน