รับเหมากรมทางฯ ป่วนรัฐเงินฝืด ไม่จ่ายค่างวด-แห่ปิดกิจการอื้อ!
ผู้รับเหมากรมทางหลวงป่วนหนัก แฉโดนดึงทั้ง "ค่างวด- ค่าเค"
แห่ปิดกิจการรายเดือน สถิติขึ้นทะเบียนผู้รับเหมาสร้างทางลดฮวบ
50% ชี้รัฐบาลเงินขาดมือหนักดึงค่างวดสร้างทางนาน 4 เดือนเต็ม
แถมปัญหาระบบ อีออกชั่นเป็นตัวถ่วง
มีงานรอประมูลถึง 28 สายทาง มูลค่า 2 หมื่นล้านบาท
นายชัยสวัสดิ์
กิตติพรไพบูลย์ อธิบดีกรมทางหลวง เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า
การเบิกจ่ายงบประมาณปี 2549 ของกรมทางหลวงมีความล่าช้าบ้าง
ในส่วนของงบฯ ลงทุนก่อสร้าง
โดยล่าสุดมีการเบิกจ่ายแล้วประมาณ 24.84%
จากประมาณการทั้งปีตั้งเป้าไว้ต้องเบิกจ่ายให้ได้ 73%
โดยงบประมาณของปี 2549 ได้รับการจัดสรรมา 37,561.52 ล้านบาท
เป็นงบฯ รายจ่ายลงทุน 34,776.12 ล้านบาท รายจ่ายประจำ 2,785.40
ล้านบาท ขณะนี้งบฯ ลงทุนมีการเบิกจ่ายไปเพียง 8,638 ล้านบาท
ส่วนงบฯ รายจ่ายประจำมีการเบิกจ่ายไป 68.65% จำนวน
1,912.12 ล้านบาท
กรมอยู่ระหว่างดำเนินการเร่งรัดการเบิกจ่ายให้เป็นไปตามเป้า
แม้ว่าจะเหลือระยะเวลาแค่ 2-3 เดือนจะสิ้นปีงบประมาณ
แต่คาดว่าจะเบิกจ่ายได้ไม่ต่ำกว่า 70%
ทั้งนี้
เมื่อประเมินปัญหาอุปสรรคที่ทำให้การเบิกจ่ายเงินล่าช้าพบว่ามาจาก
4-5 ประเด็นหลัก ๆ ประกอบด้วย 1)
ปัญหาภายในของกรมเป็นเรื่องของการกำหนดรูปแบบการก่อสร้างที่มีการปรับปรุงแก้ไขแบบให้สอดคล้องกับราคาค่าก่อสร้างในปัจจุบันและต้องเป็นไปตามหลักการทางด้านวิศวกร
การโอนเปลี่ยนแปลงงบประมาณ 2)
ปัญหาที่เกิดจากปัจจัยภายนอก คือ การประเมินราคาก่อสร้าง
การใช้เทคนิคในด้านวิศวกร สถาปัตยกรรม
การขอความเห็นชอบด้านผลกระทบสิ่งแวดล้อม
ต้องขอความร่วมมือจากหน่วยงานภายนอก ทำให้ล่าช้า
3) สาเหตุที่มาจากเรื่องสภาพดินฟ้าอากาศ
ปัญหาฤดูกาล เช่น ฝนตก เกิดอุทกภัยใน 8 จังหวัดภาคใต้
ทำให้ผู้รับเหมาก่อสร้างงานไม่ได้ ขาดแรงงาน เครื่องจักรเครื่องมือ
วัสดุก่อสร้าง ทำให้งานล่าช้า 4)
ปัญหาระเบียบอีออกชั่นใหม่
เพราะจนถึงขณะนี้กรมยังไม่สามารถเปิดประมูลได้
ทั้งที่มีงานรอประมูลอยู่ 28 สายทาง มูลค่าก่อสร้างประมาณ 20,000
ล้านบาท
ก็เป็นอีกภารกิจหนึ่งที่กรมกำลังเร่งดำเนินการเพื่อให้ทันเบิกจ่ายงบประมาณของปีนี้
ตามแผนงานประมูลระบบอีออกชั่น
คาดว่าภายในเดือนมิถุนายน-กรกฎาคมนี้น่าจะเริ่มได้
ซึ่งเมื่อเซ็นสัญญาแล้วผู้รับเหมาสามารถเบิกส่วนแรก 15%
ได้เลยโดยไม่ต้องมีผลงาน 5)
ปัญหาการเบิกเงินล่าช้าที่เป็นผลกระทบต่อเนื่องมาจากงบประมาณปี 2548
ทั้งนี้ พบว่ามีหลายสัญญาที่เปิดประมูลไปเมื่อปีงบประมาณ 2548
ที่ผ่านมา แต่ไม่สามารถเซ็นสัญญาได้
เนื่องจากติดขั้นตอนในเรื่องของการเสนอพิจารณาอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี
(ครม.) และมีมติ ครม. ให้ต่อรองราคา
หรือรอราคาที่เหมาะสมจากสำนักงบประมาณ อธิบดีกรมทางหลวงกล่าวต่อว่า
สำหรับปีงบประมาณ 2550
กรมได้ขอตั้งงบประมาณรายจ่ายในเบื้องต้นไว้ประมาณ 82,000 ล้านบาท
แต่ยัง
ไม่ทราบว่าจะได้รับอนุมัติจากรัฐบาลเป็นวงเงินเท่าใด
ถ้าหากอนุมัติเต็มจำนวนวงเงินที่ขอไปก็ถือว่าเพิ่มขึ้นจากงบประมาณปี
2549 มากเป็นเท่าตัว เนื้องานหลักจะเป็นงบประมาณก่อสร้างถนน
รวมถึงการบำรุงรักษาทางด้วย และจากการประเมินปัญหาของกรมทางหลวง
พบว่าผู้รับเหมาที่ได้รับผลกระทบจากการเบิกจ่ายเงินล่าช้าน่าจะแบ่งเป็น
2 กลุ่มตามเนื้องานและมูลค่างาน ได้แก่ 1) กลุ่มผู้รับเหมารายเล็ก
มูลค่างานก่อสร้างต่ำกว่า 50 ล้านบาท
จะกระจายให้แขวงการทางและหมวดการทางจังหวัดเป็นผู้รับผิดชอบ
ระยะเวลาทำงานสั้นประมาณไม่เกิน 6 เดือน
ส่วนใหญ่มักจะเบิกจ่ายงวดเดียว
และมักจะเป็นกลุ่มที่ไม่ขอเบิกเงินล่วงหน้า 15%
เพราะมีปัญหาความยุ่งยากเกี่ยวกับภาระค่าธรรมเนียม
หลักทรัพย์ค้ำประกัน เป็นต้น 2)
กลุ่มผู้รับเหมารายกลาง-รายใหญ่ มูลค่างานก่อสร้างเกิน 50 ล้านบาท
จะทำสัญญากับกรมทางหลวงที่ส่วนกลางดูแลโดยตรง
พบว่าไม่ค่อยมีปัญหามากนัก
นายทรงศักดิ์ แพเจริญ
วิศวกรใหญ่ฝ่ายก่อสร้าง กรมทางหลวง กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า
ยอมรับว่าที่ผ่านมามีปัญหาค้างค่าเบิกจ่ายเงินงวดให้กับผู้รับเหมาเหมือนกัน
เนื่องจากต้องใช้งบฯ กลาง
คือตามขั้นตอนต้องทำเรื่องเบิกจ่ายกับกรมบัญชีกลาง
ซึ่งก็ไม่ทราบว่ากรมบัญชีกลางติดขัดเรื่องอะไรจนทำให้ผู้รับเหมาได้รับ
ค่างวดล่าช้า จากการตรวจสอบก็มีหลายงวดเหมือนกัน บางรายล่าช้า
3-4 งวด อย่างไรก็ตาม
ปัญหายังไม่วิกฤตจนถึงขั้นมีการทิ้งงานเหมือนกับที่เคยเกิดขึ้นในยุคที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจปี
2540
รวมทั้งดูแนวโน้มปัญหาการเบิกจ่ายล่าช้าไม่น่าจะมีผลกระทบต่อเนื่องไปถึงปีงบประมาณ
2550 เพราะเป็นสัญญางบฯเหลื่อมปีที่กันเบิกไว้ได้
ประเด็นเรื่องการปิดตัวลงของผู้รับเหมาที่รับงานกับกรมทางหลวงนั้น
นายทรงศักดิ์กล่าวว่า สถิติปัจจุบัน
มีผู้รับเหมามาจดทะเบียนกับกรมทางหลวงในสัดส่วนที่ลดลงมากกว่า 50%
โดยสถิติปี 2547 เดิมมีผู้รับเหมาขึ้นทะเบียนมากกว่า 1,000 ราย
ต่อมากรมมีนโยบายปรับปรุงหลักเกณฑ์คุณสมบัติผู้รับเหมาขึ้นทะเบียนรับงานกับกรมใหม่ส่งผลให้ปี
2548 สถิติผู้รับเหมาจดทะเบียนลดเหลือ 565 ราย และปี 2549
สถิติจดทะเบียนใหม่ เดือนมกราคม-พฤษภาคม 2549 มีเพียง 14
ราย
อาจจะเป็นเพราะภาวะเศรษฐกิจและการปรับหลักเกณฑ์คุณสมบัติผู้รับเหมาขึ้นทะเบียนให้รัดกุม
เข้มงวด และมีมาตรฐานมากขึ้น
แหล่งข่าวจากผู้รับเหมาก่อสร้างกล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ"
เพิ่มเติมว่า ช่วงต้นปีที่ผ่านมา
มีผู้รับเหมาหลายรายได้รับผลกระทบจากการเบิกจ่ายเงินล่าช้าจากหน่วยงานราชการ
โดยเฉพาะกรมทางหลวง ล่าช้าไป 3-4 เดือน
เพิ่งได้รับงวดเงินเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา
โดยทางหน่วยงานบอกว่าเป็นเพราะติดขัดการเบิกจ่ายงบประมาณจากกรมบัญชีกลาง
ที่ต้องรอรายได้จากการเก็บภาษีเสียก่อน
ขณะนี้กำลังรอดูเงินงวดใหม่ว่าจะมีการค้างจ่ายอีกหรือไม่
นายพลพัฒ กรรณสูต กรรมการผู้จัดการ บริษัท เนาวรัตน์พัฒนาการ จำกัด
(มหาชน) และนายกสมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างแห่งประเทศไทย
ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า ปัญหาการเบิกจ่ายเงินค่างวดล่าช้านั้น
เป็นที่รับรู้ในวงการรับเหมาก่อสร้างว่าเริ่มมีให้เห็นและมีผลกระทบต่อผู้ประกอบการรายเล็กเป็นอย่างมาก
และมีการทยอยปิดตัวลงเนื่องจากไม่มีงานรับเหมาอยู่ในมือ
สาเหตุน่าจะมาจาก 2-3 ประเด็นหลัก ๆ คือ
ขาดเงินทุนหมุนเวียน ประสบปัญหาน้ำมันแพง ทำให้สายป่านไม่ยาว
จนต้องปิดตัวลงแทบทุกเดือน รวมถึงปัญหาใหญ่ก็คือ "ค่าเค"
หรือค่าเงินชดเชยตามต้นทุนที่เปลี่ยนแปลง
ซึ่งรัฐไม่ได้ชดเชยค่าเคให้อย่างเต็มที่ตามความเสี่ยงที่เกิดขึ้น
ทำให้ตอนนี้มีแต่ผู้รับเหมารายกลางและรายใหญ่ที่อยู่รอดได้
"ที่ผมแปลกใจมากคือ แม้แต่สมาชิกของสมาคม
พบว่ามีผู้รับเหมาที่ค้างชำระค่าสมาชิกสมาคม
ซึ่งถือเป็นปรากฏการณ์อย่างมาก เพราะค่าสมาชิกแค่ 10,000
กว่าบาทเท่านั้น มีสมาชิกแจ้งไม่จ่ายมากกว่า 10 รายแล้ว
เท่ากับว่าวงการผู้รับเหมาตอนนี้ปั่นป่วนพอสมควร
ทางสมาคมเปิดให้สมาชิกมาลงชื่อแจ้งปัญหาที่ประสบ
ตอนนี้อยู่ระหว่างรวบรวมปัญหาเพื่อเตรียมเสนอขอความช่วยเหลือสนับสนุนจากรัฐบาลต่อไป"
นายพลพัฒกล่าวในฐานะกรรมการผู้จัดการบริษัทเนาวรัตน์ฯ ว่า จริง ๆ
แล้วบริษัทมีสัญญาก่อสร้างทางอยู่กับกรมทางหลวงเช่นกัน
และเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา บริษัทประสบปัญหาการเบิกจ่ายเงินล่าช้า
1 เดือน ได้รับการแจ้งว่าขั้นตอนล่าช้าเพราะติดอยู่ที่กับกรมบัญชีกลาง
แต่ตอนนี้เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว
ประชาชาติธุรกิจ 25 พ.ค. 49
คำสำคัญ (Tags): #uncategorized หมายเลขบันทึก: 30944เขียนเมื่อ 26 พฤษภาคม 2006 09:03 น. ()แก้ไขเมื่อ 22 พฤษภาคม 2012 12:23 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:
ความเห็น (0)
ไม่มีความเห็น