ในขณะที่หลายๆท่านคิดว่า การที่จะเป็น Research Based University ได้นั้น ต้องมุ่งพัฒนาที่บัณฑิตศึกษา มีการเปิดหลักสูตรแบบ inter หรือการผลักดันให้ตีพิมพ์ผลงานทางวิชาการในวารสารต่างประเทศที่มี impact factor สูงๆ ส่วนหนึ่งดิฉันก็เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง เพียงแต่ไม่อยากให้มุ่งคิดดิ่งไปในทิศทางเดียว โดยลืมนึกถึงรากฐานที่สำคัญใกล้ตัวอีกหลายๆอย่าง
สำหรับมหาวิทยาลัย อย่างไรเสียก็ต้องมีภาระหน้าที่หลัก ในการผลิตบัณฑิตระดับปริญญาตรี ดังนั้น ดิฉันจึงดีใจ ที่ยุทธศาสตร์การบริการงานวิจัยของมหาวิทยาลัยนเรศวรไม่ลืมนิสิต ป.ตรี และให้ความสำคัญต่อการใช้งานวิจัยเป็นฐานในการจัดการเรียนการสอน ส่งเสริมให้นิสิตระดับ ป.ตรี ทุกสาขาวิชาทำโครงงานวิจัย (Mini Project) และสนับสนุนให้นิสิตส่งผลงานเข้าประกวดในทุกๆ ระดับ โดยมีรางวัลให้ ตั้งแต่การประกวดระดับมหาวิทยาลัย ระดับภูมิภาค ไปจนถึงระดับประเทศ เป็นเช่นนี้ต่อเนื่องกันมาหลายปีแล้ว
นอกจากนี้ ยังไม่ลืมบุคลากรสายสนับสนุน มีการสนับสนุนในทุกวิถีทาง ที่จะส่งเสริมให้บุคลากรเหล่านี้ สร้างงานวิจัยจากงานประจำ ทั้งการจัดอบรม จัดหา Mentor มาประกบ จัดเวทีให้นำเสนอผลงาน ให้รางวัล สารพัด
เรื่องติดดินที่ไม่ลืมอีกเรื่องคือ ไม่ลืมชุมชน ซึ่งเห็นได้จากการมุ่งแสวงหาประเด็นปัญหาของชุมชนในงานบริการ Mobile Unit มีความพยายามที่จะตั้งเกณฑ์การพิจารณาให้ทุนวิจัยแก่คณาจารย์ในเรื่องที่สนองตอบต่อปัญหาของชุมชน การพยายามเฟ้นหาโจทย์วิจัยในภูมิภาคที่เป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัย เป็นต้น
เหล่านี้ ล้วนเป็นสิ่งใกล้ตัว ที่เรามักจะมองข้าม ก็ถ้า ป.ตรี ไม่ถูกขุนมาให้ คิดเป็น ทำเป็น ตั้งแต่อ้อนแต่ออก แล้ว จะเอา input ป.โท ป.เอก ดีดี ได้ที่ไหน?
ก็เหมือน ที่เรามุ่งทำงานหาเงิน ชื่อเสียงเกียรติยศ หรือแม้แต่มุ่งงานเพื่องาน จนลืมบุคคลสำคัญในครอบครัว ยังงัยอย่างงั้นเชียว (เตือนตัวเองคะ)