ถ้าทำได้มันคงดี...แต่ยังไงคนไข้ก้อยังมากอยู่ดีเนอะ
ครับ ปัญาคนไข้มาก คงแก้ยาก
เพราะมีคนไข้อีกมากมาย
ที่ยังไม่เข้าถึงการรักษาครับ
นโยบายบังคับให้ผู้ป่วยวัณโรค ต้องมาอยู่ในรพ. เพื่อป้องกันการไม่รับประทานยาตามแพทย์สั่ง น่าจะเป็นตัวอย่างของการใช้ระบบโรงพยาบาลมากไป นะครับ
ดิฉันเข้าโรงพยาบาลที...สงสารคนไข้มากมายที่รอหมอ.....สงสารหมอ..พยาบาลหน้าห้อง ตลอดจนเภสัชกรที่ทำงานกัน อย่างหนัก...ได้พักเที่ยงแค่ 1 ชั่วโมง....ยืน...พูด...บันทึก...ซักถาม....รองรับอารมณ์ผู้ป่วย จนเลิกงานถึงได้หยุด....แต่เงินก็ดีกว่าอาชีพอื่นๆ ในวุฒิที่เท่ากัน ...จริงไหมล่ะ
ผมว่า ครู ก็ลำบากมากครับ แม่ผมก็เป็นครูครับ
เภสัชกร เงินเดือนมากกว่า ครูแน่นอนครับ ดังนั้นครูน่าสงสารครับ
สวัสดีค่ะ นายศุภรักษ์ ศุภเอม
เข้ามาติดตามความคิดเห็นอีกครั้ง ครูถึงจะลำบากแต่ทำงานตามความคิดในการพัฒนางานของตนเอง สามารถพักได้เมื่อต้องการพัก อยู่กับการสร้างสรรค์ พัฒนา อยู่กับความน่ารักของเด็กๆ เวลาเปิดเรียน 200 วัน/ปี สามารถพัฒนาตนเองได้ถึงระดับ 9-10 ถ้าความสามารถถึง แต่เภสัชกรงานเสี่ยง อยู่กับความเสี่ยงด้านความปลอดภัยจากสารเคมี โรคจากผู้ป่วย ความเสี่ยงถูกฟ้องร้อง พัฒนาสู่ระดับสูงได้ยาก วันทำงานเยอะ
ขอให้อาจารย์ปริมปรางมีสุขภาพดีครับ