ความหมายของแผน
นักวิชาการหลายท่านได้อธิบายไว้ ในที่นี้ขอยกตัวอย่างเพียงเพื่อเป็นแนวทางที่ทำให้เข้าใจแผนได้ดีขึ้น Breton และ Henning (1961, p. 7) ได้อธิบายไว้ว่า แผนหมายถึงวิถีของการกระทำที่กำหนดไว้ก่อนล่วงหน้าแล้ว (predetermined course of action) แผนประกอบด้วยลักษณะ 3 ประการ คือ (ก) จะต้องเกี่ยวข้องกับอนาคต (ข) จะต้องเกี่ยวข้องกับการกระทำ และ (ค) จะต้องมีปัจจัยที่ชี้ให้เห็นว่าเป็นเรื่องส่วนตัวหรือเรื่องขององค์การ
จากนิยามดังกล่าวพออธิบายสรุปได้ว่า แผนก็คือข้อกำหนดแนวทางปฏิบัติเพื่อนำไปดำเนินการในอนาคต แผนอาจเป็นของบุคคลหรือขององค์การก็ได้ เมื่อมีแผนแล้วผู้ปฏิบัติตามแผนสามารถใช้เป็นแนวทางในการทำงานได้ และในการทำงานนั้นก็คงต้องมีปัจจัยสำคัญตามหลักการ คือต้องมีคน มีเงิน มีวัสดุเครื่องใช้ และมีการจัดการที่ดีด้วย
ตามความหมายโดยทั่วไป แผนงานจะหมายถึงการรวมเข้ด้วยกันของโครงการหลายๆโครงการ ที่มีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กัน อันอาจเป็นโครงการที่มีลักษณะงานเหมือนกัน หรือแตกต่างกันก็ได้
ส่วนโครงการนั้นหมายถึงกลุ่มของกิจกรรม ที่มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องสนับสนุนซึ่งกันและกัน เนื่องจากแต่ละกิจกรรมมีวัตถุประสงค์ของตัวเอง ดังนั้นเมื่อทำให้บรรลุสำเร็จตามวัตถุประสงค์ของกิจกรรมต่างๆ ทั้งหมดแล้วย่อมส่งผลโดยตรงให้วัตถุประสงค์ของโครงการนั้นบรรลุสำเร็จด้วย โดยปกติโตรงการจะมีลักษณะพิเศษและทำครั้งเดียวเสร็จ และเมื่อทำเสร็จแล้วก็เลิกโครงการนั้นไป เพราะเป็นไปตามวัตถุประสงค์แล้ว เช่น โครงการสร้างเขื่อน โครงการป้องกันอุทกภัย เป็นต้น
ด้วยเหตุที่แผน แผนงาน และโครงการต่างก็เป็นแผนหรือการกำหนดวิถีการทำงานไว้ล่วงหน้าว่าจะทำอะไร อย่างไร โดยแผนมีลักษณะขอบเขตและเนื้อหาใหญ่และกว้างขวางกว่าแผนงาน และแผนงานก็ใหญ่กว่าโครงการ เช่นเดียวกันกับองค์การและขอบข่ายของงานกว้างย่อมจะแบ่งเป็นหน่วยงานย่อยระดับจากบนลงล่าง เช่น กระทรวง ทบวง กรม กอง แผนก และงานเป็นต้น ในทำนองเดียวกันแผนก็แบ่งเป็นแผนงานและโครงการ
ดังนั้น แผนขององค์การขนาดใหญ่จึงจำเป็นต้องแบ่งเป็นสัดเป็นส่วนย่อยหลายระดับและหลายสาขางาน ดังจะเห็นได้จากโครงสร้างของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 5 ประกอบด้วยด้าน (sectors) ต่างๆ 12 ด้าน คือ
ในแต่ละด้านดังกล่าวมานี้ยังแบ่งออกเป็นสาขา (subsectors) ซึ่งมี 44 สาขาด้วยกันแต่ละสาขา
แบ่งออกเป็นแผนงาน (programs) ซึ่งมี 131 แผนงาน แต่ละแผนงานแบ่งเป็นแผนงานรอง (subprograms) มีจำนวนมากซึ่งไม่สามารถระบุได้ และในแต่ละแผนงานรองยังแบ่งออกเป็นงานหรือโครงการ (works or projects) ซึ่งมีจำนวนมากขึ้นไปอีก
การแบ่งแผนออกเป็นส่วนย่อยระดับต่างๆ ดังกล่าวนี้แสดงให้เห็นการแบ่งหมวดหมู่ตามลักษณะของงานหรือวัตถุประสงค์ เพื่อเป็นแนวทางให้ผู้ที่วางแผนหรือปฏิบัติตามแผนที่เกี่ยวข้องร่วมมือประสานงานกันในทุกระดับ ส่วนการปฏิบัติหรือกระทำการให้เป็นผลสำเร็จตามวัตถุประสงค์นั้นจะอยู่ที่งานหรือโครงการซึ่งเป็นหน่วยกระทำการเหมือนกับงานและแผนกตามโครงสร้างของระบบราชการ
ไม่มีความเห็น