เป็นวิทยากรเเลกเปลี่ยนให้กับพี่น้องชาวหอผู้ป่วยเด็ก 2ค พัฒนาระบบการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายในหอผู้ป่วยทารกเเรกเกิด
วัที่ 13 ต.ค.52 ที่ผ่านมาเป็นการบริหารเวลาที่คุ้มค่ามาก ช่วงบ่ายของการประชุมวิชาการคณะเเพทย์ ฉันเองต้องปลีกเวลาเพื่อไปเป็นวิทยากรเเลกเปลี่ยนในหัวข้อ การดูแลเพื่อให้พ้นผ่านระยะเศร้าโศกจากการสูญเสีย( bereavement care ) ให้กับทีมการพยาบาลหอผู้ป่วยทารกเเรกเกิด 2ค ซึ่งตอนนี้น้องลูกหมี พยาบาลคนขยันเธอจุดประกายไฟลุกโชนจากการได้ไปร่ำเรียนหลักสูตรป.โท สาขาการพยาบาลเด็ก มข. ของเรานี่เอง ในการเริ่มโครงการย่อยการพัฒนาระบบการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายในทารกเเรกเกิด ดีใจมากที่มีคนรัก palliative มากขึ้น การตอบรับมาบรรยายในบ่ายของวันนี้จึงเป็นเรื่องที่ฉันทำด้วยความยินดี
เที่ยงครึ่ง ฉันเดินทางไปถึงตึก สว. ชั้น 18 เพื่อเตรียมการบรรยายปรากฎว่าไปถึงการบรรยายภาคเช้ายังไม่จบ เข้มข้นมากมีท่านอาจารย์จากคณะพยาบาลมาช่วย 2 ท่าน ผศ.พูลสุข ศิริพูลเเละ รศ.ดร.จินตนา ตั้งวรพงศ์ชัย
กำหนดการ
การประชุมวิชาการ เรื่อง การพัฒนาความรู้ของบุคลากรในการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายในทารกเเรกเกิด
วันที่ 13 ตุลาคม 2552 เวลา8 .00 น. -16.00 น.
ณ ห้องประชุมตึก สว2 .ชั้น 18 ห้อง 7
……………………………………………………………………………………………………….
8.00 น. – 8.30 น. ลงทะเบียน
8.30 น. – 8.45 น. พิธีเปิด
โดย : นาง สุชีลา เกษตรเวทิน
ผู้ตรวจการแผนกการกุมารเวชกรรม
8.45 น. -10.15 น. ความหมายและแนวคิดการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย
โดย: รศ.ดร. จินตนา ตั้งวรพงศ์ชัย
10.15น. -10.30น. พักรับประทานอาหารว่าง
10.30น. -12.00 น. การจัดการอาการเพื่อสร้างความสุขสบายให้เด็กได้ตายอย่างสงบ
โดย: ผศ.ดร. พูนสุข ศิริพูล
12.00น. -13.00 น. พักรับประทานอาหารกลางวัน
13.00น. -14.30 น. Bereavement care
โดย: นาง สุธีรา พิมพ์รส
พยาบาลประจำหอผู้ป่วย 3ง
14.30น. -16.00 น. แลกเปลี่ยนประสบการณ์การดูแลผู้ป่วยเด็กระยะสุดท้าย
และตอบแบบสอบถามความพึงพอใจ
……………………………………………………………………………………………………….
เมื่อได้เวลาจึงเริ่มการบรรยาย การบรรยายในครั้งนี้ฉันมีเวลา 1 ชั่วโมงครึ่ง คิดว่ามากพอที่จะทำให้ฉันมีโอกาสได้เล่าเรื่องราวการให้การช่วยเหลือครอบครัวสูญเสียได้อย่างละเอียด นับตั้งเเต่ conceptของเรื่อง การริเริ่มจุดประกายก่อเกิดโครงการการดูแลครอบครัวสูญเสีย ฉันย้ำกับผู้ฟังว่าสำคัญคือจะต้องมี bereavement co-ordinator ที่จะต้องประสานเเละเป็นเหมือนผู้ให้คำปรึกษาครอบครัวได้ เเต่ละสไลด์ที่ค่อยๆฉายขึ้น ฉันตั้งใจอย่างยิ่งว่าให้ทุกคนเห็นภาพในทุกโปรเเกรมการดูแลที่ฉันเเละทีมเด็กมะเร็งได้ทำ สามารถนำลงสู่การปฏิบัติได้เลย ไม่ว่าจะเป็นโครงการภาพประทับใจที่ทำ memory เก็บไว้ให้ครอบครัว โครงการจดหมายคลายทุกข์ กำลังใจเเด่น้อง ที่เขียนจดหมายให้กำลังใจโครงการรำลึกถึงน้องผู้จากไป โครงการติดตามดูแลให้กำลังใจ ให้คำปรึกษาทางโทรศัพท์ จนกระทั่งครบ 1 ปีของการจากไปของเด็ก ก่อนจะถึงสไลด์สุดท้ายฉันบอกกับผู้ฟังว่า อย่าลืมดูแลตัวเองเเละทีม (Team empowerment)เพราะการอยู่กับความทุกข์ของครอบครัวสูญเสียมีบางครังที่เราเองน้อมเอาทุกข์นั้นมาใส่ตัวเราด้วย เพราะเจอกับตัวเองบางเวลาเกิดความกลัวเเละหวาดหวั่นว่าวันหนึ่งหากเราต้องสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก เราจะเป็นอย่างไรเพราะฉะนั้น
• ควรหยุดพักอย่างสม่ำเสมอ
•ส่งต่อหรือขอให้ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางในสถานการณ์นั้นมาช่วยกรณี case ที่มีปัญหาซับซ้อน
•รู้จักผ่อนคลายในแต่ละวัน
•มีการทำกิจกรรมให้เกิดความเพลิดเพลินในแต่ละวัน
•ยอมรับในการเป็นผู้ให้ความช่วยเหลือในขอบเขตที่จำกัด
ถ้ามีความเครียดมากให้ถอยห่างออกก่อน
•บอกตัวเองเเละทีมว่าการให้การช่วยเหลือครอบครัวสูญเสียเป็นสิ่งที่เราเลือกที่จะทำ ไม่ใช่เราจะต้องทำ
ฉันจบการบรรยายด้วยสไลด์รูปพระอาทิตย์ตกดิน ที่มองเห็นความมืดสลัวสลัว เเต่มองเข้าไปลึกๆเเล้วในความมืดสลัวก็ยังมีความงดงาม เฉกเช่นความสูญเสียทุกคนยอมรับว่าหากใครได้เจอกับตัวคงพูดไม่ออก ว่าทุกข์ขนาดไหน การดูแลครอบครัวสูญเสียจึงเป็นอีกเเง่งามหนึ่งของงานบริการสุขภาพ ในความมืดมิดจึงไม่ได้โหดร้ายเสมอ เเต่ยังมีความงามให้เราได้เห็นเเละได้เรียนรู้
เเละปิดการบรรยายสุดท้ายจริงๆด้วย multivision อาลัยรักน้องนิ้ง ที่เคยนำไปฉายประกอบการบรรยายเเลกเปลี่ยนให้กับพี่น้อง SHA เมื่อครั้งเดินสายไปกับทีมเเม่ต้อย ในช่วงเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม ที่ผ่านมา โดยพี่น้อง SHA ภาคอีสาน เหนือ เเละภาคกลางได้ชมสไลด์นี้เเล้ว
ฉันเชื่อว่าเรื่องราวของน้องนิ๊ง บทกลอนของคุณตาที่กลั่นกรองจากหัวใจผู้สูญเสีย ภาพทุกภาพในสไลด์ บอกให้ทราบถึงการดูแลน้องนิ้งเเละครอบครัวของทีมทุกๆ process นับตั้งเเต่น้องป่วย เเละจนกระทั่งถึงวาระสุดท้าย เรียกว่าทำเอาหลายคนร้องไห้เพราะ in เอามากๆ ฉันเองอยากให้ผู้ฟังได้ร่วมรับรู้ความรู้สึกของผู้สูญเสีย ความทุกข์ยาก ความเจ็บปวด กับการที่ต้องเสียลูก- หลาน อันเป็นที่รัก อยากจุดประกายให้ผู้ฟังได้คิดว่างานการดูแลครอบครัวสูญเสียเป็นงานที่ท้าทายอีกงานหนึ่งของทีมการดูแล เเละในวันนี้ฉันต้องขอขอบคุณพี่เขียว พี่สุดารัตน์ สุภาพงษ์ ( หัวหน้าฉันเองค่ะ) ที่มานั่งให้กำลังใจเเละที่สำคัญต้องขอบคุณที่นำลำโพงมาให้จนสามารถเปิด multivision ได้
ปิดท้ายการอบรมวันนี้ด้วยการเเลกเปลี่ยนเรียนรู้จากสมาชิกผู้เข้าอบรมว่าได้อะไร จากการอบรมครั้งนี้เเละคิดว่าเราจะเริ่มให้เป็นรูปเป็นร่างอย่างไร มีสมาชิกท่านหนึ่งได้พูดถึงความประทับใจที่มีต่อการฟังการนวดเพื่อผ่อนคลายในทารกเเรกเกิดที่ใกล้เสียชีวิตที่ท่านอาจารย์พูลสุขได้บรรยายไป ท่านหนึ่งบอกว่า "ชื่นชมในงาน bereravement care ที่น้องกุ้งเเละทีมเด็กมะเร็งทำ perfect เเละอยากทำให้ได้ค่ะเเต่ดูเหมือนจะยาก" ฉันจึง empower ว่า "ไม่ยากหากเรามีความตั้งใจที่จะทำ ค่อยๆเริ่มจากจุดเล็กๆ อย่างที่เราทำก็เริ่มจากจดหมายก่อน จากนั้นค่อยๆขยายผล ดูเหมือนเราทำได้เยอะ เเต่เเต่ละโปรเเกรมจะค่อยๆเกิดขึ้นเเละเชื่อมต่อให้ดูสมบูรณ์ขอเป็นกำลังใจให้ทีมทารกเเรกเกิด จะรอดูเเละเป็นที่ปรึกษาให้หากมีสิ่งใดที่จะให้ช่วยก็ยินดี"