คติธรรม..วิเคราะห์โจโฉ
ถึงแม้ว่าวันนี้จะมีอาการของโรคประจำตัวกำเริบ และอยู่ในช่วงที่งานเร่งพอสมควร แต่คิดว่าจะต้องเขียนบันทึกนี้ขึ้นมาให้ได้ และจะต้องเขียนให้ได้บนฐานของข้อมูลที่ดีที่ตนเองมีอยู่ ทั้งนี้ก็ไม่ได้หมายว่านิสิตทุกคน อีกทั้งทุกท่านที่เข้ามาอ่านจะเห็นด้วย หรือมีความเห็นที่แตกต่างไม่ได้ แต่ก็ขอให้ใช้วิจารณญาณในการอ่าน หรือวิพากษ์อย่างมาก โดยใช้ปัญญาอย่างแท้จริง
ที่คิด หรือมีความต้องการที่จะเขียนบทความนี้มีปัจจัยหลายอย่าง แต่ที่สำคัญคือ เป็นคุณลักษณะนิสัยประจำตัวที่มีอยู่ในตนเองมาโดยตลอด คือ "ความจริงใจ" ซึ่งในอดีตที่ผ่านมานั้นยังมีอายุไม่มาก ก็ยังไม่แน่ใจว่ามันถูกต้อง (ปัจจุบันประสบการณ์มากขึ้น...อิๆ) แต่ก็มีความคิดเห็นโดยส่วนตัวว่ามันน่าจะทำให้เข้าถึงปัญญาที่แท้จริงเกี่ยวกับคติประจำใจของโจโฉที่กล่าวว่า
"ทรยศคนทั้งโลก...แต่ไม่ยอมให้ใครทรยศ"
ท่านผู้อ่านคิดอย่างไรคะ กับคตินี้ ท่านจะยินดีหรือไม่ถ้าท่านมีคนรอบข้างเป็นแบบนี้ เช่น คนที่ท่านรัก และคนที่รักท่าน และยิ่งถ้าท่านมีผู้นำแบบนี้จะเป็นอย่างไร ซึ่งโดยประสบการณ์ผู้เขียนก็ได้รับคำถ่ายทอดจากหัวหน้าของผู้เขียนที่ชื่นชอบในคติธรรมอันนี้ของโจโฉ
จนในที่สุด ได้มาศึกษาธรรมะ ทฤษฎีทางจิตวิทยาตะวันตก จิตวิทยาตะวันออกงานวิจัยที่มีความเกี่ยวโยงกับเรื่องนี้อย่างลึกซึ้งในระดับหนึ่ง และที่สุดเหนือสิ่งอื่นใด ที่ทำให้คุณลักษณะ "ความจริงใจ" มันฝั่งแน่นในตัวผู้เขียน ทั้งนี้เนื่องมาจากได้อ่านหนังสือ "คำพ่อสอน" ซึ่งเป็นสิ่งที่มีค่าที่พระบาทสมเด็จเจ้าอยู่หัวทรงพระราชทานให้แก่ปวงชนชาวไทย และผู้เขียนได้เจริญรอยตามมาโดยตลอด จนประสบความสำเร็จ และพ้นวิกฤตหลายอย่าง ซึ่งพระราชดำรัสของพระองค์ ความว่า
"...ความจริงใจต่อผู้อื่น เป็นคุณธรรมสำคัญมากสำหรับผู้ที่ต้องการความสำเร็จและความเจริญ เพราะช่วยให้สามารถขจัดปัดเป่าปัญหาได้มากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ปัญหาอันเกิดจากความกินแหนงแคลงใจและเอารัดเอาเปรียบกัน นอกจากนั้นยังทำให้ได้รับความเชื่อถือไว้วางใจ และความร่วมมือสนับสนุนจากทุกคนทุกฝ่าย ที่ถือมั่นในเหตุผลและความดี ผู้มีความจริงใจจะทำการสิ่งใด ก็มักสำเร็จได้โดยราบรื่น..."
จากที่กล่าวมา ขอจงอย่าเชื่อ จงเป็นผู้มีลักษณะของ "กาลามสูตร" แต่ต้องใช้ปัญญา และเก็บรวบรวมหลักฐานเพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริง ทั้งนี้อยากให้ข้อมูลสนับสนุนเพื่อการพิจารณาของท่าน เช่น ท่านจงพิจารณาจากผู้นำ หรือผุ้บริหาร หรือบุคคลที่รอบล้อมตัวท่าน ทั้งนี้ถ้าท่านใช้เหตุผลมากกว่าอารมณ์ท่านน่าจะได้ข้อสรุปที่ดี หรือแม้แต่ศาสตร์อย่างหนึ่งที่ผุ้เขียนสอนและฝึกนิสิตในการเก็บข้อมูลจากการสัมภาษณ์ คือ Body Language ซึ่งเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา พึ่งพบจากสารคดีในต่างประเทศว่า เขาสนใจในการอ่านภาษาท่าทาง (Body Language) ของผู้นำในประเทศของเขาเป็นอย่างมาก
ท้ายที่สุดเรื่องที่เขียนนี้ไม่ได้แปลกใหม่อะไรเลยสำหรับผู้เขียน หรือผู้รู้บางท่าน แต่จุดมุ่งหมายของผู้เขียนนั้น ต้องการให้ผุ้อ่านได้หวนกลับมาพิจารณาคุณลักษณะอันดีงามของคนไทยที่เราอาจหลงลืมไป
ด้วยรักและความจริงใจ
ปัญญฎา ประดิษบบาทุกา
สวัสดีครับ
เป็นคนหนึ่งที่ได้เรียนกับอาจารย์ อาจารย์จะสอนนิสิตโดยการสอดแทรกคุณธรรมเสมอ ผมเห็นด้วยจริง ๆ ครับเพราะเป็นคนหนึ่งที่ศึกษาจิตวิทยา และเรียนเรื่องการสัมภาษณ์กับอาจารย์ ทำให้เข้าใจว่าอาจารย์คิดอย่างไร และก็ได้เจอเนื้อหาบางอย่างในเนตที่กำลังพูดเกี่ยวกับตัวละครเหล่านี้ เทียบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในบ้านเรา
สวัสดีครับ
☺ แวะมาอ่านตามคำแนะนำ
☺ "ทรยศคนทั้งโลก...แต่ไม่ยอมให้ใครทรยศ" คนถือคตินี้...อันตรายและน่ากลัว ครับ
☺ "...ความจริงใจต่อผู้อื่น เป็นคุณธรรมสำคัญมากสำหรับผู้ที่ต้องการความสำเร็จและความเจริญ เพราะช่วยให้สามารถขจัดปัดเป่าปัญหาได้มากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ปัญหาอันเกิดจากความกินแหนงแคลงใจและเอารัดเอาเปรียบกัน นอกจากนั้นยังทำให้ได้รับความเชื่อถือไว้วางใจ และความร่วมมือสนับสนุนจากทุกคนทุกฝ่าย ที่ถือมั่นในเหตุผลและความดี ผู้มีความจริงใจจะทำการสิ่งใด ก็มักสำเร็จได้โดยราบรื่น..."
นับว่าประเสริฐเลิศล้น ครับผม
น่าเสียดานจังเลยค่ะ.........ที่ไม่ได้โพสรูปพวกนั้นให้สังคมได้รับรู้
แต่ไม่เป็นไรค่ะ เราสามารถทำตัวของเราให้ดีได้
ตัวอย่างที่ดีก็มีให้ดู......." ทำดีถวายพ่อหลวง" ดีีกว่า อาจารย์เห็นด้วยไหมคะ
หนูเชื่อเรื่องนี้ค่ะ เพราะเคยเจอ และได้พิสูจน์ด้วยตัวเองแล้ว
ผู้ที่ไม่มีความจริงใจ เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนมากกว่าส่วนรวม จะทำสิ่งใดก็ไม่ประสบความสำเร็จ และไม่มีมิตรแท้
ผู้ทีปฏิบัติดี และมีความจริงใจ ย่อมมีความเจริญในชีวิต และมีมิตรแท้