วันนี้วันที่ 10 ตุลาคม 2552 เป็นเดือนที่มีการเปลี่ยนแปลง เริ่มปีงบประมาณใหม่ และเป็นเดือนที่ข้าราชการบางคนไม่ต้องมาทำงานอีกต่อไป เพราะได้เกษียณราชการไปตั้งแต่ 30 กันยายน 2552 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายที่ผู้เกษียณได้รับเกียรติให้มาทำงาน
คงไม่สายถ้าจะเขียนถึงผู้เกษียณในวันนี้ ถึงแม้จะผ่านวันสุดท้ายมาหลายวันแล้ว หลายท่านคงเหงาหงอยเมื่อตื่นขึ้นมาพบว่าตัวเองไม่มีภาระกิจราชการอันใดอีก ไม่ต้องไปทำงาน หลายท่านยังคงเคยชินกับการตื่นเช้า ทั้งที่วันนี้ไม่มีความจำเป็นอันใดอีก หลายท่านเคยชินกับการสั่งงาน เมื่อไม่มีใครให้สั่งก็รู้สึกหงุดหงิด หลายท่านภรรยายังไม่เกษียณก็ต้องอยู่บ้านคนเดียว หรืออยู่กับคนรับใช้ บางคนก็อาจจะระบายความหงุดหงิดที่จะต้องทำตัวเป็นพ่อบ้านกับคนรับใช้ โดยเฉพาะในวัยเกษียณนี้ทั้งผู้ชายและผู้หญิงก็เป็นวัยหมดฮอร์โมน เรียกให้เพราะๆว่าวัยทอง มันเป็นวัยที่หงุดหงิดง่าย ชอบคนเอาใจ จะให้ไปวัดทันทีคงเป็นไปไม่ได้
อยากให้ท่านผู้เกษียณทุกคนโดยเฉพาะผู้ที่เคยมีอำนาจวาสนา เคยใช้อำนาจไปในทางต่างๆ กรุณาทบทวนชีวิตของท่านที่ผ่านมา ว่าท่านในสมัยที่รุ่งเรือง มีอำนาจสามารถกำหนดขีวิตของผู้คนที่อยู่ใต้อำนาจ ท่านเคยทำความดี ความชั่วอย่างไรบ้าง บางท่านที่ทำแต่ความดีเกื้อหนุนลูกน้องไม่หูเบา ใช้อำนาจเป็นธรรม ก็ขอให้ท่านเหล่านั้นมีความสุขในบั้นปลาย
แต่บางคนที่เคยเป็นใหญ่ประเภทหูเบา ไม่เห็นหัวใคร คิดแต่กอบโกยทั้งอำนาจ เงินทองแก่ตัวและพวกพ้อง สร้างกฏสร้างเกณฑ์กีดกันไม่ให้คนที่ท่านไม่ชอบขึ้นตำแหน่งที่ควรจะเป็น บางคนเป็นใหญ่เป็นโตประเภทหอคอยงาช้าง ดูแต่รายงานสอพลอ ไม่เคยสัมผัสความเป็นจริง คนอื่นทำงานแทบเป็นแทบตายไม่เคยอยู่ในสายตา ไม่เคยมอง แต่เอาผลงานของเขามาเป็นของตัวเพื่อผลประโยชน์และความก้าวหน้าของตนเอง แต่ขัดขวางไม่ให้ผู้ใต้บังคับบัญชาก้าวหน้า ท่านที่เป็นประเภทนี้ผมต้องแนะนำให้ไปหาที่สงบ รำลึกถึงบาปบุญคุณโทษ ในวันที่ไร้อำนาจวาสนาไม่มีใครคิดถึงในทางดี ไม่มีใครพูดถึง ไม่มีใครไปเยี่ยมไปหา มีแต่คนหัวเราะเยาะ มันเหงานะท่าน
สวัสดีดครับ...................
ผมกำลังจะเกษียณราชการ
ขอบคุณสำหรับมุมมอง
มุมมองของคุณ