เช้าวันที่ 5 กันยายน 2552 เป็นวันที่เราต้องบมาทำงานตามปกติ เมื่อมาถึงที่ทำงานเป็นเวลา 07.00 น. ก่อนทำงานเราก็มีการรับส่งเวรอาการผู้ป่วย จึงทำให้เรารู้ว่าวันนี้มีคนไข้ที่ต้องเตรียมสลายนิ่ว 1 ราย ในเวลาประมาณ 13.00 น. เป็นผู้ป่วยชาย อายุประมาณ 35 ปี พอถึงเวลาที่ต้องส่งผู้ป่วยขึ้นห้องผ่าตัดเพื่อทำการสลายนิ่ว ในขณะที่เข็นผู้ป่วยไปนั้นดิฉันได้สังเกตเห็นว่าผู้ป่วยมีความกังวล ดิฉันเลยถามผู้ป่วยว่ากลัวไหม ผู้ป่วยบอกว่ากลัว ดิฉันจึงบอกและพูดคุยกับผู้ป่วยว่าไม่ต้องกลัว ใจเย็นๆ เดี๋ยวทำแล้วก็หายปวด
พอถึงห้องผ่าตัดก็ส่งผู้ป่วยเข้าห้องผ่าตัดก่อนที่ดิฉันจะออกจากห้องผ่าตัด ดิฉันได้เรียกชื่อผู้ป่วย พร้อมยิ้มให้และพูดว่า “โชคดีนะคะ ไม่ต้องกลัว เสร็จแล้วเดี๋ยวจะขึ้นมารับกลับห้องพัก” หลังจากนั้นดิฉันได้หยุดงานไป 1 วัน มาทำงานในวันรุ่งขึ้นดิฉันก็เข้าไปทำหัตถการให้ผู้ป่วยตามปกติ ผู้ป่วยรายนี้ได้ทักทาย และถามดิฉันว่า เมื่อวานไม่เห็นมาทำงานเลย ให้ญาตินำของมาฝาก ดิฉันกล่าวขอบคุณ และบอกว่าไม่เป็นไร ซึ่งทำให้ดิฉันคิดว่าแค่รอยยิ้ม การพูดคุยทักทายของเราก็สามารถทำให้ผู้ป่วยรู้สึกสบายใจ และคลายความกังวลใจได้มาก
คุณจำเนียร เขียวหวาน
ผู้ช่วยพยาบาล Ward 2
เห็นด้วย
รอยยิ้มและคำทักทายเล็กๆๆน้อยๆที่เกิดขึ้นแต่กลับกลายเป็นกำลังใจที่ยิ่งใหญ่ของใครบางคน