เกมแห่งอำนาจ (Power Play)


อำนาจที่สามเป็นอำนาจที่สำคัญที่สุดสำหรับเกมแห่งอำนาจนั่นคืออำนาจแห่ง “บารมี” อำนาจนี้ไม่มีหัวโขนให้ใส่และไม่มีวันเกษียณอายุเหมือนอำนาจชนิดที่หนึ่ง ยิ่งสร้างยิ่งมากไม่ลดทอนไปตามกาลเวลา

     

      หลายวันก่อนผมได้มีโอกาสคุยกับ นพ ประเสริฐ ขันเงิน ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพุทธชินราช  ผมรู้จักกับ “พี่เสริฐ” มาประมาณ สองปีในฐานะหนึ่งคือ ผู้บังคับบัญชากับผู้ใต้บังคับบัญชา  และในอีกฐานะหนึ่ง คือพี่ชายกับน้องชาย  มีเวลาว่างเมื่อไรเราจะได้คุยแสดงความคิดเห็นในแง่มุมต่างๆของการดำเนินชีวิตรวมถึงการบริหารงาน บริหารตนและบริหารคน  เรื่องแห่งอำนาจ  ก็เป็นเรื่องหนึ่งที่เราได้สนทนากัน  พี่เสริฐเริ่มเรื่องก่อนว่า มนุษย์เราเป็นสัตว์สังคม ทุกคนอยู่ได้โดยมีความสัมพันธ์ ผูกพันและพึ่งพาอาศัย ลูกมนุษย์ต้องได้รับการดูแลจากแม่หรือคนอื่นๆในครอบครัวจึงจะดำรงชีวิตอยู่ได้ (ต้องเลี้ยงนานด้วยครับ บางคนต้องเลี้ยงจนแต่งงานมีลูกมีเต้าไปแล้วพ่อแม่ก็ยังต้องเลี้ยงอยู่ก็มี)  ต่างจากลูกสัตว์บางชนิดซึ่งเมื่อถือกำเนิดก็สามารถดำรงชีวิตด้วยตัวเองได้ หรือถ้าแม่จะต้องเลี้ยงก็เลี้ยงในระยะเวลาอันสั้น (ยกตัวอย่างเช่นลูกจระเข้ก็ได้นะครับ พอฟักออกจากไข่ก็เริ่มหากินได้ด้วยตัวเองทันที)   และส่วนหนึ่งของความสัมพันธ์ของมนุษย์ พี่เสริฐบอกว่า มันคือการเล่นเกมแห่งอำนาจ  

                วันนั้นเราคุยกันว่า อำนาจที่มนุษย์นำมาเล่นกันนั่นมันคืออะไรบ้าง อันดับแรก  คงจะเป็นอำนาจตามสถานภาพ ยศฐาบรรดาศักดิ์ หรือหัวโขนที่ถูกใครต่อใครใส่ให้ หรือพยายามไขว่คว้าหามาให้ได้เพื่อหวังว่าจะได้ใส่สักครั้งหนึ่งในชีวิต  อำนาจนี้อยู่ได้แค่ชั่วระยะเวลาสั้นๆเท่านั้นนะครับ  ถ้าใครคิดว่าอำนาจนี้จะอยู่กับเราชั่วกาลนานเห็นทีจะคิดผิด เราพบเห็นคนคิดผิดแบบนี้ได้บ่อยๆในวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี   ฤดูแห่งการเกษียณอายุราชการ  ผู้ใหญ่ท่านหนึ่งเล่าให้ผมฟังว่า ก่อนท่านเกษียณอายุ 2-3 ปี ท่านจะเริ่มหัดขับรถของตนเอง แรกๆก็ทำด้วยความยากลำบากแม้กระทั่งจะเข้าไปนั่งในรถ เดิมทีนั่งแต่รถตู้ขนาดใหญ่เป็นประจำเวลาเข้าไปในรถต้องก้มหัวเอาตัวเข้าไปก่อน แต่พอมานั่งรถเก๋งถ้าจะก้มหัวเอาตัวเข้าไปก่อนท่านว่าท่านเข้ารถตัวเองไม่ได้ ต้องมาหัดเอาขาแหย่เข้าไปแล้วตัวค่อยนั่งตาม จึงจะนั่งได้ กว่าจะหัดจนคุ้นก็ใช้เวลาไม่น้อยทีเดียว  เดินทางโดยเครื่องบินก็เช่นเดียวกันต้องหัดไปเช็คอินเอง เพราะตอนใส่หัวโขนมีแต่คนจัดการให้  ท่านที่พยายามฝึกตัวเองเช่นนี้แสดงว่าท่านเข้าใจอย่างแท้จริงครับว่า อำนาจนี้มันไม่แน่นอนจริงๆ และท่านกำลังลดทอนมันด้วยตัวท่านเอง เพื่อชีวิตที่อยู่อย่างมีความสุขหลังจากถอดหัวโขนหัวนี้ออกจากตัว

                อำนาจที่สองคืออำนาจแห่งความเป็นผู้เชี่ยวชาญ อำนาจนี้คนที่เป็นแพทย์จะเห็นได้ชัด  เมื่อต้องดูแลรักษาคนเจ็บป่วย คุณหมอจะว่าอย่างไรโดยมากแล้ว ผู้ป่วยมักปฏิบัติตามหรือเห็นด้วยโดยไม่มีข้อโต้แย้ง ถึงแม้ปัจจุบัน ประชาชนจะมีความรู้เรื่องการรักษาโรคต่างๆมากขึ้น แต่ส่วนใหญ่แล้วอำนาจแห่งความเป็นผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ก็ยังคงมีความหมายอยู่มากครับ อำนาจนี้อยู่กับมนุษย์นานพอสมควร คนวัยเกษียณก็อาจจะยังมีอำนาจนี้อยู่  ตราบใดที่คนผู้นั้นยังอยู่ในวงการวิชาชีพหรือความเชี่ยวชาญนั้นๆ แต่จะค่อยๆเลือนหายไปเมื่อต้องออกนอกวงการหรือไม่ก็เป็นเพราะล้าสมัยไม่สามารถติดตามความก้าวหน้าของวิทยาการได้ทันก็จะถูกลดทอนอำนาจนี้ไปอย่างอัตโนมัติ

                อำนาจที่สามเป็นอำนาจที่สำคัญที่สุดสำหรับเกมแห่งอำนาจ  นั่นคืออำนาจแห่ง “บารมี” อำนาจนี้ไม่มีหัวโขนให้ใส่และไม่มีวันเกษียณอายุเหมือนอำนาจชนิดที่หนึ่ง   ยิ่งสร้างยิ่งมากไม่ลดทอนไปตามกาลเวลาเหมือนกับอำนาจชนิดที่สอง  หรืออาจจะเรียกได้ว่า อำนาจแห่งบารมีนี้คืออำนาจอันยืนยาวและยั่งยืนครับ ในวงสนทนาวันนั้นเกิดคำถามว่า อำนาจแห่งบารมีนี้ เกิดขึ้นได้อย่างไร?  ใครคือผู้ที่ควรจะมีอำนาจนี้?  จากหลากหลายความคิดเห็นในวันนั้น พอจะสรุปได้ว่า อำนาจแห่งบารมีนี้ ใครจะมีก็ได้ครับ ไม่จำกัดว่าจะต้องเป็นผู้บริหารระดับสูง  คนงานก่อสร้าง หรือ ชาวไร่ ชาวนา ขอเพียงแต่ท่านเหล่านั้นเข้าใจว่า จุดเริ่มต้นของบารมีคือ    “การให้” ซึ่งเป็นการให้อย่างไม่มีเงื่อนไข ไม่มีสิ่งเคลือบแฝงภายในใจ  ให้ด้วยใจปรารถนาดีเท่าที่หน้าที่และโอกาสจะอำนวยโดยไม่หวังสิ่งตอบแทนใดๆ แม้แต่คำขอบคุณ  เมื่อท่านเหล่านั้นปฏิบัติเช่นนี้อย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ  อำนาจแห่งบารมีก็จะเพิ่มพูนขึ้นวันแล้ววันเล่า  ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใดก็ตามที่การให้นั้นทำให้คนรับเกิดความสุขหรือพ้นจากความทุกข์ได้แม้แต่เพียงเล็กน้อย  “การให้” นั้นก็มีคุณค่าเพียงพอแล้วสำหรับสะสมเป็นอำนาจแห่งบารมี

              "การให้" นำมาซึ่งบารมี บารมีเป็นอำนาจที่ไม่ร้อนรุ่มแต่ทรงพลังและยังสุขเย็นอย่างยิ่งครับ ยิ่งให้ก็ยิ่งเพิ่มพูน ใช้เท่าไรก็ไม่มีวันหมด เรามาเริ่มให้กันตั้งแต่เดี๋ยวนี้เผื่อแผ่ความรู้สึกดีๆไปให้ใครต่อใคร สร้างสมบารมีกันไปเรื่อยๆนะครับ ผมเชื่อว่าไม่เพียงเกิดอำนาจแห่งบารมีเท่านั้นแต่ใจของผู้ให้จะเป็นใจที่สุขอย่างยิ่งด้วยครับ                

               

หมายเลขบันทึก: 303528เขียนเมื่อ 5 ตุลาคม 2009 23:57 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 21:40 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (11)

อ่านแล้วเข้าใจและมองเห็นภาพเรื่องของ "อำนาจ บารมี " ที่ท่าน ผู้อำนวยการฯ ลุงปุ๊ นำมาแบ่งปัน ทุกวันๆก็ยังเห็นภาพของคนที่พยายามจะใช้อำนาจตามหน่วยราชการต่างๆเข้าขั้นเรียกว่า " บ้าอำนาจ " ที่พยายามแสดงออกมาทั้งทางกิริยาท่าทางและคำพูด ซึ่งผู้คนสัมผัสได้...เป็นการใช้อำนาจที่เสื่อมสลาย....แต่อำนาจบารมีนี่ต่างหากที่จะคงอยู่กับเราไปชั่วกาล....และพึงสะสมมีคุณค่าเพียงพอที่จะทำให้ใจเป็นสุข....การสะสมบารมีควรปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติที่ออกมาจากใจตามวิถีที่เป็นไปได้....ขอบคุณในเรื่องราวดีๆที่นำมาแบ่งปันค่ะ

  • แวะมาอ่าน ได้ข้อคิดหลายๆอย่างค่ะ  ท่านผอ.ประเสริฐ  ขันเงิน ท่านมีข้อคิด ข้อสอนน่าศึกษาจริงๆค่ะ
  • ชื่นชมท่านค่ะเพราะ เป็นเด็กบ้านเดียวกับ ท่าน ผอ. (อ.สอง จ.แพร่ ค่ะ)

 

ในชีวิตหนึ่ง คนเราย่อมแสวงหาอำนาจทั้งสามอำนาจ แล้วแต่ว่าใครจะคุมเกมแห่งอำนาจนั้นๆ ได้ดีกว่ากัน

ใครจะรู้จักใช้อำนาจทั้งสามอย่างเหมาะสม กลมกลืนนะคะอาจารย์

Dear A. Nipat,

I do agree with you. Doing good and Doing right things are our Bhuddist principle. Many people were died or injured in Game Of Power, GOP. Some lost their good friends. Dr. Prasert, in my point of view, is agreat leader and also friend of me. Please him know my massage. Hope he reach is dream and provide all good think to us and Thailand. GOP is not "I" or "Self", but dark side of life if we cannot control it.

Wiroj Wannapira, MD

เคยคิดว่า อำนาจกับเรามันไกลกันจังเลย คงไม่มีอำนาจ และ คงสร้างไม่ได้ เพราะไม่ไช่เรื่องที่ถนัด พอได้อ่านแล้วเห็นว่า อำนาจที่ 3 เราทำได้ ทำได้ในทุกวัน ทำได้ง่ายๆ ทำแล้วมีความสุข ดีจริงๆคะ ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆคะ หัวหน้า

คนเราทุกคนมีอำนาจทั้งสามข้อหมดแหละ แล้วแต่ว่าด้านไหนจะมากหรือน้อยต่างๆ กันไป แต่ถ้าจัดการอำนาจให้เหมาะสม สมดุล ก็คงมีชีวิตอย่างปรกติสุข

ได้ควมรู้ที่ลึกซึ้งอำนาจแห่งความดี บารมีของการให้ เห็นด้วยที่ทำง่ายทำอย่างต่อเนื่องค่ะ

I think so and I would like you to do that in the same way of your thaught. May the partnership have get the happiness soon.I'm waiting.It's Good idea, Goodthinking,I hope it's good practice in Buddachinaraj so.

สวัสดีครับอาจารย์นิพัธ

ขอบคุณสำหรับข้อคิดดี ๆ เกี่ยวกับอำนาจ VS บารมี

  • สวัสดีค่ะ
  • แวะมาเป็นกำลังใจค่ะ
  • ขอบคุณบันทึกดี ๆ ที่นำมาแบ่งปันกันค่ะ ขอให้โชคดี ขอให้มีสุข ขอให้ไร้ทุกข์ และสุขภาพแข็งแรงค่ะ
  • พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
    ClassStart
    ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
    ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
    ClassStart Books
    โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท