ทั้งระยะเวลาสองเดือนที่ผ่านมา ป๋มตรึกคิดอย่างจริงจัง
เราควรดำเนินชีวิตอย่างไหนกันแน่
ระหว่าง 'การออกไปอย่างเสร็จสรรพของโลก
(ที่ป๋มเชื่อเหมือนหลายๆ คนว่ามันคือโลก)สมมติ'
หรือ 'การดำเนินอยู่ในโลก(สมมติ)
ตามความมุ่งหมายที่พึงมีของมนุษย์ตามท้องโลก'
แต่ดีนะ ที่ป๋มมีหนทางให้ตัดสินใจแค่สองประการ [to be continue]
....
อายุขัยของคนเราไม่แน่นอน ป๋มควรต้องรีบตัดสินใจ
ป๋มพยายามมองหาแรงบันดาลใจบางอย่างทางโลก
ซึ่งมันอาจเหือดหายไปสักพักแล้ว
ป๋มไม่อยากรวย ไม่อยากมีความรัก ไม่อยากเป็นที่รู้จัก
แต่ป๋มว่าคนเรายังมีแรงบันดาลใจที่สำคัญ ที่เราไม่ควรทอดทิ้ง
นั่นคือ "แรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์"
..และป๋มควรดูแลมันต่อไป
[to be continue]
....
ตอนจบป๋มสรุปให้ตัวเอง ..
เราต่างเรียนรู้กันมามากมาย (ไม่ว่าจะดีหรือไม่ ในสายตาของผู้คน)
ป๋มอาจลืมหลายสิ่งที่เคยพบเจอ
ถึงอย่างนั้นมันก็คือสิ่งที่คอยหล่อหลอม ความเป็นคนในตัวป๋ม
ป๋มจึงให้ความมั่นใจแก่ตัวเอง
"เอ็งไม่ควรทอดทิ้งสิ่งที่เคยเรียนรู้ แต่ต้องทำให้มันมีประโยชน์สูงสุดเสียก่อน"
..แล้วค่อยวายชีพลง บนแผ่นดินที่เติบโตมา
[The End]
....
ข้อความทั้งหมดค่อยๆ ถูกวางลงใน facebook ของข้าพเจ้า
น้องคนหนึ่งที่คอมเม้นให้ประจำใน facebook ได้ร่วมใส่กลอนบทหนึ่งลงไปในคอมเม้น
ซึ่งกลอนบทนี้เป็นที่รู้จัก และมีเนื้อหาเต็มๆ ว่า
"พฤกษภผกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง
โททนเสน่ห์คง สำคัญหมายในกายมี
นรชาติที่วางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์
สถิตย์อยู่แต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา"
..
ขอสดุดีแด่ สุพจน์ ด่านตระกูล
ไม่มีความเห็น