"...เปิดชมรม..."


"...เมื่อไม่มีใครกล้าพอจะออกมาโต้แย้ง เราก็ขอรวบรวมและเป็นตัวแทน สร้างสมดุลขึ้นเพื่อคัดค้านสิ่งที่ไม่สมเหตุสมผลด้วยแนวทางของชมรมเอง..."

คิดอยู่นานว่าจะเขียนบล็อกนี้ดีหรือไม่ แต่ก็ได้เห็นแล้วว่าประเทศของเรานี้ยังขาดผู้นำที่มองเห็นปัญหาอย่างรู้แจ้งแทงตลอด หรืออาจมองเห็น แต่ทำอะไรไม่ได้มาก (แต่อย่าได้คิดว่าผู้เขียนนี้จะมาเอาความดีความชอบอะไร) จึงทำให้บ้านเมืองของเราต้องเผชิญปัญหารอบด้าน แก้ปัญหากันไม่ตก เหตุที่เป็นเช่นนี้ ก็เพราะประชาชน(ส่วนหนึ่ง)ยังไม่มีความรู้จักแยกแยะผิดชอบชั่วดีอย่างถ่องแท้ นี่ไม่ได้หมายความว่าจะเห็นประชาชนเหล่านั้นไร้ปัญญา ไม่ได้ดูถูก แต่เราก็ได้เห็นแล้วว่าเราได้แต่นักการเมืองการปกครองที่มีระดับสติปัญญาต่ำๆ เข้ามาบริหารประเทศชาติอย่างถูลู่ถูกัง ประเทศชาติจึงตกอยู่ในสภาพที่ใกล้พังย่อยยับ เราจึงขันอาสาขอเป็นคลื่นใต้น้ำที่มองไม่เห็น แต่มีพลังมหาศาล คอยขับดันประเทศชาติให้มันเป็นไปอย่างที่ควรจะเป็น

 

ท่านที่กำลังอ่านบทความนี้อยู่ อย่าเพิ่งตีโพยตีพายโวยวายไป คิดพิจารณาดูให้ดีเสียก่อน แล้วค่อยว่ากัน ถ้ามันเป็นความคิดที่ไม่เข้าท่าก็ไม่ว่ากัน ตอนนี้เราเป็นได้แค่ชมรมเถื่อนที่มีเจตนาดี แต่อาจไม่เข้าตาใครบางคนก็ได้ ต้องขออภัยหากมีคำใดที่แรงไป เพราะท่านที่เคารพท่านหนึ่งท่านทักท้วงไว้

 

มาเข้าเรื่องต่อ...หากผู้นำมองปัญหากันไม่ออก ขบปัญหากันไม่แตก ก็คงไม่ใช่เรื่องที่แปลกประหลาดแต่อย่างใด เพราะจากการพิจารณากันมาแต่หนหลัง เราก็จะพบว่า พื้นฐานทางการศึกษาที่ได้รับกันมานั้น มันเป็นไปในทางที่ต่ำลงแย่ลงทุกที สภาวะแวดล้อมที่เป็นอยู่ในปัจจุบันก็เห็นได้ชัดอยู่แล้วว่าอยู่ในสภาพที่วุ่นวาย เพราะประชาชนขาดความใส่ใจในตรงนี้(เป็นประสบการณ์ตรงของผู้เขียนเองมันอาจจะผิดก็ได้) เราจึงได้ผู้นำที่พิกลพิการกันเรื่อยมา อย่างไรก็ตาม เราไม่ต้องการคำแก้ตัวที่ว่าเหตุผลแต่อย่างใด เพราะเหตุผลมันก็เป็นแต่คำแก้ตัวในช่วงเวลาใดหนึ่งเท่านั้น ซึ่งมันสามารถเปลี่ยนแปลงใดเสมอ เราต้องการรูปธรรมที่เห็นได้จับต้องได้เท่านั้น

 

เมื่อไม่มีใครกล้าพอจะออกมาโต้แย้ง เราก็ขอรวบรวมและเป็นตัวแทน สร้างสมดุลขึ้นเพื่อคัดค้านสิ่งที่ไม่สมเหตุสมผลด้วยแนวทางของชมรมเอง

 

ซึ่งบัดนี้ ถึงเวลาแล้ว เราขอเปิด"ชมรมขุนพลแห่งภูมิสยาม"อย่างไม่เป็นทางการขึ้นในวันนี้ พฤหัสบดี 1 ตุลาคม 2552 ท่านที่มีใจฝักใฝ่คิดฟื้นฟูบ้านเมืองร่วมกัน ก็ขอให้ยกมือแสดงตนเข้ามา แล้วบอกต่อๆกันไปปากต่อปาก แสดงความคิดเห็นกันเข้ามาอย่ารอรี ไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชาย เราไม่สนใจหรอกว่าคุณจะหัวเอียงซ้าย หรือเอียงขวา หรือว่าประณีประนอม ขอเพียงมีความคิดดีๆที่มันเข้าท่า ก็ถือว่าผ่านมาตรฐานของชมรม แล้วเรามาถกเถียงกัน(อย่างมีสติ) เราไม่มีเวลาเดินชมนกชมไม้ในสวนศรีอีกแล้ว

 

หากปล่อยให้สถานการณ์เนิ่นนานไป ก็มีแต่จะเสียการไปเปล่า ไม่จำเป็นต้องโฉ่งฉ่าง "ชมรมขุนพลแห่งภูมิสยาม" เปิดกว้างสำหรับทุกความคิดเห็น ไม่จำเป็นต้องไปแสดงตัวตามหน้าหนังสือพิมม์ ไม่จำเป็นต้องต้องไปยืนยื่นเอกสารแล้วยืนยิ้มแฉ่งอยู่หน้ากล้องโทรทัศน์ไร้สาระพวกนั้น กันแบบเงียบๆเหมือนคลื่นใต้น้ำ สุขุม รอบคอบ อย่างผู้มีวุฒิภาวะ มีพุทธิปัญญาเขาทำกัน ไม่จำเป็นต้องอวดโอ่อ้างว่าข้านี้ฉลาดรู้จริง อย่างนี้ไม่ต้องมา เสียเวลาเปล่า เราไม่ต้องการ

 

ต้องเริ่มเสียแต่บัดนี้ ก่อนที่จะสายเกินไป เราไม่มีเวลามากแล้ว...

หมายเลขบันทึก: 302564เขียนเมื่อ 1 ตุลาคม 2009 23:05 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 09:49 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

สาธุครับ

ผมส่งเทียบเชิญถึงท่านนะครับ

วันนี้มีนิมิตรหมายที่ดี ที่เราต่างก็เริ่มประกาศสัจจะที่จะทำอะไรดีๆด้วยกัน

รายละเอียดไว้เมล์ถึงกันนะครับ

[email protected]

 

 

  • ด้วยความขอบพระคุณครับ
  • ยังไงก็เรียนเชิญมาร่วมวงด้วยกันนะครับ
  • ช่วยกันคิด ช่วยกันทำ ช่วยกันแสดงความคิดเห็นครับ

คุณณัฎฐ์ ยังอยู่ในนี้ไหมคะ มีเรื่องอยากขอคำปรึกษาหน่อยค่ะ รบกวนติดต่อกลับด้วยนะคะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท