สำนักงานเกษตรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการเพิ่มประสิทธิภาพงานส่งเสริมการเกษตร ระหว่างวันที่ 24-25 กันยายน 2552 โดยในวันที่ 25 ช่วงบ่ายมีการอภิปรายกลุ่มย่อยเกี่ยวกับการจัดการความรู้ ซึ่งผู้เขียนจะนำบรรยากาศและสาระที่ได้จากการกิจกรรมครั้งนี้ มาเล่าสู่กันฟังค่ะ
แนวคิด ในการจัดอภิปรายกลุ่มย่อยครั้งนี้ เกิดจาก ผลสรุปในการจัดเวทีสรุปบทเรียน KM ของสำนักงานเกษตรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่ KM ทีมมีแนวคิดว่าจะทำคู่มือ "การจัดการความรู้" ฉบับเจ้าหน้าที่ของสำนักงานเกษตรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อให้บุคลากรในสำนักงาน มีความรู้ ความเข้าใจ และสามารถนำไปปฏิบัติได้
จุดเริ่ม ดังนั้นก่อนการเขียนคู่มือนี้ ผู้เขียนคิดว่า เราต้องรู้ก่อนว่า เจ้าหน้าที่ในสำนักงานเกษตรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นั้น มีความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับการจัดการความรู้ ดีเพียงใด และมีทัศนคติต่อการจัดการความรู้อย่างไร จึงเกิดกิจกรรมนี้ขึ้นมา
ดำเนินการ ในการอภิปรายกลุ่มย่อยครั้งนี้ แบ่งเป็น 5 กลุ่ม เพื่ออภิปรายใน 5 ประเด็น ดังนี้
ประเด็นที่ 1 ความหมายและความสำคัญของการจัดการความรู้ต่อการปฏิบัติงานส่งเสริมการเกษตร โดยสมาชิกกลุ่มให้ความหมายไว้ว่า
ส่วนความสำคัญของการจัดการความรู้ต่องานประจำก็คือ
โดยมีสมาชิกจากกลุ่มอื่น ได้แสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมว่า ควรมีการต่อยอดองค์ความรู้ และสามารถนำงานวิจัยมาใช้ควบคู่กับการจัดการความรู้ได้เป็นอย่างดี
ประเด็นที่ 2 ความหมายและวิธีการการกำหนดเป้าหมายการจัดการความรู้ โดยสมาชิกกลุ่มให้ความหมายไว้ว่า
ส่วนวิธีการ ก็คือ
โดยมีผู้แสดงความคิดเห็นที่แตกต่างไว้ว่า ในการกำหนดเป้าหมายควรมุ่งเน้นไปเพือ่การพัฒนาคน งาน และองค์กร
ประเด็นที่ 3 ความหมายและวิธีการการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ โดยสมาชิกกลุ่มให้ความหมายไว้ว่า
ส่วนวิธีดำเนินการก็คือ
โดยมีผู้แสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมว่า การศึกษาดูงาน ก็เป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ที่สามารถเรียนรู้ได้อย่างชัดเจน
ประเด็นที่ 4 ความหมายและวิธีการการบันทึกและจัดเก็บองค์ความรู้ สมาชิกกลุ่มได้ให้ความหมายไว้ว่า เพื่อกันลืม ใช้ในการทบทวน ตรวจสอบย้อนกลับ และเผยแพร่ ส่วนวิธีการบันทึก ได้แก่
ส่วนวิธีการจัดเก็บ มีดังนี้
โดยมีผู้แสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมว่า ควรแยกประเภทการบันทึกและจัดเก็บให้เหมาะสมและสะดวกต่อผู้ใช้
ประเด็นที่ 5 การใช้ประโยชน์จากการจัดการความรู้ สมาชิกกลุ่มได้ระดมความคิดเห็นไว้ดังนี้
คิดต่อ ผู้เขียนและ KM ทีมจะนำผลที่ได้จากการอภิปรายกลุ่มครั้งนี้ มาใช้เป็นฐานในการเขียนคู่มือการจัดการความรู้ โดยในบางประเด็นที่สมาชิกกลุ่มอาจมีความรู้ ความเข้าใจ คลาดเคลื่อน แตกต่างไปจากหลักของการจัดการความรู้ไปบ้าง KM ทีมก็จะปรับฐานความรู้ ความเข้าใจ แลเน้นในประเด็นนั้น โดยยกตัวอย่างให้เห็นชัด เพื่อให้เจ้าหน้าที่รู้ เข้าใจ และสามารถนำการจัดการความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่องานประจำ และเป็นไปในทิศทางเดียวกัน