ตั้งบรรเจิดสุข
อัญชลี คุณนายตั้ง ตั้งบรรเจิดสุข

การบรรลุสู่โรงเรียนระดับเพชร


ปัจจัยสำคัญที่จะทำให้โรงเรียนบรรลุสู่ระดับเพชรได้รวดเร็วยิ่งขึ้นคือการไปคุยหรือติวให้กับโรงเรียนนอกรอบการประเมินจริง

จากการที่ตัวเองได้เป็นคณะกรรมการประเมินการพัฒนาโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพระดับทองเพื่อสู่ระดับเพชรนั้น คิดว่าปัจจัยที่สำคัญที่จะทำให้โรงเรียนบรรลุสู่ระดับเพชรได้รวดเร็วยิ่งขึ้นคือการไปคุยหรือติวให้กับโรงเรียนนอกรอบการประเมินจริง เพราะเท่าที่สังเกตดูไม่เคยมีโรงเรียนใดที่ให้เข้าประเมินแล้วได้ผ่านทันทีที่เข้ารอบแรก ยกเว้นโรงเรียนบ้านเขาวง อำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยธานี และจากการวิเคราะห์และเก็บข้อมูลปัญหาที่พบจากการที่ทุกคนที่เป็นคณะกรรมการได้เสนอแนะหรือให้แก้ไข ส่วนใหญ่ก็คือ ครูยังมีความเข้าใจผิด หรือเข้าใจคลาดเคลื่อนหรือการแปลความหมายแต่ละข้อระหว่างครูกับทางสาธารณสุขไม่ตรงกัน แต่พอให้พวกเราเข้าไปดูเสนอแนะและหลังจากนั้นมีการประเมินจริง มักจะผ่านหรืออาจผ่านแบบมีเงื่อนไขที่ต้องแก้ไขอีกเล็กน้อยเท่านั้น ยกตัวอย่างง่ายๆ ในเรื่องโครงงานสุขภาพ หลายๆโรงเรียนโครงงานสุขภาพไม่แตกต่างกับโครงการ ซึ่งเราต้องอธิบายให้ครูฟังว่า โครงงานนั้นเป็นกระบวนการคิดค้นพบปัญหา ดำเนินการ และสรุปโดยนักเรียนเป็นคนทำ ครูเป็นที่ปรึกษา และโครงงานพูดง่ายๆคือวิจัยเล็กๆในโรงเรียน คุณครูที่อยู่โรงเรียนระดับประถมก็จะพูดกับเราว่า เด็กประถมจะทำได้หรือ เราก็ยกตัวอย่างง่ายๆเช่นเรื่องการสำรวจขนมกรุบกรอบก็ได้ หรือการวัดความพึงพอใจของการใช้สุขาหลังจากสุขาได้มีการปรับปรุงแล้วก็ได้ บางแห่งเขาก็ใช้การทำโครงงานเชิงเปรียบเทียบ เช่นสมุนไพรดับกลิ่นห้องน้ำอะไรดีกว่าอะไร การคิดก็ใช้สถิติง่ายๆเช่นค่าร้อยละ ส่วนโครงการนั้นเป็นการแก้ไขปัญหาด้านสุขภาพนักเรียนซึ่งคุณครูเป็นผู้ดำเนินการ อย่างเรื่องสิ่งแวดล้อมสุขาภิบาลโรงอาหารไม่ใช่ดูแค่เก็บของเป็นระเบียบต้องดูถึงระดับอันตรายหรือไม่ เก็บเป็นระเบียบก็จริงแต่ไว้ยื่นออกมาก็ไม่ปลอดภัยอย่างนี้เป็นต้น เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2552 เราได้ไปดูที่โรงเรียนบ้านบึงหล่มก่อนการประเมินจริง ก็มีการเสนอแนะค่อนข้างเยอะ แต่ส่วนใหญ่เป็นเรื่องที่โรงเรียนสามารถปรับดำเนินการได้ ตอนนั้นหนักที่สุดก็เป็นเรื่องโรงอาหารไม่มีโต๊ะอาหารและเก้าอี้ แต่ปูกระเบื้องให้เด็กนั่งรับประทานกับพื้นซึ่งทีมก็ได้อธิบายถึงเหตุผลว่าทำไมเด็กจึงควรนั่งทานบนโต๊ะ ในใจก็คิดว่าคงจะปรับยากเพราะต้องใช้งบประมาณ แต่ปรากฎว่าวันที่ 23 กันยายน2552 โรงเรียนให้ทีมเข้าประเมินจริงระหว่างรถเลี้ยวเข้าไปในโรงเรียนเห็นโรงอาหารมีโต๊ะเก้าอี้และมีผ้าคลุมโต๊ะ ก็ไม่คิดว่าโรงเรียนจะทำได้ ยังมีคนถามผู้อำนวยการโรงเรียนว่า ผอ.ไปยืมโต๊ะใครมาหรือเปล่า ผอ.บอกว่าเปล่า บางส่วนเป็นของเก่ามาปรับทำใหม่บางส่วนซื้อ  พอประเมินจริงทีมดูเอกสาร และประเมินจากนักเรียน ตัวเราคุยกับนักเรียนหลายคนเพื่อดูผลสัมฤทธิ์กับเด็ก เข้าเกือบทุกห้อง นักเรียนบอกได้ว่าโรงเรียนทำอะไรบ้างเกี่ยวกับสุขภาพ ทำไมถึงต้องทำ ทำแล้วเขาได้อะไร เด็กเล็กๆ ป1-2ก็ตอบง่ายๆ อย่างเช่นทำไมโรงเรียนต้องทำน้ำเอง เด็กป1บอกว่าก็พี่ๆกับครูเขาบอกว่าน้ำมันมีเชื้อโรค แล้วก็ขุ่นด้วย น้ำขุ่นจริงๆครับแต่ตอนนี้ไม่ขุ่นแล้วครับ ผมเห็นพี่เขาเอาสารส้มจุ่มแล้วก็อะไรไม่รู้เห็นพี่เขาวัดกัน ส่วนประถมแก่ๆก็ตอบได้ลึกขึ้นมาอีก เราถามว่าโรงเรียนทำโครงการเต้าฮวยแล้วทำไมถึงเลิกทำ เด็กตอบว่าค่าใช้จ่ายมันแพงครับสู้ไม่ไหว ตอนนี้ก็กำลังคิดว่าจะทำอะไรแทนฮวยอยู่ค่ะ ซึ่งโรงเรียนบ้านบึงหล่มกำลังรอที่จะให้ทีมชุดใหญ่จากกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุขมาประเมินเป็นโรงเรียนระดับเพชรอีกครั้ง ถ้าผ่านระดับกรมอนามัยได้ ก็ต้องถือว่าโรงเรียนบ้านบึงหล่มได้เพชรจริงๆอย่างที่พวกทีมของเรามักพูดกันว่าเนี่ยมันเป็นเพชรระดับประเทศ ซึ่งไม่ใช่ได้มาง่ายเลย โรงเรียนที่จ่อคิวให้กรมอนามัยประเมินประมาณเดือนพย-ธค 52 นี้ 2 โรงเรียนคือโรงเรียนบ้านบึงหล่ม อ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร อยู่ในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา เขต2 กำแพงเพชร และโรงเรียนวัดท่าไม้ อ.ชุมแสง จ.นครสวรรค์ อยู่ในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา เขต 1 นครสวรรค์ ขอเอาใจช่วยทั้ง 2 โรงเรียนคะ

หมายเลขบันทึก: 300807เขียนเมื่อ 25 กันยายน 2009 19:32 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 มิถุนายน 2012 08:29 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

ได้ยินโรงเรียน บ้านชายทะเลโคกขาม สมุทรสาคร  ที่มาเยี่ยมชมโรงเรียนที่ครูอ้อยสอน พูดว่า เป็นโรงเรียนระดับเพชร ค่ะ

ครูอ้อยคะ โรงเรียนเพชรนี่หลายๆคนคิดว่า แค่ประเมิน 19 ตัวชี้วัดเองหมูๆ แต่จริงๆแล้วแต่ละข้อมีรายละเอียดปลีกย่อยลึกมาก และเป็นการประเมินวัดผลสัมฤทธิ์ที่ตัวเด็กคะ โรงเรียนไหนได้เพชรโดยจากทีมใหญ่ของกรมอนามัยเองถือว่าเจ๋งคะ เพราะเอาเขาผู้ประเมินที่จบสาขานั้นๆมาเป็นผู้ประเมินคะ

มาให้กำลังใจครับ..
ความเป็นครู  ไหนต้องสอนและสร้างเด็ก ไหนต้องปรับแต่งสถานศึกษาให้ได้มาตรฐาน แลไหนต้องเป็นส่วนหนึ่งกับกิจกรรมทางสังคม  ไหนต้องปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง สังคม เศรษฐกิจ ฯลฯ..

ภาระยิ่งใหญ่นัก
ผมเป็นกำลังใจให้นะครับ

 

 

นำสื่อดีๆ ที่เห็นมิติของบุญกุศล
และองค์ความรู้ที่จะนำไปปฎิบัติในการเรียนการสอนมาฝากคุณครูครับ


 

ขอบพระคุณ คุณMan In Flame มากคะ มีประโยชน์มากเลย ขออนุญาตินำไปเผยแพร่ให้โรงเรียนต่างๆได้ทราบนะคะ

ผมกำลังเตรียมการอีก 2 ปีข้างหน้า ปัจจุบัน ได้สร้างโรงอาหารขนาด 12 + 25 เมตร

ปรับปรุงส้วมและสภาพแวดล้อม อยากทราบแนวทางสร้างเอกสารประกอบการดำเนินการครับ

เตรียมนักเรียน เตรียมครู เตรียมชุมชน เตรียมเอกสาร เตรียมสถานที่ อย่างไร สนใจมาก ๆ นะครับนี่

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท