ปาก..เป็นอวัยวะหนึ่งของร่างกายที่สำคัญมากทั้งต่อมนุษย์และสัตว์ทั้งหลาย เราใช้ปากในการขบเคี้ยวอาหาร เราใช้ปากในการพูดคุยติดต่อสื่อสารกับคนอื่น เราใช้ปากเพื่อประโยชน์หลาย ๆ อย่างมากมาย แต่แม้ว่าปากจะมีคุณอนันต์..ปากนั้นก็มีโทษมหันต์เหมือนกัน โดยเฉพาะการใช้ปากเพื่อพูดคุยเจรจา ถ้าพูดดีก็เป็นศรีแก่ปาก แต่ถ้าพูดมากปากก็จะเป็นสี..
สุภาษิตไทยที่ว่า “ปลาหมอตายเพราะปาก” ก็บ่งบอกว่า คนที่ปากไม่ดีชอบพูดพล่อย ๆ รู้เท่าไม่ถึงการณ์หรือพูดแสดงความอวดดี จนตัวเองต้องรับเคราะห์ก็เพราะปากของตนเอง จริง ๆ แล้ววันนี้ อาตมภาพอยากจะนำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับโทษของการพูดการจาที่ไม่ดี พูดไม่ถูกกาลเทศะ หรือการพูดโดยไม่คิด ซึ่งทำให้เกิดโทษมากมายทั้งแก่ตนเองและผู้อื่นทีเดียว
การพูดนี้.. ทำให้คนรักกันก็ได้ ทำให้คนเกลียดกันก็ได้ ทำให้คนเป็นสุขก็ได้ ทำให้คนเป็นทุกข์ก็ได้ ทำให้คนมีกำลังใจก็ได้ ทำให้คนหมดกำลังใจก็ได้ ทำให้คนพูดมีชีวิตอยู่ก็ได้ หรือทำให้คนพูดตายก็ได้ ดังจะยกนิทานธรรมเรื่องปาก(พูด)ดีและปาก(พูด)ไม่ดีเป็นตัวอย่าง คือ ตายเพราะปาก รอดตายก็เพราะปาก
เรื่องมีอยู่ว่า..กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้วในป่าลึก มีสิงโตอยู่ตัวหนึ่งซึ่งดุร้ายและชอบกินเนื้อสดเป็นอย่างมาก จนไม่มีสัตว์ในป่าตัวใดอยากเข้าใกล้มัน
วันหนึ่งมันอยากรู้ว่ากลิ่นปากของตนเองนั้นเป็นเช่นไรมันจึงเดินไปตามป่าเพื่อถามสัตว์ต่าง ๆ ดู เมื่อสิงโตพบแกะตัวหนึ่งมันจึงเอยถามขึ้นว่า "เจ้าแกะ! กลิ่นปากของข้าเป็นอย่างไร"
แกะเป็นสัตว์ซื่อ ๆ จึงตอบไปตามความเป็นจริงว่า "กลิ่นปากของท่านเหม็นมาก"
สิงโตเมื่อได้ฟังคำตอบนั้นก็โกรธมาก จึงฆ่าแกะตัวนั้นเสีย
ต่อมาสิงโตได้พบกับสุนัขจิ้งจอกอีกตัวจึงถามคำถามเดียวกันว่า”เจ้าจิ้งจอก..กลิ่นปากของข้าเป็นอย่างไร"
สุนัขจิ้งจอกเจ้าเล่ห์จึงตอบแบบเยินยอว่า "กลิ่นปากของท่านช่างหอมเสียนี้กระไร"
สิงโตรู้ว่านั้นเป็นคำโกหกปลิ้นปล้อนกะล่อนตอแหล จึงฆ่าสุนัขจิ้งจอกเสีย
ต่อมาสิงโตก็พยายามจะสอบถามสัตว์ตัวอื่นในป่าอีกแต่ก็ไม่มีสัตว์ตัวใดกล้าจะเข้าไปคุยด้วย จนกระทั้งมีลิงตัวหนึ่งพบกับสิงโตซึ่ง ๆ หน้า
เจ้าลิงรู้ว่ามันคงจะหาทางเลี่ยงไม่ได้เสียแล้วจึงเข้าไปหาสิงโต
มันสังเกตว่า ตัวของสิงโตนั้นมีกลิ่นคาวเลือดสด ๆ อยู่แสดงว่าเพิ่งจะฆ่าสัตว์มาไม่นานนัก
สิงโตก็ถามคำถามเดิมว่า "เจ้าลิง! กลิ่นปากของข้าเป็นอย่างไร"
ด้วยความฉลาดลิงจึงตอบกลับไปว่า "ข้าคงบอกท่านไม่ได้หรอก เพราะข้าเป็นหวัดจมูกไม่ดีนะ"
สิงโตจึงปล่อยลิงไป เพราะพูดดีตามสถานการณ์
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า...ความจริงเป็นสิ่งไม่ตายแต่คนพูดความจริงก็จะตายเหมือนกรณีแกะ การพูดยกยอเกินจริงก็จะทำให้ตัวเองตายได้เหมือนกับกรณีจิ้งจอก ทางที่ดีคือ การใคร่ครวญพิจารณาก่อนแล้วจึงพูดตามกาลเทศะก็จะให้ชีวิตพ้นภัยได้เหมือนลิงทีเดียว
เพราะฉะนั้น สังคมไทยเราทุกวันนี้ ถ้าพิจารณาให้ดี ๆ แล้ว ที่เกิดเหตุการณ์ความวุ่นวายต่าง ๆ ในปัจจุบันสาเหตุสำคัญอย่างหนึ่งก็คือ การพูดการจาที่ไม่ค่อยดีนัก กล่าวคือ ต่างฝ่ายต่างพูดเท็จ พูดส่อเสียด พูดหยาบ พูดเพ้อเจ้อ ซึ่งเป็นการผิดศีลข้อที่ 4 อย่างเห็นได้ชัด พูดโดยไม่รู้ว่าเรื่องพูดเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า เป็นคำส่อเสียดยุยงให้แตกแยกหรือเปล่า เป็นคำไม่สุภาพหรือเปล่า หรือแม้แต่เป็นคำที่ไม่มีประโยชน์หรือไม่ ทำให้สังคมเราเป็นทุกข์ไม่สงบร่มเย็นดังเคย ก็เป็นเพราะการพูดที่ไม่ดีนั่นเอง ดังนั้น อาตมภาพเองต้องการที่จะให้คุณโยมทั้งหลายได้เห็นความสำคัญของการพูดหรือศีลข้อที่สี่สักนิดว่า ต้องคิดก่อนพูดนะ คือ พูดแต่คำที่เป็นจริง คำเป็นเหตุให้สามัคคี เป็นคำสุภาพ และเป็นประโยชน์เท่านั้น นะโยม
เว็บไซต์อ้างอิง http://aagth1.exteen.com/20070819/entry
ไม่มีความเห็น