วันนี้กรุงเทพฯฝนตกหลายครั้ง อากาศกำลังสบายน่านอนเป็นที่สุด เลขาฯยังคงนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ เพราะหลบไปต่างจังหวัดมาหลายวัน มีเรื่องคั่งค้างมากมาย ได้ข่าวว่าที่ภูเก็ตที่เพิ่งไปเยี่ยมเยียนมามีพายุ ร้านของเพื่อนหลังคาส่วนหนึ่งกระเจิงไปกับลมแรง
ในวันแบบนี้ เลขาฯได้กำลังใจดีๆถึงสองครั้ง
ช่วงเย็น น้องหนิง ที่เริ่มไปเรียนโรงเรียนปัญญาภิวัฒน์แล้ว แต่ยังไม่เริ่มฝึกงาน โทร.มา บอกว่าอยากมาช่วยงานมูลนิธิ เรานัดแนะเจอกันในวันอังคารเนื่องจากพรุ่งนี้เลขาฯติดธุระนอกสำนักงาน แม้ว่าน้องหนิงจะยังเด็ก แต่ก็สามารถช่วยงานสำนักงานเล็กๆน้อยๆได้ หนิงมาช่วยตอบจดหมายเพื่อนๆและน้องนักเรียนทุนหลายครั้งแล้ว
เมื่อสักครู่ เลขาฯเปิดอีเมล์ พบจดหมายจากต้น น้องชายที่หายหน้าไปนาน ต้นเป็นนักเรียนหนึ่งอำเภอหนึ่งนักเรียนทุนรุ่นแรก เลขาฯได้เห็นตั้งแต่ใบสมัครของต้นที่ส่งมาถาม "พี่ว่าผมมีโอกาสไหมครับ" เลขาฯตอบไปว่า "ประวัติดีอย่างนี้ยังจะกลัวอะไร"
ต้นเลือกไปเรียนวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ที่ญี่ปุ่น "เหมือนใครก็ไม่รู้" ต้นว่าอย่างนั้น เลขาฯสนับสนุนเป็นอย่างยิ่ง ในห้องวิศวะคอมฯที่ญี่ปุ่น ต้นจะได้เจอเซียนคอมฯตัวจริงเสียงจริง ได้เห็นความชอบ ที่เกือบจะเป็น บ้า ในเรื่องใดเรื่องหนึ่งเฉพาะทางของคนญี่ปุ่น (ที่ทำให้เลขาฯกลับมาพิจารณาค้นหาความชอบของตัวเองจนสำเร็จ)
ตอนนี้ต้นเข้าเรียนมหาวิทยาลัยริตสึเมคังเรียบร้อยแล้ว กำลังยากลำบากกับวิชาคำนวณที่เด็กไทยมักจะอ่อนกว่าเด็กญี่ปุ่น แต่เลขาฯก็เชื่อว่าด้วยความสามารถและความพยายามของต้น จะสามารถผ่านความยากลำบากนี้ไปได้
เมื่อหลายปีก่อน สมัยที่เลขาฯยังทำงานอยู่ที่ญี่ปุ่น มีโอกาสอาศัยไปค่ายที่จ.มุกดาหารกับกลุ่มอาสาสมัคร C.A.N. H.E.L.P. Thailand หลังจากนั้นก็ช่วยแปลจดหมายของนักเรียนทุนถึงคนให้ทุนชาวญี่ปุ่น และในทางกลับกันด้วย เลขาฯได้รู้จักเมืองไทยในอีกแง่มุมหนึ่งที่นี่เอง
ตอนนี้ต้นได้ก้าวเข้ามาช่วยทำงานในส่วนที่ทำได้ ด้วยความรู้ภาษาญี่ปุ่นที่มีพอสมควร ต้นติดต่อกับ C.A.N. H.E.L.P. Thailand ที่สนับสนุนทุนการศึกษาให้ต้นมาหลายปี คอยช่วยแปลเอกสารทั้งไทยเป็นญี่ปุ่น และญี่ปุ่นเป็นไทย เล่าเรื่องราวของรุ่นน้องที่ได้รับทุนให้คนให้ทุนชาวญี่ปุ่น และถ่ายทอดเรื่องราวจากผู้ให้ทุนชาวญี่ปุ่นไปสู่รุ่นน้องที่เมืองไทย
เลขาฯนึกภาพต้นกำลังอมยิ้มกับข้อความในจดหมายที่อ่าน ก่อนลงมือเปลี่ยนข้อความให้เป็นอีกภาษาหนึ่ง เหมือนที่เลขาฯเคยทำมา เมื่อหลายปีก่อน
คงไม่มีกำลังใจไหนจะดีไปกว่านี้อีกแล้ว
เรื่องราวมากมายที่ได้รับฟังเมื่อวานนี้ของคุณเลขาฯ, กลุ่มอาสาสมัคร
C.A.N. H.E.L.P. Thailand และ มูลนิธิพูนพลัง จากอาจารย์หมอ
ยอมรับว่าซาบซึ้งมาก
ในฐานะคนชายขอบคนหนึ่งที่พยายามทำเพื่อคนชายขอบอีกหลายคน หากเพียงใคร
ๆ เล่าจะยังไม่ยอมเชื่อว่ามีอยู่จริง
คห.นี้มาเพื่อขอชื่นชม และแบ่งปัน
และร่วมอาสาจะให้ช่วยอะไรอย่างไรในพัทลุงนี้ อย่าได้เกรงใจครับ
ขอบคุณทุกท่านที่มาเยี่ยมและให้กำลังใจค่ะ
เป็นเรื่องจริงที่ว่า กำลังใจที่ทำให้ทำงานต่อไปมาจากน้องๆและคนที่พบเจอ พูดคุย แลกเปลี่ยนกันในระหว่างงาน เท่าที่ผ่านมาได้รับอย่างต่อเนื่อง และคิดว่าไม่มีวันหมด ตราบใดที่ยังสามารถทำงานนี้ด้วยใจได้
แต่กำลังใจจากสังคมภายนอก ช่วยทำให้มีกำลังเขียนๆๆประสบการณ์ออกไป เพราะมั่นใจว่ามีคนอ่านค่ะ
จะพยายามไปเยี่ยมเยียนทุกท่าน (ทางตัวหนังสือ) เท่าที่เวลาจะอำนวยค่ะ