ชีวิตจริงยิ่งกว่าละคร


ชีวิตจริงยิ่งกว่าละคร

                       ชีวิตจริงยิ่งกว่าละคร

           ใครที่เคยดูรายการทีวี เรื่องชีวิตจริงยิ่งกว่าละคร  เป็นรายการที่นำเรื่องของคนที่มีชีวิตในปัจจุบันที่ต่อสู้กับสภาพแวดล้อมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการดำรงชีวิตอยู่ในสังคม ในสภาพเศรษฐกิจที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ เรียกว่าในโลกแห่งความเป็นจริง ดูแล้วมีหลายอารมณ์นะทั้งหดหู่  เศร้า สงสาร อึ้งและทึ่งว่ายังมีคนแบบนี้ในประเทศไทยเราอีกไม่รู้กี่มากน้อย  ไม่ทราบว่าใครชมแล้วมีความรู้สึกแบบนี้บ้างไหม  เป็นรายการที่นำเรื่องจริงมาตีแผ่ชีวิตคนยากไร้ คนเดินดินธรรมดาๆกลุ่มหนึ่ง   ซึ่งยังมีคนกลุ่มนี้อีกหลายครอบครัว  ที่ยากจนในประเทศไทยเรา  ผู้เขียนชมสองตอน ตอนแรกที่ครอบครัวอาศัยอยู่ใต้สะพานกันมีลูกหลานหลายคนในครอบครัว ใช้ไม้ไผ่ตอกตะปูเป็นพื้นและฝามีผ้ามัดมุงเป็นเพิงอาศัยอยู่ พ่อติดเหล้า แม่รับจ้าง ลูกรับจ้างและลูกก็มีเมียมีลูกอีกหลายคน  เด็กๆก็มาแย่งกันเกิดดีจริง ผิดกับคนรวยต้องไปหาหมอทำกิ๊ฟ ทำลูกในหลอดแก้ว(อาจเป็นเพราะทำบุญมาน้อยเลยไม่ได้เกิดเป็นลูกคนรวย ต้องแย่งกันเกิดเป็นลูกคนจน) แต่เด็กๆมีความสุขกับชีวิตดี มีความใฝ่ฝันอยากมีบ้านเป็นหลังสวยๆ มีเตียง มีโต๊ะ ตู้ มีเสื้อผ้าสวยๆ มีไฟฟ้าใช้ พ่อแม่ก็ดูแลเอาใจใส่ตามสภาพที่จะทำได้   

         ตอนที่สอง เป็นเด็กผู้หญิงที่ครอบครัวแตกแยก พ่อไปมีเมียใหม่ ส่วนเด็กอาศัยอยู่กับแม่ สามีใหม่และยาย  เป็นเด็กที่มีความคิดดี รู้จักทำงานหารายได้ส่งเงินให้แม่กับยายใช้  ส่งตัวเองเรียนมหาวิทยาลัยไปด้วย  ทำงานทุกอย่างแม้กระทั่งอาชีพที่หลายคนดูว่าเสี่ยงคือเต้นโชว์ในบาร์ในผับของคนกลางคืน (คล้ายๆโคโยตี้) ซึ่งน้องผู้หญิงว่าเป็นรายได้ที่ดี  ไม่ได้ประพฤติเหลวแหลก เหมือนกับอาชีพคนกลางคืนที่ทำกัน 

        สองเรื่องชีวิตจริงยิ่งกว่าละครที่ประชากรในประเทศไทยเรามีชีวิตแบบนี้  ไม่ใช่มีแค่นี้  ยังมีอีกหลายครอบครัวที่ปากกัดตีนถีบ เพื่อปากท้องของตนและครอบครัว  เพราะคนส่วนมากบ้านเรามีฐานะยากจน  เมื่อเทียบกับคนรวยที่มีน้อยเพียงหยิบมือ  ผู้ขียนไม่ได้คิดกล่าวโทษใครใดๆทั้งนั้น เพราะคนเราเลือกเกิดไม่ได้ แต่เลือกที่จะดำเนินชีวิตเป็นคนดีในสังคมได้  จึงอยากให้คนในสังคมที่พร้อมมีบ้าง หรือเหลือกินเหลือใช้  ให้โอกาส ให้งาน  ให้ความช่วยเหลือได้ก็ช่วยๆกันบ้าง  เพราะคนเหล่านี้น่าสงสารมาก  หากเมื่อใดเขาไม่มีใครให้โอกาส ไม่มีงาน ไม่มีความช่วยเหลือ คนเหล่านี้อาจประพฤติตนผิดกฏหมาย ผิดกฏระเบียบประเพณีของความเป็นคนได้  

        ผู้เขียนเองรู้จักเด็กดีๆหลายคนที่มีความขยันขันแข็ง มีความกตัญญูต่อพ่อแม่ ทำงานทุกอย่างที่สุจริตเพื่อช่วยพ่อแม่ แล้วเด็กเหล่านี้มักประสบผลสำเร็จได้ดิบได้ดี มีฐานะ มีชื่อเสียงในสังคมเป็นที่สรรเสริญของคนรอบข้าง  จึงอยากให้เรื่องที่เขียนขึ้นมานี้เป็นส่วนหนึ่งที่คุณอ่านแล้วได้ฉุกคิดว่า  เด็กที่ยากจนแต่รู้จักดิ้นรนเพื่อความอยู่รอดด้วยความสุจริต หนักเอาเบาสู้ ไม่ผิดกฏหมาย เป็นคนที่น่าสนับสนุน ให้โอกาส   แต่หากจนแล้วไม่เจียม ขี้เกียจสันหลังยาวหนักไม่เอา เบาไม่สู้ คิดรวยทางรัด ทำสิ่งผิดกฏหมาย คนแบบนี้ซิ ควรช่วยกันทำอย่างไรให้มีน้อยหรือไม่มีเลยในสังคมบ้านเรา  หากคุณคิดเพียงว่าธุระไม่ใช่แล้ว  อีกหน่อยสังคมบ้านเราคงมีคนที่มีพฤติกรรมไม่ดีไม่เหมาะสม  เต็มบ้านเต็มเมืองแน่นอน.

หมายเลขบันทึก: 300069เขียนเมื่อ 23 กันยายน 2009 11:06 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 มิถุนายน 2012 19:35 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)
  • ตามมาทักทายอาจารย์ครับ
  • บางทีเราเลือกเกิดไม่ได้แต่เลือกทำดีได้ครับ
  • สบายดีไหมครับอาจารย์

สบายดีค่ะ ขอบคุณคุณขจิตมากที่เข้ามาเยี่ยมทักทาย บางคนอาจไม่ชอบดูหรือชมรายการทีวี บ้างว่าไร้สาระ แต่ถ้าคุณลองเปิดใจสักนิด บางครั้งรายการที่เราเลือกดู เลือกฟัง มีหลายรายการที่มีสิ่งดีๆหลบซ่อนอยู่ ถ้าเรารู้จักเลือก คิด และวิเคราะห์ ก่อนนำประสบการณ์ที่ได้รับมาใช้ให้เกิดประโยชน์

ดีใจจังที่อาจารย์ได้พูดถึงรายการ..ซึ่งเป็นตอนที่หนูทำ...

ความสุขของคนทำ...ก็คือการได้ส่งต่อความคิด ความรู้สึก...*-*

อยากให้มีเด็กที่มีความคิดดีๆแบบหนูมากๆในเมืองไทยเรา ครูก็เป็นกำลังใจให้กับเด็กที่มีความมานะพยายามสร้างสรรค์งานออกสู่สายตามวลชน ขอให้ทำต่อไป

นายอิทธิพล แสนทวีสุข

ชีวิตของเรามักเลือกเกิดไม่ได้ เเต่เลือกที่จะทำให้ชีวิตเป็นดังที่เราต้องการได้ ถ้ามองเพียงในละครเเละทำตามบางครั้งฉากจบอาจ

เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของชีวิตก็ไดนะครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท