ท่าทีต่อเสื้อเหลืองเสื้อแดงของผู้ใฝ่ใจในสันติธรรมควรเป็นอย่างไร?


ช่วงนี้มีข่าวความเคลื่อนไหวของกลุ่มการเมืองทั้งเหลืองทั้งแดง
ที่ทั้งสองสีต่างก็เห็นโลกตาม "กระบวนทัศน์" (วิธีคิด วิธีปฏิบัติ วิธีให้คุณค่าต่อสิ่งต่างๆ) ของตน มีความคาดหวังให้บ้านเมืองเปลี่ยนแปลงไปตามกระบวนทัศน์นั้น

ผมมีเพื่อนทั้งเหลืองทั้งแดง และท่าทีที่ผมมีต่อทั้งสองสีก็คือ พรหมวิหารสี่

นั่นคือ ผมยัง "เมตตา" (รักและให้อภัย) เพื่อนเสมอไม่ว่าคุณจะเป็นสีใด แม้คุณจะใช้วาจาตำหนิกล่าวโทษเสียดสีประชดประชันท้าทายต่ออีกฝ่ายหนึ่ง หรือแม้จะมีพฤติกรรมแสดงออกโดยการใช้ความรุนแรงต่อร่างกายหรือทรัพย์สินของอีกฝ่ายหรือต่อกันและกัน ผมก็ยังรักคุณ

ผมยัง "กรุณา" ให้ความช่วยเหลือ แนะนำ ตั้งคำถาม ฯลฯ เพื่อให้เขาได้คิดพิจารณาสิ่งที่ทำหรือที่คิดว่าจะทำ เช่น จะดีกว่าไหมถ้าไม่ใช้วาจาในลักษณะโจมตีเสียดสีประชดประชัน ยั่วยุ แต่ใช้ท่าทีแสดงความเห็นอย่างจริงใจ (ด้วยสัมมาวาจา) โดยเผื่อใจไว้สักหน่อยว่า "ฉันอาจเห็นไม่ถูกก็ได้" เพราะเราคงไม่ใช่ศูนย์กลางของความถูกต้อง คนที่คิดไม่ตรงกับเราล้วนผิด เป็นต้น

ผมยังมี "มุทิตา" ชื่นชมยินดีกับความสำเร็จต่างๆ อันเนื่องมาจากความเห็นชอบ เพียรชอบ กระทำชอบ (ตามทำนองคลองธรรม) ฯลฯ ของเขา

ผมยังจะมี "อุเบกขา" วางเฉยได้กับความไม่สมบูรณ์พร้อมของเขา ที่อาจจะมีไม่ถูกต้อง(เช่นทำบางสิ่งบางอย่างผิดศีลธรรมอันดี) อยู่บ้าง เพราะผมเองก็ยังไม่ใช่มนุษย์ที่สมบูรณ์พร้อม

ผมมีท่าทีอย่างนี้ เนื่องจากเข้าใจว่าตนเป็นผู้หนึ่งที่ใฝ่ใจในสันติธรรม

หมายเลขบันทึก: 299866เขียนเมื่อ 22 กันยายน 2009 17:24 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 09:37 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

การเมืองก็คือการเมือง..แหละโยม..มันขึ้นอยู่กับว่าผลประโยชน์และอำนาจอยู่ไหน..?

ท่าทีต่อเสื้อเหลืองเสื้อแดงของผู้ใฝ่ใจในสันติธรรมควรเป็นอย่างไร? ไม่แน่ใจคะ

ว่าจะไม่ลงความเห็นแล้ว

แต่

เห็นหัวข้ออาจารย์ หรือหัวข้อประมาณนี้ทีไร

หรือเมื่อนึกถึง ประเด็นเสื้อเหลือง เสื้อแดง ทีไร

จะนึกถึง -ปลาเหมือนๆกัน ดิ้นอยู่ในหนองน้ำแคบๆแห้ง

และ ที่สำคัญกว่า

ด้วยความจริงใจ

ไม่รู้ทำไม แต่ทุกครั้ง ผึ้งจะนึกไปถึง ตอนเริ่มต้นของภาพยนต์ เรื่อง love actually ทุกที

เป็นภาพที่เกิดขึ้นที่สนามบินขาเข้ามุมเล็กๆ ทุกคนล้วนโผกอดกัน พร้อมคำพูดประกอบตามด้วยเสียงหล่อว่า

-------------------------------

"ผมคิดถึงประตูขาเข้าที่สนามบิน

คนมักคิดว่าโลกนี้มีแต่ความโลภและชิงชัง

ผมไม่เห็นด้วยครับ

ผมว่าความรักมีอยู่ทุกหนแห่ง

แม้มันจะไม่สง่างามหรือเป็นข่าว

แต่โลกนี้มีรักเสมอ

.พ่อกับลูกชาย

.แม่กับลูกสาว

.สามีกับภรรยา

.แฟนหนุ่มแฟนสาว

.เพื่อนเก่า

ตอนที่เครื่องบินชนตึกแฝด เท่าที่ผมรู้ ไม่มีใครบนเครื่องโทรไปด่าทอใคร

มีแต่โทรไปบอกรักกัน

ถ้าคุณสังเกตุดู จริงๆแล้วความรักอยู่รอบตัวเรา"

----------------------------------

แถม พร้อมกับ ผึ้งก็ มีจินตนาการ สุดโต่ง (ปกติไม่ค่อยมี)

ใจมักเห็นภาพ ประชาขนพี่น้องไทย บนลานกว้างบนท้องถนนที่ท่านเหล่านั้นชุมนุมกัน

เสื้อเหลือง เสื้อแดง เดินไปเดินมา ต่างโผสวมกอดกันและกันด้วยรอยยิ้ม เราล้วนเป้นพี่น้องกัน

แล้วกล้องก็ถ่ายไปทั่วโลก

คะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท