การเรียกชื่อยา : เพททีดีน (pethidine) หรือ meperridine หรือเรียกทั่วไปกันว่า Demerol และยังหมายถึง isonipecaine ,lidol, pethanol,algil, alodan ,centralgin, dispadol, dolantin, mialgin (ใน โรมาเนีย) petidin, dolargan (ใน โปแลนด์ ) dolestine, dolosal, dolsin, mefedina ในศตวรรษที่ 20 pethidine ถูกนำมาเป็นทางเลือกในการใช้ระงับปวดมากในปี 1983 60% ของแพทย์กำหนดไว้สำหรับการปวดรุนแรงและ 22% สำหรับอาการปวดรุนแรงเรื้อรัง.
อาการไม่พึงประสงค์ : กระตุ้นระบบประสาทส่วนกลางอย่างมาก ทำให้เกิดอาการกระสับกระส่าย มือสั่น กล้ามเนื้อเกร็ง กระตุก และชักได้ นอกจากนี้ยังทำให้กดการหายใจ ความดันโลหิตต่ำ ระดับการเต็นของหัวใจช้าลง สับสน คลื่นไส้อาเจียน ท้องผูก และเป็นผื่นคัน จึงไม่ควรใช้ในผู้ป่วยที่มีการทำงานของไตและตับผิดปกติ
การเฝ้าระวัง : Respiratory & mental status ติดตามอัตราการหายใจ หากหายใจช้าลงหรือ Oxygen Saturate drop < 95 % , Blood pressure ( BP < 90/60 mmHg หรือ BP>140/90 mm Hg), อาการชักควรปรึกษาแพทย์เพื่อหยุดยาหรือลดขนาดยาลง
การบริหารยา : บริหารยาได้ทั้งทางกล้ามเนื้อ ทางเส้นเลือดดำ และผสมในน้ำเกลือ ( IM ,IV ,SC) แต่มักทำให้ระคายเคืองเฉพาะที่ฉีดเข้าทางเส้นเลือดดำ ดังนั้นจึงควรเจือจางด้วยน้ำกลั่น(sterile water) ให้ได้ความเข้มข้น 10 mg/ml ให้ฉีดแบบช้าๆอย่างน้อย 5 นาที IV infusion เจือจางใน D-5-W ให้ได้ความเข้มข้น 0.1-1 mg/ml บริหารยาโดยใช้ Infusion pump ให้ผู้ป่วยนอนขณะให้ยา และให้นอนพัก 30 นาทีหลังให้ยา หรือผสมใจสารละลายเจือจาง คือ D-5-W , NSS , Lactate Ringer ห้าม ผสมยาฉีด Pethidine กับ Barbiturates (เช่น Phenobarbital , thiopental), aminophylline , heparin , phenytoin , furosemide ,cefoperazone , imipenem , amphotericin B , morphine และ sodium bicarbonate เพราะจะเกิดการตกตะกอน
การรักษาเมื่อได้รับยาเกินขนาด : naloxone
ข้อห้ามใช้ : ผู้ที่มีประวัติเคยแพ้ยา Pethidine , ผู้ป่วยที่ได้รับยากลุ่ม MAOI หรือเคยได้รับยานี้มาก่อนใน 14 วัน
ยาที่ทำปฏิกิริยาของยาไม่ดี :Phenytoin ลดฤทธิ์ในการบรรเทาปวดของ Pethidine
Isoniazid , MAOI ,SSRI , CNS depressant ,TCA , Phenothiazine เสริมฤทธิ์ของ Pethidine
Ritonavir เพิ่ม CNS toxicity ของ Pethidine
ข้อควรระวัง : ยาในขนาดสูงติดต่อกันเป็นเวลานาน ผู้ป่วยไตบกพร่องหรือไตวาย มีโอกาสเสี่ยงต่อความเป็นพิษต่อสมอง
แลกเปลี่ยนครับ ...
pethidine เป็นยากลุ่ม opiods analgesic มีโครงสร้างที่เป็นอนุพันธ์ของมอร์ฟีน ออกฤทธิ์ระงับปวดที่ opiods receptor ในสมอง
อาการไม่พึงประสงคือย่างหนึ่งคือ การทำให้เสพติด (addiction) เนื่องจากทำให้มีการเพิ่มขึ้นของ dopamine ซึ่งทำให้เกิดภาวะเคลิ้มสุข (euphoria) ดังนั้นเมื่อหยุดยา pethidine ก็จะทำให้ dopamine ลดลง จึงเกิดอาการถอนยาขึ้น
ดังน้้น การใช้ pethidine จึงต้องควรระวังอาการไม่พึงนี้ด้วย ...
ขอบคุณมากค่ะที่ให้คำแนะนำ และขอถามหน่อยได้ไหมค่ะว่าผู้ป่วยได้รับกี่ dose ถึงติด หากไม่เคยคิดถึงยาแก้ปวดตัวนี้เลย แล้วปวดหัวมากจนกว่าทนไม่ไหวจริง ๆ เมื่อนั้นเหรอค่ะจะไปฉีดได้
คุณแม่ได้รับยาแก้ปวด ฉีด ต่อเนื่อง จาก 18.00-21.30 น. 3 เข็ม เสียชีวิต 10 วันต่อมา คุณหมอแจ้งว่าไตอักเสบเฉียบพลัน ติดเชื้อในกระแสเลือด แต่ตอนไปโรงพยาบาล แค่ ปวดแผลที่ขาเท่านั้น ร่างกายแข็งแรง เดินได้ปกติ เดินทางไปหาหมอด้วยตัวเอง ไม่มีโรคประจำตัวใดๆเลย ไม่เป็นโรคไต ไม่เป็นเบาหวาน เป็นความดันโลหิตสูง แต่ควบคุมได้แล้ว หลังจากคุณแม่เสียชีวิต และเผาศพไปแล้ว ญาติๆไม่แน่ใจสาเหตุการตาย เลยขอดูประวัติการรักษาจากโรงพยาบาล แต่ทางโรงพยาบาลปฏิเสธไม่ให้ แจ้งว่าให้ได้แค่ผลสรุปการรักษาเท่านั้น
มีเพื่อนร่วมงานที่โรงพยาบาลติดยานี้จะทำอย่างไรช่วยเขาได้ กลัวเขาเสียชีวิต แต่เจ้าตัวเขาไม่ยอมรับและไม่ร่วมมือไ
ใครมีข้อมูลเกี่ยวกับการใช้ยาเพดทิดีน ในการลดปวดในระยะคลอดบ้างค่ะ ขอความกรุณาแลกเปลี่ยนจะเป็นพระคุณอย่างยิ่งค่ะ
ในเรื่องของงการใช้ ขนาด การออกฤทธิ์ และผลข้างเคียงค่ะ อยากทราบว่ามันจะต่างจากการที่เราใช้กับผู้ป่วยอื่นๆทั่วไปหรือไม่
ฉันเคยได้รับยานี้คลอดลูก แล้วมีอากรแพ้ยานี้อย่างเฉียบพลันหลังได้รับยาเพียงแค่ไม่ถึง 1-2 นาที อาการคือหายใจขัดและไอ และออกซิเจนไม่เพียงพอที่จะไปส่งไปถึงเจ้าตัวเล็กที่อยู่ในท้องซึ่งกำลังรอจะคลอด ทำให้ตัวเองและลูกเกือบไม่รอดชีวิต ในวันนั้น
ตอนผ่าท้องก็ได้แต่ตอนผ่าเข่านิแหละโดนฉีดแต่ละที่ จากนรกที่ทรมานสุด ทำให้ลอยขึ้น สวรรค์ และทำให้ผมติดใจ ทำให้เกิดความต้องการมัน แต่ตอนผ่า 2 - 3 วัน แรก จะให้ทุกๆ 4 - 6 ช .ม.
สวัสดีคัพ พ้มอยากขอคำปรึกษาผู้รุ้นิดนึง. พอดีแม่พ้มใช่ยาตัวนี้อยุ่. เพราะแก่ได้รับการผาตัดมดลูกเมื่อประมานวันที่9มี.ค 59 แร้วต้องนอนรพ.สองถึงสามวัน ใช่ยาแพททีดีนตัวนี้ถี่มากพ้มกลัวแม่จะติดเพราะแก่ใช่ยาตัวอื่นไม่ได้เรยแพ้หนักมาก. หมอฉีดประมาน4-5ชั่วโมงต่อเข็มอะคัพ. แร้วเมื่อแก่ออกจากรพ.มาแก่ก้อยังมีอาการเจ็บอยู่ตลอด. นานๆเข้าก้อเรยพาไปเอ็กซเรย์. ปรากฏหมอบอกว่าใหม่ที่ใช่เย็บแผลข้างในมันระลายไม่หมด(มีด้วยแหะ) หมอก้อเรยอิบออกทางช่องคลอด แร้วก้อถูกนอนรพ.อีก4วันคือช่วงสงการ แร้วแก่ก้อใช่ตัวนี้มาทุกวันจนถึงวันที่18เม.ย59เป็นเข็มสุดท้ายที่เขาจะบล็อกยา. เพราะเขาเห็นว่าใช่มากเกินไป...แต่ตอนยุบ้านแก่ก้อปวดจิงๆน่ะคัพนั่งร้องไห้ด้วยพ้มสงสารมาก
พ้มเรยอยากทราบว่ามีแนวโน้มจะติดยาป่าวคัพ. เพราะตอนออกจากรพ.แก่ก้อต้องไปฉีดทุกวันที่รพ.มหาราช ซึ่งหมอก้อให้ฉีดน่ะคัพแต่ตอนนี้สมุดปิดไปแร้ว เรยอยากรุ้อาการคัพ. ติดเป็นยังไง แร้วจะแก้ไข้ยังไงคั
มีอาการเหมือนกันค่ะ เจ็บท้องคลอด พยาบาลฉีดยาแก้ปวดเพททีดีนให้ แค่ยาเข้าถึงเส้นเลือดแค่นั้น มีอาการหาใจไม่ออก ก็ได้ร้องโอดโอยให้เค้าช่วยว่าหายใจไม่ออก เพราะเราพูดอะไรไม่ได้ยาวกว่านี้ แต่ก็ไม่มีใครสนใจ เราก็กลัวลูกในท้องจะเป็นอันตราย ก็ร้อง จนหมดฤทธิ์ยา แล้วก็ไม่มีแรงจะเบิ่งคลอดแล้ว ทั้งที่ปากมดลูกเปิดแค่3ซม.หมอเลยมีคำสั่งผ่าเพราะ น้ำคล้ำเดิน 17ชม.แล้ว ถ้าปล่อยได้เกิน18ชม. ทารกจะติดเชื้อ
ฉันติดยาตัวนี้มาสามเดือนล่ะค่ะ ถ้าไม่ได้ฉีดจะหงุดหงุด ปวดแสบร้อนตามแขนขา ปวดบริเวณที่ปวดมากขึ้น บางทีร้องไห้ต้องขอยา มันเหมือนคนอยากกินเหล้าค่ะ ฉันติดบ่อยมากครั้งไหน3-4เดือน เวลาฉีดเหมือนได้ขึ้นสวรรค์ คนปกติเขาฉีด25แอมป์ ฉันต้องฉีด50-100ถ้ายาไม่ถึงจะหงุดหงิด ถ้าหมอแอบฉีดยาอื่นก็จะรู้เพราะมันจะมีกลิ่นหอมเวลายาเข้าเส้นเลือดจะรู้เลยว่าไหลมาถึงไหนสักจะแน่นอกนิดๆและหอมแต่โครตฟินตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงเลิกยา