เทคโนโลยีสารสนเทศกับการศึกษา
หากมองย้อนไปในอดีตการเรียนการสอนที่ต้องท่องจำ
อ่าน และสอบโดยที่ไม่ได้รับรู้หรือมีเป้าหมายว่า
เมื่อเรียนไปแล้วจะนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างไร
หลักสูตรที่จัดทำขึ้นจะบอกวัตถุประสงค์ว่าจะให้ผู้เรียนนำไปประยุกต์ใช้ได้อย่างไร
การวัดผลท้ายที่สุดคือการสอบ
ซึ่งถือว่าเป็นการรวบยอดความรู้และแสดงให้เห็นถึงความเข้าใจว่ามีมากน้อยเพียงใด
เป็นวิธีการที่ใช้มานาน
แต่ในชีวิตประจำวันหลังจากที่เรียนจบแต่ละคนจะมีหน้าที่
อาชีพการงาน ต่างกัน
บางคนเรียนไม่ดีแต่กลับมีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่า
ซึ่งส่วนนี้เป็นเรื่องของกรอบความคิด
และแนวคิดในการนำความรู้มาประยุกต์กับการใช้ชีวิต
ผู้เกี่ยวข้องกับการจัดการศึกษาพยายามที่จะผลักดันให้ระบบการศึกษาตอบสนอง
และพัฒนาผู้เรียนให้สามารถเรียนรู้และประยุกต์ใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การนำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการเรียนการสอนถือได้ว่าเป็นภาระและความจำเป็นที่ผู้สอนต้องมีวิสัยทัศน์และมองเห็นถึงความสำคัญ
ระบบคอมพิวเตอร์ช่วยสอน ระบบการเรียนทางไกล
และการเรียนแบบออนไลน์ที่เปิดให้ผู้เรียนและผู้สอนสามารถติดต่อและให้คำปรึกษา
ตลอดจนการศึกษาและเรียนรู้ด้วยตัวเองที่สามารถเรียกข้อมูลมาใช้ได้จากทุกที่
ที่มีการเชื่อมต่อเครือข่าย
การปรับสภาพที่ทำให้ผู้เรียนเกิดความต้องการในการเรียนรู้เป็นสิ่งจำเป็น
แต่หลาย ๆ
ครั้งเราจะมองเห็นว่าการเรียนรู้ไม่ต่างจากการพยายามผลักดัน
ยัดเยียดความรู้โดยที่เราหรือเขาไม่มีโอกาสรู้ด้วยซ้ำว่าเรียนไปเพื่ออะไร
เทคโนโลยีสารสนเทศ
เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่นำมาเป็นเครื่องมือในการสอน
เครือข่ายความรู้ที่ใช้อินเตอร์เน็ตเป็นตัวกลางถือได้ว่าเป็นแรงสำคัญในการเชื่อมโยงแหล่งความรู้
ข้อมูลเนื้อหา ชุดวิชาใน
การสอนเข้าด้วยกันโดยไม่มีพรมแดนกั้น
ทำให้การเรียนน่าตื่นเต้นและน่าติดตาม
เรียนอยู่ที่สถาบันราชภัฏรำไพพรรณี
สามารถใช้เอกสารการสอนจากต่างประเทศได้
อยากศึกษาอยากเรียนรู้แขนงวิชาไหนก็ทำได้ง่ายเพียงปลายนิ้ว
โดยมีผู้สอนเป็นผู้ชี้นำ
ปัจจุบันมีเครือข่ายการเรียนรู้ตามเนื้อหาวิชาในหลาย ๆ
วิชาที่ได้พัฒนาขึ้นจากแหล่งการศึกษาหลายแห่งที่ตระหนักถึงระบบการเรียนการสอน
สภาพการเรียนรู้
ให้สอดคล้องกับเทคโนโลยีที่มีอยู่ในปัจจุบัน
ได้แก่โครงการเครือข่ายคอมพิวเตอร์เพื่อโรงเรียนไทย
http://www.school.net.th
เครือข่ายของมหาวิทยาลัยในประเทศไทย http://www.uni.net.th
เครือข่ายของสำนักงานสภาสถาบันราชภัฏ http://www.ru.ac.th
เครือข่าย E-Learning ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
http://www.chulaonline.com มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
http://www.ku.ac.th
และอีกหลายแห่งที่ไม่ได้กล่าวในที่นี้
เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์ (2542) ได้เสนอ
10 อนาคตภาพ
เพื่อพลิกโฉมหน้าใหม่ของโลกและเตรียมความพร้อมของประเทศไทยสู่ศตวรรษที่
21 ซึ่ง 10 อนาคตภาพนี้
คนในสังคมจะต้องเผชิญอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง
อนาคตภาพที่เกี่ยวข้องกับการจัดการศึกษาและเทคโนโลยีสารสนเทศ
4 อนาคตภาพ ดังนี้
1. ยุคของเทคโนโลยีขั้นสูง (The Age of high technology)
ซึ่งถือว่าเทคโนโลยีเป็นปัจจัยสำคัญที่กำหนดรูปแบบการพัฒนาและการเปลี่ยนแปลงในศตวรรษที่
20
2. ยุคของข้อมูลข่าวสารสนเทศ (The Age of Information
Technology) ซึ่งการพัฒนาวิทยาการด้านคอมพิวเตอร์เริ่มตั้งแต่ปี
1964 จนถึงปัจจุบันมีการสร้างเครือข่ายสารสนเทศ
ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างความสามารถการแข่งขันทั้งในระดับประเทศและระดับนานาชาติ
ความสำเร็จและอำนาจของบุคคลจะอยู่ที่ความสามารถในการเข้าถึง
การจัดการ
และการประยุกต์ใช้ประโยชน์จากข้อมูลที่มีอยู่อย่างมากมายเหล่านี้
3. ยุคของสังคมแห่งความรู้ (The Age of Knowledge
Society) จากประโยคอมตะของFrancis Bacon ที่ว่า “
ความรู้คืออำนาจ” ( Knowledge itself is power ) ดังนั้น
ความรู้จึงกลายเป็นตัวกำหนดระดับความสามารถ
ในการแข่งขันทั้งในระดับบุคคล ระดับหน่วยงาน
และในระดับประเทศ
บุคคลที่ทรงความรู้อย่างหลากหลายและมีความสามารถในการนำความรู้มาใช้ให้เกิดประโยชน์จะกลายเป็นกลุ่มคนที่ทรงพลังอำนาจในสังคมอนาคต
4. ยุคของสังคมเครือข่าย (The Age of Networks)
มีการจัดระเบียบโลกใหม่
ซึ่งจะไม่มีประเทศหรือองค์กรใดสามารถดำรงตนอยู่อย่างโดดเดี่ยวได้
จะต้องสร้างการประสานความร่วมมือในการดำเนินงานเพื่อการอยู่รอดและเพิ่มความแข็งแกร่งของประเทศและองค์กร
สังคมเครือข่ายจึงเป็นภาพที่ชัดเจนในศตวรรษที่ 21