สมอง... และสองมือ...


มีอยู่ตอนหนึ่งที่คุณตุ๊กถามว่า “แล้วแม่มีคติประจำใจอะไรที่ทำให้มาถึงทุกวันนี้” แม่กิมไล้ตอบว่า “ต้องมีคามขยัน ทำงานด้วยสมอง และสองมือ”

          วันนี้...  นั่งดูข่าวเรื่องเล่าเช้านี้...  ดูคุณสรยุทธ  ปวดเศียรเวียนเกล้าเรื่องวิถีชาวบ้านในการ  “ขอหวย”  มิใช่น้อย

 

         นั่งดู...  นี่ก็ไก่ชน  ไก่ชนใบ้หวย  แนะ...  ไก่ให้หวย  มีการฟังเสียงไก่  แล้วตีเป็นเลขกัน....  นั่นก็นกแสกร้องทัก  มีคนเสียชีวิตในเวลาใกล้เคียง  พอไปเปิดฝาโรงปรากฏเลขเขียนไว้  เสร็จสัพแทงหวย...  และโน่นก็จรเข้หลวงพ่อ  อุ้มขึ้นจากน้ำกันได้ทั้งวัน...  นี่ถ้าผมเป็นจรเข้จะแกล้งดิ้นแล้วเดินกร่างแถวนั้นซะสามรอบ  (น่ารำคาญ...)  โอย !  จะอะไรกันนักหนาชีวิตนี้  ไม่ได้จะลบหลู่นะ...  สิ่งเหนือธรรมชาติเนี่ย...  แต่บางครั้งมันต้องเชื่ออย่างมีเหตุผล  ไม่ใช่เชื่ออย่างไร้เหตุผล...  อยากรวยแน่นั่งหาหวยกันทั้งวัน...

         ไหน ๆ  ก็พูดมาแล้ว...  ถ้าใครคิดว่าเป็นการลบหลู่ก็ไม่ว่ากัน  ไม่เป็นไร...  อยู่มานานแล้ว  ถ้าเกิดอะไรขึ้น  แต่...  สามารถทำให้คนอื่นคิดได้มันก็ดีนะ...

         เอ้า...  จะเล่าให้ฟัง  จากรายการโทรทัศน์   ที่ผ่านมาสองวัน...  (ให้คิดกันหน่อย...  เผื่อสมองน้อย ๆ  เท่ากำปั้น  จะทำงานขึ้นมาบ้าง)

         รายการแรก...  รายการตลาดสดสนามเป้า โดย  คุณแหม่ม  คุณเหมี่ยว  และน้องรถเมล์  (น่ารัก)  รายการผ่านไปเรื่อย ๆ  ตาเนื้อหาของรายการ  แต่ถึงช่วงหนึ่งที่มีการพาไปดูน้องสองคนที่  อายุยังไม่ถึง  10  ขวบด้วยซ้ำ...  หาเงินด้วยตัวเองโดยของที่ขายนั้นไม่ได้มีอะไรแตกต่าง  แต่ด้วยวิธีการการขายที่น่าสนใจมิใช่น้อย  นี่สิ...  ทำให้ผมอึ้ง...

         น้อง ๆ  สองคนนี้...  คนหนึ่งชื่อน้องสตางค์  อายุ  10  ขวบ  ขายลูกโป่ง  และคนที่สองชื่อน้องซันนี่  อายุ  7  ขวบ  ขายเกี๊ยวทอด  ของที่ขายนั้นไม่มีอะไรโดเด่นเลยเชียว...  แต่วิธีการขายโดยแต่งตัวด้วยเสื้อสไปร์เดอร์แมน  ส่วนศรีษะสวมวิกผมสีสดใส  ทาหน้าทาปากเป็นโจ๊กเกอร์...  (ทำไปได้)  เดินขายของอยู่ในตลาดกลางเพื่อเกษตรกร  อยุธยา  ทุกวันหยุดเสาร์ – อาทิตย์  แต่เบื้องหน้าเบื้อหลังที่น้องสองคนนี้มาเดินขายข้องด้วยสาเหตุใดผมไม่ทราบได้  เป็นเพราะยังเด็ก  อยากสนุก  อยากได้เงิน  หรือผู้ปกครองให้มาขาย  อันนี้ผมไม่กล่าวถึงเพราะไม่ใช่ประเด็น...

         แต่ประเด็น...  ที่ผมหยิบยกมาเล่าให้ฟังก็เพื่อจะบอกว่า  เด็กอายุประมาณนี้ยังรู้จักทำมาหากิน  นี่สิ...  โอ้ย..  นับถือ...  และมีคำพูดหนึ่งที่ผู้สัมภาษณ์ถามว่า  “ไม่อายเหรอที่แต่งตัวแบบนี้มาเดินขายของ”  รู้ไหมครับว่า  น้องซันนี่ตอบว่าอย่างไร  “อายทำไม  ได้สตางค์”  วิ้ง  วิ้ง  วิ้ง...  อายเด็กมั้ยครับท่านพวกมนุษย์พกแป้ง  แทงหวยทั้งหลาย...

         รายการที่สอง...  รายการ  V.I.P. โดย  คุณตุ๊ก  และคุณพอล  พาไปสัมภาษณ์แม่กิมไล้  ผู้เป็นตำนานขนมหม้อแกง  เจ้าของสูตรหม้อแกงร้อยล้าน  จังหวัดเพชรบุรี  รายการดำเนินไปด้วยความทึ่งของแม่  (ผมขอเรียกแม่อีกคนนะครับ...)  เพราะแม่กิมไล้  ปกติแล้วฐานะทางบ้านก็ปานกลาง  แต่บางครั้งก็ไม่มีกินอยู่เหมือนกันแต่ด้วยความที่มีความรู้ด้านการทำขนมที่ได้ถ่ายทอดมาจากมารดาจึงเป็นเหตุให้แม่กิมไล้โด่งดังในขณะนี้...
 
         จริง ๆ  แล้ว...  แม่กิมไล้บอกว่าจุดเริ่มต้นเกิดจากกล้วยเครือเดียว...  (มีคนเอามาให้)  หลังจากนั้นแม่ก็เอากล้วยมาทำข้าวต้มมัด  ส่วนที่เหลือที่สุกจนงอมแม่ก็มาทำขนมกล้วย  นี่จึงเป็นครั้งแรกที่แม่มีรายได้จากการขายขนม... 

         แต่...  ประเด็นไม่ได้อยู่ตรงนี้  ประเด็นจริง ๆ  มันอยู่ที่ความขยายของแม่  แม่กิมไล้  ดูแล้วแม่เป็นคนที่ขยันมาก  ไม่ยอมนั่งเฉย ๆ  อย่างเด็ดขาด  มีอยู่ตอนหนึ่งคุณตุ๊กถามว่า  “แม่มีคำพูดอยู่คำหนึ่ง  ที่แม่ต้องพูดเสมอตอนตื่นนอนตอนเช้าว่าอะไร ?)  แม่กิมไล้ตอบว่า  “สู้  สู้  สู้  สู้แล้วรวย”  น่าน...  จริงของแม่กิมไล้เขาหละ...

         และ...  มีอยู่ตอนหนึ่งที่คุณตุ๊กถามว่า  “แล้วแม่มีคติประจำใจอะไรที่ทำให้มาถึงทุกวันนี้”  แม่กิมไล้ตอบว่า  “ต้องมีคามขยัน  ทำงานด้วยสมอง  และสองมือ”  โอย...  นับถือ ๆ

         นี่หละครับ...  สิ่งที่จะบอกเล่าบางช่วงบางตอนที่ได้ดูมา...  ให้ท่านที่กำลังพกแป้งอยู่นั้น  ลองนึกดูดี ๆ  ว่า  ระหว่างกระป๋องแป้งที่เดินหาหวย  กับสมองและมือเรา  คุณจะเลือกอะไร ?

คำสำคัญ (Tags): #สมองและสองมือ
หมายเลขบันทึก: 297905เขียนเมื่อ 15 กันยายน 2009 17:15 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 21:33 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

ไม่มีทางไดที่จะรวยได้นอกจาก "ขยัน ซื่อสัตย์ อดทน"

เป็นกำลังใจให้พี่ ผู้ชาย..(ป้ายเหลือง) ต่อไปนะครับ แจ๋วจริงๆ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท