14-9-52
วันนี้ดิฉันไปเดินที่มสท.คนเดียวเพราะสามีไปต่างจังหวัด ในระหว่างเดินรู้สึกเห็นว่าหลงคิดค่อนข้างบ่อย คิดถึงเรื่องแม่บ้านเราเป็นมะเร็งเต้านม ไม่มีใครดูแม่สามี งานTM ยังประสานไม่เรียบร้อย น้องสาวฝากซื้อยา และเรื่องอื่นๆซึ่งไม่ควรคิดก็รู้ว่าหลงไปคิด ตั้งใจจะไหว้รูปร.7 ก็ลืม คิดถึงอนาคตว่าครั้งต่อไปจะอยู่วัดจะถามหลวงพ่อเรื่องทำไมเราขี้แย ฟังเรื่องอะไรก็ร้องไห้ทั้งๆที่ไม่อยากร้อง ( คนไข้มาเล่าเรื่องดีๆที่ทำ ดิฉันก็ซึ้งใจ น้ำตาคลอ คิดว่าเราเป็นอะไรไป ) ในเวลา30นาทีพบว่าหลงคิดเยอะมาก หลวงพ่อเคยบอกว่ารู้ว่าหลงบ่อยดีแต่เราไม่แน่ใจ
มาถึงที่ทำงานพบว่างานยังไม่ไปถึงใหนก็มาตามงาน จิตหงุดหงิดก็รู้ หลังจากตามงานเพื่อนเก่าสมัยนักเรียนแพทย์ e-mail มาก็รีบตอบทันทีด้วยความดีใจและเธอก็ตอบกลับ จิตใจรู้สึกดีใจที่ได้รับข่าวจากเพื่อนเก่า
ช่วงสายๆคุณหมอนงนุชน้องสามีโทรมาบอกเรื่องหาเด็กพม่ามาอยู่เป็นเพื่อนดูแลแม่สามี จิตเรารู้สึกหงุดหงิดทั้งๆที่พยายามคิดว่าเป็นเหตุการณ์ที่ช่วยไม่ได้ที่เด็กที่ดูแลมีอาการของมะเร็งเต้านม ใจเราทั้งๆที่รู้ว่าเรายินดีดูแลเด็กและแม่สามีให้ แต่ใจมันอยากให้คนอื่นรู้ว่าเราเป็นคนเสียสละมากๆนะ
สายอีกหน่อยสามีโทรมาทวงกุญแจรถเพราะดิฉันเผลอเอาติดตัวมา จิตมันรำคาญที่เราไม่น่าลืม ช่วงเที่ยงจึงขับรถเอาไปให้และรีบกลับมาที่ทำงาน
ก่อนกลับก็คลายเครียดโดยการทานอาหารที่ชอบ จิดมีความสุขที่ได้อาหารที่ถูกใจที่ร้านไก่ตะกร้าคนเดียว
บ่ายจัดมากโทรหาหมอสุวิภา บุญยะโหตระ ชวนไปโรงพยาบาลโรคตาของหมอสวย คุณหมออัณณาแนะนำหมอสวยให้นิมนต์พระมาเทศน์ หลวงพ่อปราโมทย์ไม่ว่างก็เชิญพระองค์อื่น น้องคุณหมอสวัสดิ์ สามีหมอสวยปฏิบัติธรรม คุณหมอสวยฟังเทปหลวงพ่อปราโมทย์ทำให้อยากชวนเพื่อนๆมาคุยธรรมะ
ดิฉันเล่าว่าเจอหมอเกรียงศักดิ์ ปานใหม่ที่บ้านอารีย์ และลูกชายบินมาจากอเมริกามาที่สวนสันติธรรม คุณหมอดีใจที่มีเพื่อนเราสนใจการเรียนรู้ตนเองกันมากขึ้น ช่วงที่คุยกับหมอสุวิภาก็หัวเราะด้วยความดีใจที่มีคนสนใจคำสอนและมีครูคนเดียวกับเราเพราะเราเป็นนักเรียนแพทย์รุ่นเดียวกัน
ระหว่างนั่งรถไปมาดิฉันฟังเทปหลวงพ่อ ท่านสอนว่าให้เราดูจิตและเห็นความไม่เที่ยงของจิตในแต่ละวัน เดี๋ยวสุข เดี๋ยวทุกข์ ตามเหตุและปัจจัยซึ่งในวันนี้ดิฉันรู้สึกถึงความสุขสลับกับความทุกข์ เห็นถึงความไม่เป็นกลางของจิตที่ไปให้ค่าของสิ่งที่เห็น
สวัสดีค่ะอ.พ.ญ. อัจฉรา เชาวะวณิช
อ่านบันทึกการดูและติดตามจิตที่มีคุณค่าของอาจารย์ค่ะ
ได้คิดว่าคนไม่มีรากต้องหันมาดูจิต ตามจิตบ้าง เพราะวันทั้งวันไม่เคยหยุดพิจารณาเลย ว่าเราพบเห็น รู้สึกกับเรื่องอะไรบ้าง โดนเหวี่ยง ซัดซ่ายไปตามบุญตามกรรมเลยค่ะ
คนไม่มีรากอ่านจากหนังสือและฟังซีดีของดร.สนอง วรอุไร ท่านตอบคนที่ถามถึงเรื่อง การตามดูจิต ท่านบอกว่า หากเมื่อไหร่ที่เรารู้ตัวว่า ... นี่เรากำลังหลง กำลังโลภ กำลังโกรธ ... นะ ก็นับได้ว่าเป็น มหากุศลและมหาสติแล้วค่ะ
ขอบคุณค่ะ
(^___^)
ขอบคุณ คนไม่มีรากที่มาเยี่ยมค่ะ หมอมีโอกาสก็ไปเยี่ยมบ้างแต่ไปรับงานมากไปทำให้มีเวลาน้อยอาจไปเยี่ยมไม่บ่อยนะคะ
เขียนเรื่องดูจิตจะไม่กล้าเขียนบ่อยเพราะคนเข้าใจน้อย
อ่านแล้วคิดว่ายายนี่กิเลสหนาจังเห็นแต่กิเลสทั้งวันซึ่งความจริงเรามีแต่ไม่เห็น เวลารู้ว่าจิตหลงคิดหรือรู้ว่ามีกิเลสจะเป็นเวลาที่เรามีสติซึ่งเป็นกุศลจิตทำให้มีบุญมาก( ไม่ได้เปิดตำราไม่แน่ใจว่าตัวเองอธิบายถูกหรือเปล่า )
หมอดูจิตบ้างกายบ้างแล้วแต่สติจะรู้อะไรเพราะสติบังคับให้เกิดไม่ได้ บางวันหลงตลอดวันค่ะ
ยินดีที่มีคนคล้ายๆเราเข้ามาพูดคุยทำให้เพลิดเพลินและมีกำลังใจ
แต่หลวงพ่อเตือนให้หมั่นรู้ตัวเพราะพูดมากคุยมากคิดมากมักจะจิตฟุ้งซ่านค่ะ
แวะกลับมาอีกครั้งค่ะ
อาจารย์ไม่ต้องกังวลที่จะต้องไปเยี่ยมคนไม่มีรากเลยค่ะ
ความจริงอ่านบันทึกของอาจารย์มานานแล้วค่ะ แต่ไม่มีความรู้ ภูมิธรรมพอที่จะคอมเม้นท์ได้ เนื่องจากเพิ่งเริ่มฝึกปฏิบัติค่ะ
อ่านแล้วยิ้ม ๆ เพราะมีรุ่นพี่ซึ่งใจร้อนมาก ๆ เพียรพยายามไปปฏิบัติธรรมและมีปิติจากการปฏิบัติธรรม จึงกลับมาเล่าให้ฟัง คนไม่มีรากก็นั่งฟังอย่างมีความสุข มีพี่อีกคนหนึ่งเดินผ่านมา ก็แซวว่า...อะไรกัน ขนาดไปปฏิบัติธรรมยังขนาดนี้ หากไม่ไปจะขนาดไหน...วงแตกเลยค่ะ เพราะพี่ที่โดนว่า...โมโหและโกรธมาก ว่าตอบเป็นชุดเลย...
ภายหลังก็เสียใจ และปรารภว่า...พี่คงแย่จริง ๆ แหละ ดูสิ เผลอหน่อยเดียว โดนโทสะเล่นงานเสียแล้ว...จึงปลอบพี่เขาไปว่า ...
ก็เพราะเรารู้ว่าเรายังไม่ดีพอ ยังมีกิเลสน่ะสิ เราจึงไปปฏิบัติธรรม อย่างน้อยเราก็รู้ตัวเร็วขึ้น แต่สำหรับบางคน...อาจไม่เคยรู้ตัวเลย...ก็ได้...
และที่อาจารย์กล่าวว่า...หลวงพ่อเตือนให้หมั่นรู้ตัวเพราะพูดมากคุยมากคิดมากมักจะจิตฟุ้งซ่านค่ะ
ตรงกับที่คนไม่มีรากไปเข้ากรรมฐานฝึกจิตที่ยุวพุทธิกสมาคม โครงการพัฒนาจิตและปัญญาของคุณแม่สิริ กรินชัยเลยค่ะ วิปัสสนาจารย์บอกว่า การพูด ทำให้กรรมฐานรั่วได้ง่ายที่สุด และจากประสบการณ์ในการฝึกครั้งนั้น พบว่า จริงค่ะ วันที่ 8 ของกรรมฐาน เขาอนุญาตให้พูดได้ คราวนี้คุยกันเสียงดัง วุ่นวายมาก ความสงบหมดไปเลยค่ะ
รักษาสุขภาพด้วยนะคะ
(^___^)
แวะมาเยี่ยมเยียน อาจารย์หมอครับ
ผมคงได้มีโอกาสเจอ ครูบาอาจารย์ ในวันที่ 1 ต.ค. นี้แล้วครับ
รู้สึกดีใจ และตื่นเต้น
หากวันนั้นมีบุญวาสนา คงได้มีโอกาสขอการบ้านจากหลวงพ่อบ้างครับ
ยินดีที่คุณซวงมาเยี่ยมค่ะ
ทำการบ้านแล้วมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้บ้างนะคะ