วันที่ 11-12 กันยายน 2552 สภาการศึกษาจัดประชุมเชิงนโยบายเพื่อระดมความคิด การพัฒนาการศึกษาทั้งระบบเพื่อพัฒนาคุณภาพเด็กและเยาวชนไทย ณ ห้องนภาลัย บอลรูม โรงแรมดุสิตธานี หัวหิน จังหวัดเพชรบุรี บรรยากาศการประชุมเป้นไปแบบกัลยาณมิตร เป็นกันเอง ปลายเปิดที่มีขอบเขต การเสนอข้อคิดแนวทางหลากหลาย ข้อมูลแน่น น่าสนใจมาก หากจะบอกว่า " ตั้งแต่เป็นข้าราชการมาได้เห็นการประชุมแบบสบายๆ ในชุดทั้งกระทรวงก็คราวนี้ แปลว่า "ที่ประชุมมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานการประชุม / ปลัดกระทรวง/ เลขาธิการของทั้ง 5 สำนักในกระทรวงฯ /ผู้ตรวจราชการ/รองเลขาธิการ /ผู้แทนผู้อำนวยการสำนัก/ผู้แทนที่ปรึกษา / ผู้แทนผู้อำนวยการโรงเรียน ....รวมประมาณ 100 คน โดยมีรมต.ว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ เป็นประธานการประชุม และมีเลขาธิการสภาการศึกษา เป็นกองเลขานุการฯ ประธานรองฯมาจากผู้แทน กพฐ. ต้องบอกว่ามิติใหม่ แห่งการจัดเก็บความคิดจากทั้งต้น แถมเริ่มต้นการประชุมด้วยคำถาม .... 6 คำถาม เพื่อหาผลปรากฏจากที่ประชุม คำถามมีว่า......
1) การเรียนการสอนในปัจจุบัน สอนเด็กให้คิดวิเคราะห์หรือไม่? หลักสูตรการเรียนการสอนเป็นอย่างไร?
2) การออกข้อสอบในปัจจุบัน O-net , GAT ,PAT สอดคล้องกับการเรียนการสอนหรือไม่?
3) เด็กเรียนในห้องเรียนมากไปหรือไม่? และการเรียนนอกห้องเรียนควรทำอย่างไร?
4) ระบบการคัดเลือกเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา /GAT/PAT เหมาะสม
หรือยัง สอดคล้องกับสิ่งที่ควรจะเป็นหรือยัง ? (ลดอัตราการออกกลางคัน)
5) สถาบันอุดมศึกษาผลิตบัณฑิตมีคุณภาพตามความต้องการของประเทศหรือยัง?
6) ระบบการวัดผล ประเมินผลในทุกมิติ เป็นระบบหรือกระบวนการที่เที่ยงตรง แม่นยำ เหมาะสมหรือไม่?
ที่ประชุมประกอบด้วยผู้แทน สพฐ. สกศ. สมศ. สกอ. กศน. สอศ.สทศ. สช.และผู้แทนภาคเอกชน ซึ่งช่วงแรกเป็นการนำเสนอสถานการณ์ปัจจุบัน และปัญหา จึงมีการอภิปรายประเด็นหลัก เพื่อหาเส้นทางเดินสู่คำตอบแห่งคำถาม 6 ข้อ 6 ประเด็น ในการพัฒนาเร่งด่วนและระยะต่อไป
ตลอดการประชุม ประธานการประชุมไม่ไปไหนเลย นั่งฟัง บันทึก ถามเมื่อไม่แน่ใจหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติม และก็สรุปความเข้าใจเป็นระยะๆ และใครจะพูดเสนอแนวทางและความคิด ก็ใช้วิธีเขียนชื่อส่งไปลงทะเบียนไว้ ประธานรองจัดลำดับการพูดเสนอความคิด ต่อเนื่องหลักการรับทราบสถานการณ์ของแต่ละประเด็นหลัก แต่ละคนใช้เวลาประมาณ 5-10 นาที ต้องบอกว่าบรรยากาศดีมาก เปลี่ยนแปลงการจัดเก็บข้อคิดในอีกรูปแบบ krusiriwanลงทะเบียนไว้กับเขาด้วย และได้รับความสนใจโดย ประธานฯบันทึกไว้ 2 รายการ คือ เรื่อง การเก็บข้อมูล ณ ฐานห้องเรียน โดยการศึกษาห้องเรียน และวิเคราะห์กระบวนการสอน ของครูรายคนในโรงเรียน การพัฒนาครูด้านการไต่คำถามเพื่อออกแบบสอนการคิดวิเคราะห์ การประชุมครังนี้ ผู้แทนจากนอกวงการศึกษา มองมาที่ " คุณภาพของนักเรียนในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ด้านความสามารถในการคิด ยังไม่ได้ " ถามต่อว่า " ความสามารถในการคิด " เป็นเช่นไร? รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ( นายจุรินทร์ ลักษณะวิศิษฎ์) สรุปไว้ว่า เป้นความสามารถในการคิดวิเคราะห์ การคิดสังเคราะห์ การคิดอย่างสร้างสรรค์ การคิดอย่างมีวิจารณญาณ และการคิดที่เป็นระบบ
การประชุมวันแรกตั้งแต่ 09.00น.จนกระทั่งถึง 21.00 น. (พักรับประทานอาหารกลางวันและเย็น ช่วงละ 1 ชั่วโมง) วันที่สอง ดำเนินการประชุม 08.30-12.30น. นับว่า " เป็นเวทีสู่โจทย์ที่ละเอียดยิ่งกว่าคำถามประเด็นหลักที่ รมต.กระทรวงศึกษาธิการ( นายจุรินทร์ ลักษณะวิศิษฎ์) เปิดไว้ก่อนเมื่อเริ่มประชุม
บทสรุป ....รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ( นายจุรินทร์ ลักษณะวิศิษฎ์)ประมวลโจทย์ที่ละเอียด จากเวทีสุนทรียะเสวนา เพิ่มจากคำถามหลักมากมาย หลายประเด็น เช่น
1) การสอบ GAT & PAT ต่ำเพราะอะไร? สอบ GAT ในชั้นม.3 ด้วยดีไหม?ทำไม? ควรสอบ GAT&PAT กี่ครั้ง? และจำเป้นต้องสอบโดยใช้เกณฑ์ 50% หรือไม่ เป็นต้น
2) ระบบการสอบ Addmission สัดส่วนของ Gpax หากต้องลดลงจะเหมาะสมหรือกระทบเรื่องความสนใจห้องเรียนของนักเรียนหรือไม่? ระบบการรับตรงของมหาวิทยาลัยควรออกมาในรูปแบบใดบ้าง ?นำความดีมาประกอบการคัดสรรโควต้าตรงจะเป็นอย่างไร?
3) ระบบการแนะแนวควรพัฒนาอย่างไร?
4) PAT ของผู้เข้าเรียนครูตรงประเด็นหรือไม่?
5) การผลิตบัณฑิตของมหาวิทยาลัยตรงตาม ความต้องการของประเทศหรือยัง?
6) การเรียนฝึกทักษะในสถานประกอบการของอาชีวศึกษาและมหาวิทยาลัย ควรเป็นอย่างไร? ใช้เวลามากน้อยเพียงใด?
7) สัดส่วนการเรียนสายอาชีพ และสายสามัญทำอย่างไร?ในปี 2554 จะอยู่ที่สัดส่วน 50:50
8) อาชีวศึกษานำเรื่อง TQF และ TBQ ที่เน้นสมรรถนะเป็นฐานเข้ามาใช้ ควรได้กำหนดมาตรฐานโดยเร็ว
9) ทำอย่างไร?จะได้ คนดี คนเก่ง มาเป็นครู ....มีทุน ประกันงาน / ประกันงาน ไม่มีทุน ....นำมาใช้ได้หรือไม่?
ทุกประเด็นที่ประชุม โจทย์ที่ได้ถูกมอบหมายเป็นการบ้านให้สภาการศึกษา จัดกลุ่ม ส่งยังผู้ประชุมเกี่ยวข้องและให้เวลา 1 เดือน ประมวลคำตอบ/แนวทาง พบกันอีกครั้งภายใต้เงื่อนไขที่ว่า " คนเดิม ชื่อเดิม หน้าเดิม...สังกัดเดิม....มาประชุมอีกครั้งในเดือนตุลาคม 2552 เมื่อครบ 1 เดือน "
นี่คือ...บรรยากาศการประชุมเพื่อระดมความคิดการพัฒนาการศึกษาทั้งระบบวันนี้ ที่ ห้งนภาลัย บอลรูม โรงแรมดุสิตธานี หัวหิน.......
ได้อะไร....จากการเล่า ....ไม่รู้เหมือนกัน แต่ได้นะ...ได้จริงๆกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ....ที่สำคัญใครคิดอย่างไร? เสนอความคิดฝากได้เลย ในประเด็นหลักและโจทย์ละเอียด ทุกรายการ
ครูมัธยมไม่มีความสามารถในการออกข้อสอบ แล้วคนที่มีความสามารถออกข้อสอบได้ดี ทำไมถึงมีปัญหารุงรังตามมาให้คนอื่นเขาแก้ล่ะ บริบทของแหล่งเรียนรู้ และสภาพความเป็นอยู่ของนักเรียนที่แตกต่างกัน จะให้ได้ผลผลิตออกมาเท่ากัน ย่อมเป็นไปได้ยาก
อย่าโทษแต่ครูอย่างเดียว แล้วระบบต่างๆที่คิดกันขึ้นมา ก็มาจากคนเก่งๆกันทั้งนั้นมิใช่หรือ ใครเรียนผูกก็ต้องเรียนแก้ อย่าให้มาเดือดร้อนครูเขาอีกเลย เขาดูแลตัวเองให้รอดจากวิบากกรรมความคิดของพณฯท่านทั้งหลายอยู่ทุกวันนี้ก็บุญแล้ว
ขอบคุณมาก คุณอนงค์ ที่ให้มุมมอง อยากได้ข้อเสนอแนะในการปรับกระบวนการทั้งระบบการศึกษา ในแง่ของครูผู้สอนบ้างจังเลย
เด็กไทยในยุคปัจจุบันควรได้รับการแลกปลี่ยนเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ที่เป็นประโยชน์ สามารถนำไปพัฒนาตน พัฒนาสังคม เพื่ออนาคตของชาติได้ โดยเฉพาะระบบการศึกษาไทย ทุกวันนี้ก็ถือว่าจัดดีอยู่แล้ว แต่ปัจจัยหลักที่สำคัญที่สุดก็คือครู ครูต้องมีการพัฒนาตนเอง และพัฒนาทุก ๆ ด้าน เพื่อให้ได้มาซึ่งความเจริญรุ่งเรืองของชาติบ้านเมืองต่อไป และขอเป็นกำลังใจให้ท่าน ผอ. ที่เป็นตัวแทนเข้าร่วมเวทีสุนทรียะเสวนาเพื่อระดมความคิดการพัฒนาการศึกษาทั้งระบบวันนี้ให้เจริญก้าวหน้าต่อไป