ประชาธิปไตยเบ่งบาน
ขึ้นหัวจั่วไว้ว่าประชาธิปไตยเบ่งบาน ไม่ใช่อะไรหรอกนะ เห็นช่วงนี้มีการเลือกตั้งระดับท้องถิ่น ระดับจังหวัดขึ้นมาหลายจังหวัด ไหนจะสส.สอบซ้อม ไหนจากอบต. อบจ. ที่มีการประชาสัมพันธ์กันด้วยข่าวรายวัน
" ยิงเผาขน อบต......... " "เป่าหัวคะแนน อบต.ดับ" หรือพาดหัวข่าวต่างๆ ที่เป็นเรื่องการเมืองท้องถิ่นที่อยู่ได้ด้วยบารมี นี่ขนาดการเมืองท้องถิ่นนะ ไม่ต้องพูดถึงการเมืองระดับอื่นๆ ถามว่ามีไหมที่ไม่ใช้กฏหมู่ มีแต่...คงน้อยนะ เพราะคนทุกวันนี้ถืออำนาจบาตรใหญ่ แก่งแย่งชิงดี ชิงเด่นกันอยู่แบบเห็นแก่ตัว พวกพ้องลากกันไปเป็นใหญ่ ใครไม่มีเส้นก็ไม่ต้องเกิด เป็นเช่นนี้มาตลอดใช่ไหม... น้อยคนนักที่ต่อสู้ด้วยลำแข้งจนเป็นใหญ่ได้ ทุกวันนี้มีสื่อมวลชน มีข่าวสาร มีรายการโทรทัศน์บอกกล่าวเล่าเรื่องคนเสื้อเหลือง เสื้อแดง เสื้อสีน้ำเงิน ที่แบ่งพรรคแบ่งพวกให้ชาวเราฟังหูไว้หู ไตร่ตรอง อะไรจริงอะไรเท็จ คิดกันเอาเอง ผู้ใหญ่ทะเลาะวิวาทกันในสภา ดูแล้วไม่เป็นแบบอย่างที่ดีแก่คนทั่วไป เพราะคนที่มีการศึกษาควรพูดกันด้วยเหตุผลมากกว่าอารมณ์ อย่าไปเอาแบบอย่างสภาชาติอื่นที่ทั้งตบตีชกต่อยกันเลย มันดูแล้วเหมือนเป็นสภานักเลงเสื้อนอกมากกว่าสภาที่ทรงเกียรติ
มาเล่าถึงสภากรรมการนักเรียนโรงเรียนบ้านกร่างวิทยาคมดีกว่า พี่ๆ ม.5 ได้รับเลือกตั้งเป็นสภาคณะกรรมการนักเรียนอย่างเป็นประชาธิปไตย ด้วยคะแนนเสียงท่วมท้นของนักเรียนทั้งโรงเรียนเรียกว่าชนะขาดลอย จากนโยบายของพี่ที่ให้ไว้กับน้องๆและเพื่อนๆพี่ คณะกรรมการสภานักเรียนได้ดำเนินกิจกรรมในโรงเรียนแบบประชาธิปไตย มีการสร้างกล่มนักเรียนที่มีจิตอาสาเป็นตำรวจโรงเรียน ดำเนินกิจกรรมจับปรับนักเรียนที่กระทำความผิดกฏระเบียบของโรงเรียนไม่ว่าจะเป็นทิ้งขยะ ลืมปิดพัดลม ไม่ทำเวร แต่งกายผิดระเบียบ ฯลฯ โดยมีการร่างกฏระเบียบกันในหมู่หัวหน้าชั้นแต่ละห้องเรียน เพื่อร่วมกันจัดระเบียบความรับผิดชอบ คุณธรรม ความเป็นผู้นำ ผู้ตามที่ดี ตลอดจนสร้างสมาชิกที่มีจิตอาสาร่วมกันในการพัฒนาโรงเรียน จนเป็นผลให้คณะสภากรรมการนักเรียนโรงเรียนบ้านกร่างได้รับรางวัลชนะเลิศระดับยอดเยี่ยมการประกวดโครงงานคุณธรรมฉลิมพระเกียรติปี 52 ของเขตการศึกษาพิษณุโลก เขต 1 ในหัวข้อโครงงานคุณธรรมนำการเมือง ได้รับเกียรติบัตรและเงินรางวัล 5,000 บาท เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2552 นี้ ขอปรบมือให้กับความตั้งใจและความมุ่งมั่นของเด็กๆที่มีหัวใจรักประชาธิปไตยในโรงเรียน ที่ร่วมกันสร้างประชาธิปไตยที่ทุกคนมีสิทธิ์และเสียงร่วมกันเสนอความคิดและนโยบายร่วมกัน หากมีเด็กๆที่มีพิ้นฐานคุณธรรมความดีงามเหล่านี้ทุกท้องที่ ทุกโรงเรียน ทุกจังหวัด อีกไม่นานเราคงจะมีนักการเมืองระดับท้องถิ่น ระดับจังหวัด ที่มีคุณภาพเพิ่มขึ้น คงไม่มีนักการเมือง หรือรัฐมนตรียี้เข้าไปบริหารประเทศแน่นอน.
ทุกสังคมต้องมีประชาธิไตย
ต้องอยู่ร่วมกันโดยสันติ
โลกเราใบนี้ยังมีสังคมที่ไม่เป็นประชาธิปไตยอีกมาก เราเกิดมาโชคดีแค่ไหนแล้วที่เกิดมาเป็นคนไทย จะกิน จะเดิน จะนอน จะนั่ง จะทำอะไรที่ไม่ผิดระบบระเบียบ สังคมกำหนด(ของเราเช่น ขนบธรรมเนียมประเพณี กฏหมาย) ก็ถือว่าคุณทำได้ ผิดกับสังคมที่ผู้นำเผด็จการประชาชนชาวบ้านต้องทำตามผู้นำเท่านั้น ไม่มีอิสระเสรีเช่นบ้านเรา ที่มีมากจนกลายเป็นปัญหาสังคมเพราะกฏหมายเราชราภาพ (เมืองพุทธทำอะไรรุนแรงไม่ได้)คนทำผิดติดคุกไม่กี่ปีก็ออกมาทำผิดอีกซ้ำซาก สร้างปัญหาให้สังคมต่อไป