ตามที่รัฐบาลได้กำหนดการแก้ไขปัญหาความยากจนเป็นปัญหาเร่งด่วนที่ต้องรวมพลังทุกภาคส่วนในสังคมทั้งหน่วยงานภาครัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชน องค์กรพัฒนาเอกชน และภาคประชาชนมาร่วมบูรณาการแก้ไขปัญหาร่วมกัน โดยกำหนดเป็นยุทธศาสตร์สำคัญที่จะขจัดความยากจนให้หมดสิ้นไปภายในปี พ.ศ.๒๕๕๑ โดยนำปรัชญาพระราชทาน “เศรษฐกิจพอเพียง” เป็นแนวทางหลักในการดำเนินงานภายใต้หลักการลดรายจ่าย สร้างรายได้ ขยายโอกาส ให้แก่ประชาชนบนพื้นฐานความสมดุลทั้งทางเศรษฐกิจและสังคม
กระทรวงมหาดไทยพิจารณาให้ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นซึ่งเป็นหน่วยงานสำคัญที่จะทำให้การแก้ปัญหาความยากจนประสบความสำเร็จได้โดยเร็ว จึงมีแนวทางให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นพิจารณาดำเนินการ
๑.
หลักการดำเนินการ
การแก้ปัญหาความยากจนเป็นภารกิจที่สำคัญของชาติ โดยมี ศตจ. ,ศตจ.จ. และ ศตจ.อ./กิ่ง อ. เป็น
องค์กรรับผิดชอบการปฏิบัติงานในแต่ละระดับ และมีผู้ว่าฯ นายอำเภอ ปลัดอำเภอผู้เป็นหัวหน้ากิ่งอำเภอ รับผิดชอบการดำเนินงานในระดับจังหวัด อำเภอ และกิ่งอำเภอตามลำดับ ขอให้พิจารณาให้ความร่วมมือ ดังนี้
๑.๑ กรณีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดำเนินการเอง มีหลักการดังนี้
(๑) นำข้อมูลผู้จดทะเบียนปัญหาความยากจนของศูนย์อำนวยการหรือ ศตจ.จ. อำเภอ/กิ่งอำเภอ มาจัดทำเป็นฐานข้อมูลของ อปท. เพื่อกำหนดบุคคล/ครัวเรือนเป้าหมายใฝนการแก้ไขปัญหา โดยประสานกับจังหวัดและอำเภอ เพื่อให้การแก้ไขปัยหามีความสอดคล้องกัน
(๒) จัดทำแผนพัฒนาท้องถิ่นและจัดทำงบประมาณให้สอดคล้องกับแผนพัฒนาท้องถิ่น
(๓) เมื่อ อปทงมีแผนการดำเนินการแล้วรวบรวมส่งให้ จังหวัด อำเภอ/กิ่งอำเภอ
๑.๒ กรณีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นหน่วยงานสนับสนุน มีหลักการดำเนินการดังนี้
(๑) ให้การสนับสนุนหรือร่วมดำเนินการกับศูนย์อำนวยการหรือ ศตจ.จ. ศตจ.อ./กิ่งอ.
(๒) สนับสนุนหรือร่วมมือกับหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ ที่ดำเนินการแก้ปัญหาความ
ยากจนในพื้นที่
(๓) สนับสนุนหรือร่วมดำเนินการกับ ศตจ.ปชช. องค์กรประชาชน องค์กรพัฒนาเอกชน
๒.
แนวทางและวิธีการดำเนินงาน
๒.๑ ด้านการพัฒนาและแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ
(๑) ด้านการลดรายจ่าย ระดับบุคคลและครัวเรือน ส่งเสริมให้ประชาชนดำรงอยู่อย่างพอเพียงทำเกษตรทฤษฎีใหม่ขั้นที่ ๑ ให้ใช้ปุ๋ยอินทรีย์ และส่งเสริมให้เด็กเล็ก เข้ารับการดูแลในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก เป็นต้น ระดับชุมชน ส่งเสริมการจัดแหล่งน้ำเพื่อการเกษตร ส่งเสริมให้กลุ่มเกษตรกรดำเนินกิจกรรมจัดตั้งโรงปุ๋ยอินทรีย์ ส่งเสริมการรวมกลุ่มเพื่อการผลิตสินค้าที่จำเป็น เป็นต้น
(๒) การเพิ่มรายได้ ส่งเสริมให้รายได้เพิ่มขึ้นโดยการประกอบอาชีพ ระดับบุคคลและครัวเรือน จัดการฝึกอบรมความรู้วิชาชีพตามความต้องการที่สอดคล้อง จัดหาเครื่องมือในการประกอบอาชีพ ให้ประชาชนรับงานจากสถานประกอบการมาทำที่บ้าน โดย อปท.ประสานขอความร่วมมือจากโรงงานอุตสาหกรรม เป็นต้น ระดับชุมชน ส่งเสริมกลุ่มอาชีพที่มีการผลิตเกื้อกูลกัน รวมกลุ่มอาชีพที่ตอบสนองความต้องการของตลาดในท้องถิ่น ส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน เช่นการจัดตั้งดรงสีชุมชนในพื้นที่ เป็นต้น
(๓) การขยายโอกาส สนับสตนุนกิจกรรมเพื่อให้ประชาชนเข้าถึงปัจจัยในการประกอบอาชีพ เช่น ระดับบุคคลและครัวเรือน มีการแปลงสินทรัพย์เป็นทุน ระดับชุมชน ก็จัดหาที่ดินทำกิน ส่งเสริมให้ภาคเอกชนลงทุนในพื้นที่ที่มีศักยภาพในการผลิตหรือการจ้างงาน
๒.๒ ด้านการพัฒนาและแก้ไขปัญหาทางสังคม ดำเนินงานเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันที่พร้อมรับผลการเปลี่ยนแปลงทางด้านต่าง ๆ รวมทั้งการสร้างความมั่นคงในการดำรงชีวิต เช่น รณรงค์ให้ประชาชนลด ละเลิก อบายมุข การแก้ปัยหายาเสพติด จัดหาที่อยู่อาศัยให้แก่ประชาชน ซ่อมแซมที่อยู่อาศัยให้กับผู้มีรายได้น้อย ผู้พิการ จัดหาอุปกรณ์ดำรงชีพสำหรับผู้พิการ เช่น รถเข็น ไม้ค้ำ หรือเครื่องมือในการประกอบอาชีพ การสงเคราะหืเบี้ยยังชีพ เป้นต้น
๓.
ระยะเวลาดำเนินการ
๓.๑ ปี ๒๕๔๙ เป็นระยะเร่งด่วนและเป็นช่วงมหามงคลเฉลิมฉลองสิริราชสมบัติครบ ๖๐ ปี
๓.๒ ปี ๒๕๕๐-๒๕๕๑ ระยะสร้างความมั่นคงยั่งยืน
๔.
การนำแผนสู่การปฏิบัติ
ให้ อปท.กำหนดยุทธศษสตร์การแก้ไขปัยหาความยากจนไว้ในแผนพัฒนาท้องถิ่น เพื่อนำไปสู่
กระบวนการจัดทำงบประมาณ
๕.
งบประมาณการดำเนินการ
๕.๑ พิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี หรืองบรายจ่ายเพิ่มเติม
๕.๒ ให้พิจารณา โอน แก้ไข เปลี่ยนแปลงรายจ่ายประจำปี ๒๕๔๙ รายการที่ยังไม่มีความจำเป็นต้องใช้
๕.๓ อปท.อาจใช้จ่ายจากเงินสะสม เพื่อสนับสนุนการบริการชุมชนและสังคม
๖. การติดตามและรายงานผล ให้จังหวัดติดตามและให้คำแนะนำ
ไม่มีความเห็น