ศูนย์ข่าวพลเมือง ฅนคอน
นาย ทรงวุฒิ พัฒแก้ว ศูนย์ข่าวพลเมือง ฅนคอน พัฒแก้ว

เปิดศึกรบเรือประมงคราดหอยลายกลางทะเลอ่าวไทยดึก-ปิดอ่าวกลางดึกไล่ล่าระทึกจับกุม


ในแต่ละคืนจะมีเรือประมงคราดหอยเข้ามาคราดหอยในพื้นที่ 50-60 ลำ ในบางคืนมากถึง 100 ลำ แต่ในช่วงนี้อยู่ในช่วงการปิดอ่าว 3 เดือน เพื่อให้สัตว์น้ำวางไข่เพาะขยายพันธุ์จึงมีเรือคราดหอยลักลอบเข้ามาแค่ประมาณกว่า 20 ลำ โดยปัญหานี้นับเป็นปัญหาใหญ่ที่หน่วยงานทางราชการเองก็ไม่สามารถควบคุมหรือป้องกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ชาวประมงได้รวมตัวประท้วงและร้องเรียนกับทางราชการหลายครั้งแต่ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้

นายอำเภอ,นายก อบต.กำนัน ผู้ใหญ่บ้านพร้อมกำลังชาวบ้านกว่า 100 คนเปิดศึกรบเรือประมงคราดหอยลายกลางทะเลอ่าวไทยดึก-ปิดอ่าวกลางดึกไล่ล่าระทึกจับกุมได้ 7 ลำไต้ก๋ง 6 คนพร้อมแรงงานต่างด่าวผิดกฎหมายอีก 62 คน–รวมผู้ต้องหา 78 คน

ข่าวโดย : นครโพส
วันที่ประกาศข่าว : 20 มีนาคม 2552 12:40:43
แก้ไขข้อมูลล่าสุด : 20 มีนาคม 2552 12:40:43
วันที่เริ่มต้น : 20 มีนาคม 2552
วันที่สิ้นสุด : 31 มีนาคม 2552

ที่มา http://nbttv.prd.go.th/Nakhonsithammarat/showlocalnews.php?id=0000635

นายอำเภอ,นายก อบต.กำนัน ผู้ใหญ่บ้านพร้อมกำลังชาวบ้านกว่า 100 คนเปิดศึกรบเรือประมงคราดหอยลายกลางทะเลอ่าวไทยดึก-ปิดอ่าวกลางดึกไล่ล่าระทึกจับกุมได้ 7 ลำไต้ก๋ง 6 คนพร้อมแรงงานต่างด่าวผิดกฎหมายอีก 62 คน–รวมผู้ต้องหา 78 คน 
      เมื่อเวลา 02.30 น.วันที่ 20 มี.ค. 2552 ได้มีประชาชนกลุ่มชาวประมงพื้นบ้าน อ.ท่าศาลา กว่า 50 คน เดินทางมาร้องเรียนกับนายอภินันท์ เชาวลิต นายก อบต.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ว่ามีเรือประมงคราดหอยจำนวนประมาณ 20 ลำ ได้แอบเข้ามาทำการประมงคราดหอยลายในพื้นที่อ่าวท่าศาลา ในเขตหวงห้าม 3,000 เมตร และใช้ตะแกรงเหล็กยักษ์ตาถี่เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด และยังทำการประมงในช่วงที่ทางราชการมีคำสั่งปิดอ่าวเพื่อเปิดโอกาสให้ได้มีการเพาะขยายพันธุ์ของสัตว์น้ำ  สร้างความเสียหายให้กับทรัพยากรชายฝั่งเป็นอย่างมาก 
      หลังจากได้รับแจ้งนายอภินีนท์ จึงประสานขอความช่วยเหลือไปยังนายโอภาส ยิ่งเจริญ นายอำเภอท่าศาลา  และกองเรือตรวจการณ์ประมงชายฝั่งจังหวัดสงขลา  ซึ่งในเรือตรวจการณ์ประมงชายฝั่งหมายเลข 651 มาประจำการณ์อยู่ในพื้นที่ อ.สิชล  จากนั้นจึงระดมกำลังฝ่ายปกครอง  เจ้าหน้าที่  อส. เจ้าหน้าที่ประมง กำนันผู้ใหญ่บ้าน นายก อบจ. สอบต.และชาวประมง รวมกว่า 100 คน พร้อมอาวุธครบมือ นำเรือตรวจการณ์ เรือประมงเกือบ 50 ลำ เข้าทำการปิดล้อมเรือประมงคราดหอยกลางอ่าวท่าศาลา  ทำให้เรือประมงคราดหอยทั้งหมดต่างพยายามขับเรือหลบหนีการจับกุม โดยมีเรือตรวจการณ์และเรือประมงของชาวบ้านขับไล่ตามจับกุมอย่างกระชันชิด แต่เนื่องจากเรือประมงคราดหอยมีสมรรถนะของเครื่องยนต์สูงกว่าเรือประมงธรรมดาของชาวบ้าน จึงสามารถขับเรือซิ่งฝ่าวงล้อมหลบหนีออกไปกลางทะเลลึก  จนเรือประมงของชาวบ้านไม่สามารถไล่ตามจับกุมได้ทัน 
      อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่และชาวบ้านสามารถไล่ล่าติดตามจับกุมเรือประมงคราดหอยเอาไว้ได้ 7 ลำ ประกอบด้วย 1.เรือประมงโชคบุญฤทธิ์  มีนายอนุวัฒน์  คุ้มทอง อายุ 38 ปี เป็นไต้ก๋งเรือ  2. เรือโชคมีศรี  มีนายพิชัย ถนอมมิตร อายุ 46 ปี เป็นไต้ก๋ง 3.เรือโชคดีทวีสิน มีนายสมศักดิ์ วงศ์เจริญ อายุ  48 ปี 4. เรือนำสุราษฎร์ 29 มีนายคมกฤษ วันดี เป็นไต้เก๋ง  5. เรือโชค  วัชรพล มีนายอนันท์ ไกรวงศ์ อายุ 31 ปี เป็นไต้ก๋งเรือ 6.เรือโชคศุภชาติ 1 มีนายประคอง จันทร์ลัง อายุ 30 ปี เป็นไต้ก๋งเรือ  และ 7. เรือโชคศุภชาติ 3 จับได้เฉพาะเรือส่วนไต้ก๋งเรือหลบหนีไปได้  นอกจากนี้ยังพบแรงงานด่างด้าวผิดกฎหมายของเรือประมงคราดหอยรวมทั้งหมด 62 คน  แรงงานคนไทยอีก 10 คน รวมผู้ต้องหาทั้งหมดถึง 78 คน นอกจากนี้ยังพบหอยลายที่คาดได้จากอ่าวท่าศาลารวมหลายพันกิโลกรัม จึงนำเรือประมงของกลางเข้าจอดเทียบท่าที่ท่าเรือซันไรท์ ก่อนจะควบคุมตัวผู้ต้องหาไปบันทึกการจับกุมที่กองร้อย อส.อ.ท่าศาลา พร้อมรายงานให้นายภาณุ อุทัยรัตน์ และนำส่ง พ.ต.ท.ประจักษ์หาญทอง สวส.เวร สภ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช สอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป 
  

 

   ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังบันทึกการจับกุมได้มีเจ้าของเรือประมงที่ถูกจับกุมโทรศัพท์เข้ามาหานายโอภาส ยิ่งเจริญ นายอำเภอท่าศาลา และนายอภินันท์ เชาวลิต นายก อบต.ท่าศาลา เพื่อขอเคลียร์ด้วยเงินก้อนใหญ่ ขออย่าให้นำเรือประมงไปเป็นของกลางในคดี แต่นายโอภาส และนายอภินันท์ ไม่ยินยอมและยืนยันว่าจะดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเฉียบขาด ซึ่งในเบื้องต้นจะดำเนินคดีกับไต้ก๋งเรือในข้อหาให้สถานที่พักพิงแก่แรงงานด่างด้าวที่ผิดกฎหมายและรับคนต่างด้าวที่เข้าเมืองโดยผิดกฎหมายเข้าทำงาน รวมทั้งลักลอบทำประมงในเขตพื้นที่หวงห้าม 3,000 เมตร ใช้อุปกรณ์เครื่องมือในการทำประมงที่ผิดกฎหมาย ส่วนแรงงานต่างด้าวจะดำเนินคดีในข้อหาหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายก่อนผลักดินออกนอกราชอาณาจักรต่อไป
      นายอภินันท์ เชาวลิต นายก อบต.ท่าศาลา กล่าวว่าเรือประมงคราดหอยดังกล่าวเป็นเรือจาก จ.สุราษฏร์ธานี จ.สมุทรสาคร สมุทรสงครามและสมุทรปราการ  เข้ามาทำประมงคราดหอยในอ่าวท่าศาลา ซึ่งถือเป็นพื้นที่ที่มีหอยลายชุกชุมและมีคุณภาพดีที่สุดในประเทศไทย รวมทั้งในพื้นที่ใกล้เคียง โดยจะเข้ามาลักลอบคราดหอยเกือบตลอดทั้งปี และจะใช้ตระแกรงเหล็กขนาดใหญ่และตาถี่มาก ๆ  ซึ่งตะแกรงเหล็กจะคราดลึกลงไปในดิน 2-3 เมตรสร้างความเสียหายแก่ระบบนิเวศชายฝั่งรวมทั้งทำลายแหล่งเพาะพันธุ์สัตว์น้ำจนหมดสิ้น จนชาวประมงชายพื้นบ้านชายฝั่งไม่สามารถประกอบอาชีพประมงได้ และไม่สามารถประเมินความสูญเสียในภาพรวมได้ ในขณะที่กลุ่มผู้ประกอบการเรือประมงคราดหอยจะมีรายได้รวมกันต่อปี หลายพันล้านบาท 
      “ในแต่ละคืนจะมีเรือประมงคราดหอยเข้ามาคราดหอยในพื้นที่ 50-60 ลำ ในบางคืนมากถึง 100 ลำ แต่ในช่วงนี้อยู่ในช่วงการปิดอ่าว 3 เดือน เพื่อให้สัตว์น้ำวางไข่เพาะขยายพันธุ์จึงมีเรือคราดหอยลักลอบเข้ามาแค่ประมาณกว่า 20 ลำ โดยปัญหานี้นับเป็นปัญหาใหญ่ที่หน่วยงานทางราชการเองก็ไม่สามารถควบคุมหรือป้องกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ชาวประมงได้รวมตัวประท้วงและร้องเรียนกับทางราชการหลายครั้งแต่ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ จนล่าสุดนายภาณุ อุทัยรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้สังการให้แก้ไขปัญหาโดยการให้ประชาชนเจ้าของพื้นที่เข้ามามีบทบาท มีส่วนร่วมและสนธิกำลังเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในการตรวจสอบเฝ้าระวังและจับกุมดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด จนมีการสนธิกำลังปิดล้อมจับกุมได้ 7 ลำพร้อมผู้ต้องหา 78 คนดังกล่าว “
 นายภาณุ อุทัยรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า ตนต้องขอขอบพระคุณเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายรวมทั้งประชาชนที่ช่วยกันปกป้องดูแลทรัพยากรชายฝั่ง เพื่อลูกหลายจะได้อาศัยทำมาหากินต่อไปอย่างยั่งยืน ซึ่งตนจะติดต่อประสานงานไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฏร์ธานี สมุทรสาคร สมุทรสงคราม สมุทรปราการ หรือจังหวัดที่มีเรือประมงคราดหอยเข้ามาลักลอบคราดหอยในพื้นที่ตลอดแนวชายฝั่งนครศรีธรรมราช เพื่อให้ช่วยประกาศแจ้งเตือนผู้ประกอบการประมงในพื้นที่ให้ได้รับทราบมาตรการเด็ดขาดของเจ้าหน้าที่และประชาชนในพื้นที่  หากยังฝ่าฝืนเข้ามาทำประมงโดยผิดกฎหมาย จะต้องถูกตอบโต้จากเจ้าหน้าที่และประชาชนอย่างหนักและจับกุมดำเนินคดีตามกฎหมายเหมือนในครั้งนี้ สำหรับผู้ประกอบการเจ้าของเรือประมงนั้นทางเจ้าหน้าที่จะสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีตามกฎหมายโดยไม่ละเว้นอีกเช่นกัน .


หมายเลขบันทึก: 294378เขียนเมื่อ 4 กันยายน 2009 20:13 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 มิถุนายน 2012 09:37 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

ใครก็ได้ช่วยหน่อย อ่าวติดเขตปากนครไม่เหลือแล้วครับ หน้าดินพินาดแล้วครับ

ชาวประมงที่หากินแบบอื่นๆ อดอยากปากแห้งแล้วครับท่าน

ใครจะชวยไดบาง

กรมประมงทำอะไรได้บางละครับ กินๆนอนๆ อยู่ทำไม ตื่นขึ้นมาเปิดสึกกันดีกว่ามัยครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท