สร้างเชิงเทียน.............หม่วนหลายๆ


สร้างเชิงเทียนในครั้งนี้มีความงามและความสนุกสนาน ของเสียงแคนกับกลอนลำหม่วนๆทำให้ไม่เหนื่อยเลย

เป็นเวลาหลายวันแล้วที่ผมไม่ได้เขียนบล็อก เพราะการเรียนและการงานกิจกรรมมากมายเหลือเกิน และวันนี้ผมมีโอกาสได้เข้ามาเขียนบล็อกอีกครั้งและในครั้งนี้ผมขอเขียนเรื่อง "การทำเชิงเทียน" อันเป็นกิจกรรมที่ต่อเนื่องจากการทอดเทียนพรรษา ที่เขียนไปแล้วครับ

ในวันอาทิตย์ที่ 23 สิงหาคม 2552

ผมและเพื่อนๆอีก 3 คน รวมเป็น 4 คน ได้อยู่ที่บ้านหนองบัวแปะต่อเพื่อช่วยกันสร้างเชิงเทียน

การทำเชิงเทียนในครั้งนี้เราได้วางแผนการทำไว้นานมากแล้ว ตอนนี้เรามีโอกาสไ้ด้ทำถือว่าความฝันของเราและชาวบ้านเป็นจริง แต่น่าเสียดายครับเพื่อนๆ ที่มาด้วยกันมีภาระกิจต้องทำที่มหาวิทยาลัยก่อนจึงกลับไปเมื่อตอนเช้า

                       พี่เบ็นซ์ครับ

หลังจากที่ได้ส่งเพื่อนที่กลับบ้านแล้วผมและพี่เบ็นซ์ พี่กร และน้องกร (ชื่อเหมือนกันอีก ชาวบ้านต้องเรียกกร 1 กร 2) ได้มาเตรียมดินโดยการขุดหญ้าออกไปก่อน จากนั้นก็ขุดหลุมสามหลุมเพื่อจะได้เทฐานต้นเสาก่อน อากาศก็ร้อนครับแต่ด้วยใจรัก การทำงานจึงไม่เหนื่อย กลับสนุกไปอีกพ่อๆแม่ๆก็ทำงานกับพวกเราตลอดเวลา

                              ขนหินมาเทรองก้นหลุมครับ

                   มัดเหล็กขึ้นโครงเสาครับ

           

                        ร่วมมือร่วมใจกันผสมปูนเทเสาครับ

ขั้นตอนการทำเชิงเทียนของเราค่อยเป็นค่อยไปกลางแดดที่ร้อนในช่วงกลางวันเวลาใกล้เที่ยง วันนี้ไม่ถวายเพลพระครับเพราะหลวงพ่อ ("เจ้าหัวซา" ตามคำที่แม่พิมพ์เรียกหลวงพ่อ) ท่านได้เดินทางไปเรียนหนังสือที่จังหวัดร้อยเอ็ด  เมื่อได้เทเสาปูนเสร็จแล้วก็ได้นั่งรอปูนแห้ง ในระหว่างที่รอ ก็ได้ตำบักหุ่งฝีมือแม่ๆ กับบักส้มโอ ที่หาความหวานไม่ได้ครับ (แม่บอกว่าสงสัยปลูกไว้ใกล้ต้นมะหนาว มันจึงเปรี้ยวหลาย) กินของเผ็ดๆกับอากาศร้อนๆกับส้มโอเปรี้ยวๆ แซบครับ

              ดูแววตาและสีหน้าคงไม่ต้องบอกถึงความเปรี้ยวครับ

เมื่อเวลาบ่ายโมงเราจึงได้กินข้าวกลางวันครับ บรรยากาศเหมือนเดิมครับกินแบบอบอุ่นๆ เมื่อกินข้าวเสร็จก็ได้เวลาหาความบรรเทิงครับ ทางพ่อๆแม่ๆ เรียกร้องเหลือเกินครับว่าอยากฟฟังลำ แต่พวกเราที่เหลืออยู่ไม่มีใครลำเป็นสักคนมีแต่หมอแคนครับ ไม่ทันไรเสียงแคนดังขึ้นแม่ๆ ที่ชอบหมอลำเสียงแคนเป็นทุนอยู่แล้วได้ลุกขึ้นลำและฟ้อนกันสนุกสนานเสียงหัวเราะดังขึ้นจากความตลกของแม่ๆที่ลุกขึ้นฟ้อน


สร้างความสุขให้กับชาวบ้านได้เป็นอย่างดี พอหมอแคนเป่าแคนจบก็มีรางวัลเป็นเล็กๆน้อยที่แม่ๆให้

                           แม่สีดาให้รางวัลหมอแคนของเรา

ผมอดคิดไม่ได้ว่าถ้าไม่มีโอกาศได้มาค่ายนี้ และได้ร่วมสร้างเชิงเทียนในวันนี้จะได้เห็นบรรยากาศแบบนี้หรือเปล่าและผมก็ตัดสินใจถูกที่ได้เข้าร่วมในกิจกรรมครั้งนี้ เมื่อเราสนุกกันด้วยลีลาการฟ้อนรำกับเสียงแคนพอควรแล้วก็ได้ลงมือทำเชิงเทียนต่อ โดยเราได้ทำคานปูนเพื่อรองรับตัวเชิงเทียนที่เป็นรูปพญานาค

                          สร้างคานครับ

แต่ด้วยความ หม่วนหลายในเสียงแคน จึงได้เป่าแคนไปทำงานไป รำไปฟ้อนไป หม่วนหลายๆ ผมไม่เหนื่อยเลยแม้แต่น้อยเมื่อได้เห็นความสำเร็จอยู่เบื้องหน้า และทุกๆคนก็ยังหัวเราะสนุกสนานกัน ทำงานไปฟังเสียงแคน กลอนลำ ที่พลัดเปลี่ยนกันลำของชาวบ้าน บรรยากาศแบบนี้ไม่ได้หาดูได้ง่ายนัก ผมประทับใจจริงๆครับ และอยากให้ทุกๆคนได้มีโอกาสอย่างผมบ้างรับรองจะเข้าใจความรู้สึกครับ

และบรรยากาศสนุกสนานก็ได้หายไปพร้อมกับการงานที่เสร็จเพียงการสร้างคานเท่านั้นที่ทำได้ในวันนี้แต่การสร้างยังไม่เสร็จเราต้องได้กลับมาทำอีกครั้งเพื่อทำงานจนแล้วเสร็จครับ แต่อย่างไรก็ตามการทำเชิงเทียนในวันนี้ ก็หม่วนสุดๆ และเหนื่อยล้าแต่ก็ยังทนไหวครับเพราะเรามีใจรักในการทำงานจริงๆ ผมก็ขอลาด้วยความสำเร็จในวันนี้ครับ

                            เป็นคานออกมาได้อย่างสวยงาม

และในการทำงานในครั้งนี้ก็สิ้นสุดแต่ผมคิดว่าเสียงแคนกับกลอนลำหม่วนๆจะกลับมาดังที่ตรงนี้อีกครั้งหนึ่งครับ

หมายเลขบันทึก: 293797เขียนเมื่อ 3 กันยายน 2009 01:14 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 21:27 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

สวัสดีครับคุณสายน้ำ  จะโพสต์ภาพ แต่คืนนี้โกทูโนติดขัดจัง  แวะมาเยี่ยมก่อนก็แล้วกันนะครับ แล้วผมจะกลับมาใหม่ คิดถึงครับ

 

สวัสดีครับ นายก้ามกุ้ง

ขอบคุณที่แวะเข้ามาเยี่ยมครับ

สวัสดีครับคุณสายน้ำ ฯ

มาเป็นกำลังใจ ขอให้สอบผ่านทุก ๆ วิชา และได้เกรด A ทุก ๆ วิชานะครับ

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท