จากวันนั้น..ถึงวันนี้
เปิดใจครูต้นกล้าและผู้บริหารสถานศึกษา
โครงการคืนครูให้นักเรียน : ที่เชียงใหม่ เขต ๑
จากวันนั้น.. ๑๕ มิถุนายน ๒๕๕๒ อรุณแรกของการทดลองงาน ณ โรงเรียน
ถึงวันนี้.. ๓๑ สิงหาคม ๒๕๕๒ นับรวมได้ ๗๙ วัน
เป็นนิมิตหมายอันดียิ่งที่ ผอ.สพท.ชม.เขต ๑ และ ทีมงานพัฒนาบุคลากรที่เข้มแข็ง
ได้จัดให้มีวันนี้ขึ้น วันแห่ง“สุนทรียสนทนา” ระหว่างครูต้นกล้าอาชีพ
จำนวน ๕๓ คน พร้อมผู้บริหารโรงเรียน ๓๐ ท่านใน ๔๐ โรงเรียน
ที่ต้นกล้าอาชีพกำลังได้รับการเพราะบ่ม ให้เจริญงอกงาม
สู่การเป็นไม้ใหญ่ พร้อมออกดอกออกผลอย่างสวยงาม
หลายคำถาม..ที่ครูต้นกล้าสงสัย อาจไม่ได้คำตอบที่ชัดเจน ณ เวลานี้
ที่มาของ ..ครูต้นกล้าอาชีพ คือส่วนหนึ่งของ โครงการ “ต้นกล้าอาชีพ”ของรัฐบาล
ที่นโยบายหลัก คือ การกระตุ้นเศรษฐกิจของบ้านเมือง
ในช่วงเวลา ๓ เดือน ของปีงบประมาณ ๒๕๕๒
โดยให้ค่าตอบแทนในการฝึกงานเดือนละ ๔,๘๐๐ บาท
ซึ่งการว่าจ้างจะสิ้นสุดลงในวันที่ ๑๔ กันยายน ๒๕๕๒
ดังนั้น..
ระหว่างวันที่ ๑๔-๓๐ กันยายน ๒๕๕๒ ที่จะถึงอีกไม่กี่วันข้างหน้า
จึงเป็นช่วงเวลาสูญญากาศของครูต้นกล้า
ครูต้นกล้าจะอยู่โรงเรียนต่อไปได้ ด้วย “จิต” ด้วย “ใจ” ที่ผูกพันกัน รวมทั้งความเมตตากรุณา
ของผู้บริหารและสถานศึกษาที่มีต่อ ครูต้นกล้าอาชีพ
เพราะที่ผ่านมา..เป็นโครงการต้นกล้าอาชีพ
แต่การดำเนินงานต่อไป ในวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๒ เป็นต้นไป
คือการคัดเลือกบุคลากรเข้าปฏิบัติหน้าที่ราชการ ตำแหน่ง “พนักงานธุรการ”
หรือ บุคลากรทางการศึกษาที่ปฏิบัติหน้าที่ในสถานศึกษา ของ สพฐ. กระทรวงศึกษาธิการ
ซึ่งหากครูต้นกล้าติดตามข่าวคราวอย่างต่อเนื่อง ก็จะทราบว่า เลขาธิการ กพฐ.
ได้ชี้แจงว่าทุกคนจะได้รับการคัดเลือกบรรจุเพื่อเข้ารับราชการแน่นอน
เพียงแต่เกณฑ์การคัดเลือกและรายละเอียดเท่านั้นที่ ณ เวลานี้
ทุกเขตพื้นที่ก็ยังไม่ทราบเช่นกัน
ดังนั้น..
ณ เวลานี้ จึงเป็นช่วงเวลาที่ครูต้นกล้าทุกคนต้อง..
อดทน อดกลั้น อดออม
ทำวันนี้ให้ดีที่สุด
และทำใจให้นิ่งกับอนาคตที่จะมาถึง
ครูอ้วนเชื่อมั่นว่า..ต้นกล้าทุกต้นต้องทำได้(ค่ะ)
การเปิดใจของครูต้นกล้ากับผู้บริหารสถานศึกษา ณ วันนี้
จึงเป็น “ความจริงวันนี้” ที่ทุกฝ่ายต้องได้รับทราบ เพื่อเป็นข้อมูลพื้นฐานของ “ก้าวต่อไป”
ของรัฐบาล กระทรวงศึกษาธิการ และ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ประเด็นการ “เปิดใจ” ของครูต้นกล้า
๑. โครงการคืนครูให้นักเรียนมีประโยชน์และส่งผลต่อการจัดการเรียนการสอนของสถานศึกษาอย่างไร
๒. โรงเรียนต้องการให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา(สพท.) ช่วยเหลือโครงการคืนครูให้นักเรียนประการใดบ้าง
๓. ถ้าจะมีโครงการคืนครูให้นักเรียนต่อไป มีข้อเสนอแนะเพื่อให้โครงการมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นอย่างไร
๔. โรงเรียนได้ให้ความช่วยเหลือ ดูแลแนะนำและจัดสวัสดิการให้ผู้ปฏิบัติงานธุรการในโรงเรียนอย่างไรบ้าง
๕. หากมีการพัฒนาความรู้ให้ผู้ปฏิบัติงานธุรการในสถานศึกษาครั้งต่อไป ความรู้ที่ต้องการพัฒนามากที่สุดควรเป็นเรื่องใดบ้าง พร้อมเหตุผล
๖. ปัญหา/ อุปสรรค/ข้อเสนอแนะอื่นๆที่เกี่ยวข้อง
ภาพเล็กๆขวาบนและล่าง : ครูต้นกล้าที่ปฏิบัติงานใน ๑ โรงเรียน (โรงเรียนขนาดกลางและใหญ่)
ภาพใหญ่ ๒ ภาพ : ครูต้นกล้าที่ปฏิบัติงานในโรงเรียนเล็กๆมากกว่า ๑ โรงเรียน
ภาพซ้ายล่าง ๒ ภาพ : ผู้บริหารโรงเรียนใหญ่และเล็ก (ที่แสนน่ารัก)
ประเด็นการ “เปิดใจของผู้บริหาร”
๑.การบริหารจัดการให้ครูธุรการไปปฏิบัติงานแต่ละโรงเรียนมีรูปแบบใดบ้าง แต่ละรูปแบบมีข้อดีข้อด้อยอย่างไร
๒.จากข้อ ๑ การบริหารจัดการรูปแบบใดที่เห็นว่าดี มีประสิทธิภาพสูงสุด พร้อมเหตุผลและข้อสนับสนุน
๓.โครงการคืนครูให้นักเรียนมีประโยชน์และส่งผลต่อการจัดการเรียนการสอนของสถานศึกษาอย่างไรบ้าง
๔.โรงเรียนได้ให้ความช่วยเหลือ ดูแลแนะนำและจัดสวัสดิการให้ผู้ปฏิบัติงานธุรการในโรงเรียนอย่างไรบ้าง
๕.ปัญหา/ อุปสรรค/ข้อเสนอแนะอื่นๆที่เกี่ยวข้อง
ลองมาดู..ใจของครูต้นกล้า (ตัวอย่างจากการนำเสนอต่อที่ประชุม)
และใจของผู้บริหาร..ที่น่าชื่นชม
..หวังไว้ด้วยใจของผู้เขียนในฐานะผู้เกี่ยวข้องในการบอกกล่าวครั้งนี้..
..เป็นกำลังใจแก่ครูต้นกล้าอาชีพทั่วประเทศค่ะ..
ด้วยรักและจริงใจ
ศน.อ้วนค่ะ
รู้สึกมีกำลังใจในการทำงานมากขึ้น มีแรงสู้แล้ว และขอให้มีการบรรจุเป็นข้าราชการจริงๆด้วยเถอะ
ผมครูต้นกล้าอาชีพสุราษฎร์ธานี ขอขอบคุณสำหรับแรงใจ สู้ๆ ต่อไปถ้ากำลังใจยังไม่หมดสิ้น
แวะมาให้กำลังใจน้องๆต้นกล้าอาชีพค่ะ เขียนบันทึกใหม่แล้วนะคะ
ครูอ้วนที่สุดแสนน่ารัก และแสนดี เป็นที่พึ่งของเพื่อนพี่น้องชาวธุรการได้เสมอ
ขอขอบพระคุณในกำลังใจ และสิ่งดีๆ ที่ได้นำมาแบ่งปัน แจ้งให้ทราบครับ
ด้วยความหวังว่า เขต 2ถึง เขต 6 คงจะร่วมกันทำอะไรดีดีอย่างนี้
เพื่อความชัดเจน และความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของธุรการจังหวัดเชียงใหม่
และธุรการทั่วประเทศด้วยจะดีมากเลยครับ
ขอบคุณครูอ้วนมากนะคะ ที่ยังเป็นกำลังใจกับพวกเราอยู่ ดิฉันได้ 2 โรงเรียนค่ะ โรงเรียนแรกอยู่ใกล้บ้านและอีกโรงเรียนอยู่บนดอย เดินทางลำบาก บางวันฝนตกก็ต้องลุยฝนขึ้นไปทำงาน (ใส่เสื้อกันฝน) ทางก็ลำบากเป็นหลุมเป็นบ่อ ทางทรุด อยากให้รัฐบาลคำนึงถึง ระยะทางในการเดินทางบ้าง และดิฉันก็อยู่ในเขตพื้นที่พิเศษ(กันดาร) น่าจะมีเบี้ยพิเศษบ้างนะคะ เพื่อนๆ ธุรการเขต 6จะลำบากเรื่องการเดินทางไปทำงาน(ลำบากกว่าดิฉันค่ะ) เกือบทุกคนเลย เพราะโรงเรียนอยู่บนดอย ขอบคุณครูอ้วนอีกครั้งนะคะที่ไม่ทอดทิ้งพวกเรา
ได้อ่านและเห็นภาพการจัดประชุมสัมมนา ครูธุรการ ของเขต 1 แล้ว มีกำลังใจในการทำงานมากขึ้นพร้อมกับความมั่นคงในชีวิตเพิ่มขึ้นด้วยค่ะ ถึงเขตที่เราทำงานอยู่ไม่ได้มีการจัดประชุม แต่แนวทางการดำเนินงานของทุกเขตพื้นที่การศึกษา ก็คงเหมือนกัน....อย่างน้อยก็มีแรงใจและแรงกาย ที่สำคัญกำลังใจจากทุกส่วนที่ผลักดันโครงการนี้นะค่ะ.... ขอขอบคุณครูอ้วนด้วยนะค่ะ.... ที่นำข่าวดีๆ แบบนี้มาบอกค่ะ......งานหนักไม่กลัวนะค่ะ...ถ้ามีกำลังใจอย่างนี้ค่ะ..