ในการอยู่ร่วมกันไม่ว่าจะเป็นครอบครัว ที่ทำงาน สมาคมหรือว่าสังคมใด ๆ สมาชิกทุก ๆ คนในสังคมนั้น ๆ ก็ต้องมีบทบาทของตัวเองนะครับ บทบาทของความเป็นส่วนหนึ่งของสังคมที่จะช่วยขับเคลื่อนกลุ่มหรือสังคมนั้น ๆ ไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่งเพื่อความพลวัตร...
ความแตกต่างระหว่างบุคคลของสมาชิกในสังคมก็เป็นส่วนหนึ่งที่เป็นกลไกในการขับเคลื่อนสังคมนั้น ๆ นะครับ ความคิดเห็นที่แตกต่าง แนวทางหรือกรอบแนวคิดที่หลากหลาย ย่อมเป็นส่วนที่สำคัญให้เกิดการแลกเปลี่ยนเพื่อหาข้อสรุปร่วมกันเพื่อใช้เป็นแนวทางในการขับเคลื่อนของกลุ่มหรือสังคมครับ...
ในความเป็นกลุ่มหรือสังคมก็ย่อมมีทั้งความเป็นปัจเจกและความเป็นส่วนรวมร่วมกันนะครับ สังคมใดที่ปล่อยให้ความเป็นปัจเจกมาครอบงำคนส่วนใหญ่ และยอมหรือปล่อยให้ความคิดหรือแนวทางของปัจเจกนั้นมาเป็นแนวปฏิบัติของกลุ่มอันนี้ก็น่าคิดนะครับ...
เพราะหากแนวทางนั้นเป็นแนวทางที่ดีหรือเหมาะสมก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรนะครับ แต่หากแนวทางนั้นไม่ใช่แนวทางที่ถูกต้องเหมาะสมแล้ว ทิศทางของกลุ่มหรือสังคมนั้นก็จะขับเคลื่อนหรือถูกนำพาไปในทิศทางที่ผิดพลาดจากที่ควรจะเป็นได้นะครับ...
บทบาทของสมาชิกในสังคมจึงมีส่วนสำคัญนะครับ การแสดงบทบาทเชิงรับอยู่ตลอดเวลาด้วยเหตุผลที่ว่าแค่ตัวเราอยู่ได้แค่นั้นคงไม่พอแล้วนะครับ การออกมาแสดงความคิดเห็นของตัวเองพร้อมปรับเปลี่ยนบทบาทของตัวเราเป็นเชิงรุกบ้าง น่าจะช่วยขับเคลื่อนสังคมไปในแนวทางที่ดีขึ้นได้นะครับ...
เป็นกำลังใจให้นะค่ะ
ครับ...คุณศรีวิรัตน์
ขอบคุณมากครับ...
จิ้งเอง มีน้องรึยัง (เอน้องอะไร)
ครับ...จิ้ง
ยังเลยครับผม...
ครับ
ปรับเปลี่ยนตัวเองเชิงรุก
ดีกว่ารอให้คนอื่นเปลี่ยนตามที่เราคิดครับ
สวัสดีค่ะ เราทั้งผองล้วนคือเพื่อนและครอบครัวเดียวกัน หากเข้าใจ"บูรณาการ"เราจะเชื่อว่าเราต้องเชื่อมร้อยกันเป็นเครือข่ายถักทอสังคมอุดมด้วยความรัก ความเข้าใจและการ"เปิด" ตนเองเพื่อเรียนรู้ร่วมกัน เราครูตัวเล็กที่ลำปางก็กำลังทำเรื่องนี้กันอยู่ค่ะ
ครับ...คุณ Phornphon
ใช่เลยครับผม...
ขอบคุณมากครับ...
ครับ...ครูแมว
หากทุกคนในสังคมมองกันเป็นเพื่อนเป็นครอบครัว การบูรณาการย่อมเกิดขึ้นง่ายขึ้นนะครับ....
เป็นกำลังใจให้ครูตัวเล็ก ๆ ร่วมเรียนรู้ด้วยกัน และทำเรื่องนี้ได้สำเร็จนะครับ...
ขอบคุณครับผม...