ไปเกาะสอง-วันที่ฝนตกและเรือไม่มีหลังคา


ก่อนออกเดินทาง เราต่างนั่งคุย นั่งทำงาน จนเพ้งขอเรียกคุยเตรียมก่อนออกเดินทาง ทำให้รู้ว่า เด็กสาวคนนั้น เป็น "กรณีตัวอย่าง" ของเรา (อ้าว! นึกว่า เจ้าหน้าที่ NCCM อะนะ)

กำหนดการไปเกาะสองถูกเลื่อนเป็นวันที่สองของการเดินทาง
เพราะวันแรก "กรณีตัวอย่าง" ไม่พร้อม

เช้าวันนั้น เรานัดกัน 9.00 น. ที่ออฟฟิศ NCCM
ฝนตกเหมือนเดิม (ตกตั้งแต่เมื่อวาน ตกสลับหยุด-แบบสั้นๆ-ทั้งวัน!)
ก่อนออกเดินทาง เราต่างนั่งคุย นั่งทำงาน
จนเพ้งขอเรียกคุยเตรียมก่อนออกเดินทาง ทำให้รู้ว่า เด็กสาวคนนั้น เป็น "กรณีตัวอย่าง" ของเรา (อ้าว! นึกว่า เจ้าหน้าที่ NCCM อะนะ)

กรณีนี้-กรณีตัวอย่างของเราไม่ได้ไปแจ้งยื่นเรื่องขอเข้าสู่กระบวนการพิสูจนสัญชาติกับทางจัดหางาน
เธอได้ยินจากเพื่อนของเธอว่า สามารถทำได้ โดยไม่ต้องมีนายจ้างมา ด้วยการแสดงตนกับ ศูนย์ประสานงานการพิสูจน์สัญชาติ จงหวัดระนอง แล้วเดินทางไปเกาะสองได้เลย

แต่นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อหลายปีก่อน

ถึงตอนนี้ แรงงานจะสามารถเข้าสู่กระบวนการพิสูจน์สัญชาติได้ จะต้องกรอกแบบฟอร์มพิสูจน์สัญชาติพม่า (ขอแบบฟอร์มได้จากสำนักงานจัดหางาน) ก่อนเท่านั้น

นายจ้างก็ต้องกรอกด้วย เป็น "แบบฟอร์มสรุปแรงงานที่จะพิสูจน์สัญชาติ"

หลังจากนั้น จะส่งแบบฟอร์มพร้อมกับสำเนาใบอนุญาตทำงานหรือ ท.ร.38/1 ที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดแบบฟอร์ม์คำร้องดังกล่าวไปยังส่วนกลาง >> กระทรวงมหาดไทย >> ประสานงานส่งไปยังหน่วยงานของประเทศพม่า เมื่อประเทศพม่าตรวจชื่อและที่อยู่ของผู้ยื่นคำขอดังกล่าว และพบว่ามีชื่ออยู่ในทะเบียนราษฎรของพม่า จริง ก็จะส่งเรื่องกลับมา

คำขอดังกล่าวจะย้อนกลับมายังจัดหางาน จ.ระนอง  โดยแรงงานจะได้รับหนังสืออนุญาตให้ไปพิสูจน์สัญชาติ พร้อมบัญชีรายชื่อคนต่างด้าวที่ได้รับอนุญาต

เอกสารสองฉบับดังกล่าว จะต้องถูกยื่นต่อศูนย์ประสานงานการพิสูจน์สัญชาติ พร้อมกับสำเนาบัตรประจำตัวคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย หรือแบบท.ร.38/1 (ด้านหลังเป็นหนังสือส่งตัวจากสำนักงานจัดหางานจังหวัด)

กรณีศึกษาเรา ต้องกลับไปเริ่มต้นกระบวนการแรกก่อน พร้อมนายจ้าง!!

เจ้าหน้าที่ของศูนย์ประสานงานการพิสูจน์สัญชาติ อธิบายถึงกระบวนการข้างบน พร้อมให้เอกสารประกอบในทุกขั้นตอนกับพวกเรา ..ขอบคุณมากค่าาา

หลังจากนั้น เราฝ่าสายฝนไป ท่าเรือปากน้ำ ทำ border pass-จ่ายเงิน 30 บาท

ฉันมองหาคนเรื่อ คนเมื่อวาน แต่หาไม่เจอ (เขามาทักตอนเรา ตอนที่เราจะขึ้นเรือกลับจากเกาะสอง เขาบอกว่าเขาทักและถามพวกเราว่าจะไปไหน แต่เขาบอกว่า ฉันไม่เห็นเขา อ้าว!!) คนเรือเข้ามาเสนอราคา 500 บาทไป-กลับ (หุหุ เท่าเมื่อวานเลย) เราเลยตอบตกลงอย่างไม่ลังเล (ก่อนหน้านี้ มีคนบอกราคาว่า น่าจะ 800 บาท up)

ดูเหมือนเพ้งจะห่วง 2 สาวอย่างเรา-ที่หนึ่งว่ายน้ำไม่เป็น, เพ้งถามว่า มีชูชีพหรือเปล่า?

: )

เราลงเรือ--เรือเหมือนเมื่อวาน-ไม่ีมีหลังคา
เมื่อวาานเรายังทำเก๋ ถ่ายรูปกันก่อนลงเรือ
แต่วันนี้ฝนตกหนักกว่าเมื่อวาน และแรงขึ้น แรงขึ้น
เสื้อฝนตัวละ 20 บาท ยังคงทำงานได้ดีในวันที่สอง
คนเรือแจกร่ม แต่วันนี้ฉันกับดวง ใช้ร่มเดียวกัน
เพ้งนั่งหน้าฉัน ตอนแรกไม่ยอมใช้ร่ม
ฝนที่เริ่มลงหนัก จนข้างหน้าเรา-กลายเป็นสีขาว

เรือมุ่งหน้าไปเกาะสอง
เราไม่สามารถหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายรูป
เปียก เปียก
ตื่นเต้นกับเรือของเราที่กำลังวิ่งไปด้านหน้าที่เป็นสีขาว
--------------------------------
ค่ำนั้น
มื้ออาหารหลังเรากลับมา-เพิ่งมานึกขึ้นได้่ว่า
ฝนตกหนักแบบนี้
หน้ามรสุมแบบนี้
และออกเรือ-ตอนฝนตกแบบนี้
เราไปกันสามคน และเราทั้งสามคน ไ่ม่มีใครห้ามปรามกันเลย!!!
หมายเลขบันทึก: 293139เขียนเมื่อ 31 สิงหาคม 2009 23:47 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 21:26 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท