รถจักรยานยนต์ คือ พาหนะที่ขับขี่อย่างสะดวกสบาย คล่องตัว และรวดเร็ว แต่หารู้ไม่ว่า ภายใต้ความสะดวกสบายนี้ กลับเต็มไปด้วยภยันอันตรายต่าง ๆ มากมาย ที่รอคร่าชีวิตเราอยู่
จากสถิติการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุในประเทศไทย จะพบว่าทั้งในอดีตจนถึงปัจจุบัน รถจักรยานยนต์ยังคงเป็นยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ข้าพเจ้าก็เป็นหนึ่งในนั้น และประสบการณ์นี้ก็ได้ทำให้ชีวิตของข้าพเจ้าเปลี่ยนไป
เมื่ออยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ข้าพเจ้าได้หัดขับรถจักรยานยนต์เป็นครั้งแรก โดยมีคุณพ่อเป็นครูสอน แต่หลังจากที่ขับเป็น ก็ไม่เคยได้ขับไปเรียน ไปแต่เฉพาะสถานที่ใกล้ ๆ เท่านั้น เนื่องจากเส้นทางจากบ้านถึงโรงเรียนนั้นค่อนข้างไกลจึงทำให้คุณพ่อและคุณแม่เป็นห่วง กลัวจะเกิดอุบัติเหตุ ปัจจุบัน ข้าพเจ้าได้เข้ามาศึกษาที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น โดยใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ ในช่วงแรก ก็ยังขับไม่แข็งนัก เพราะชั่วโมงบินในการฝึกฝนยังน้อยไป ดังนั้น ข้าพเจ้าจึงพยายามศึกษาเส้นทางต่าง ๆ ภายในมหาวิทยาลัย และสังเกตป้ายต่าง ๆ รวมไปถึงวัฒนธรรมการขับรถของคนแถวนี้ และการฝึกขับรถบ่อยขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้ข้าพเจ้ามีความชำนาญมากขึ้น
และแล้ว ในวันที่ 25 มิถุนายน 2552 ซึ่งเป็นวันเกิดของข้าพเจ้า ก็ได้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น !!
เมื่อเวลา 6 .30 น. ข้าพเจ้าได้ขับรถออกไปซื้อของ และในขากลับนั้น มีรถจักรยานยนต์สวนทางมา ด้วยความเคยชินจึงไม่ได้สังเกตว่ามีรถอยู่ข้างหน้า พอรู้สึกตัวอีกที ข้าพเจ้าก็ลงไปนอนกับพื้นเสียแล้ว สักพักข้าพเจ้าก็ตั้งสติและลุกขึ้น โชคดีที่ชนไม่แรงนัก จึงไม่ได้บาดเจ็บอะไร จากนั้นก็ข้าพเจ้าและคนที่ขับรถสวนมาก็ต่างขอโทษ และให้อภัยกันและกัน
เหตุการณ์ครั้งนี้ ทำให้ข้าพเจ้ามีความระมัดระวังมากยิ่งขึ้น และเป็นบทเรียนที่สอนว่า ถึงแม้ว่าเราจะขับรถถูกต้องตามกฏจราจรแล้วแต่ก็อาจมีรถคันอื่นที่ขับไม่ถูกกฏจราจรหรือเมาสุรา ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ของตัวข้าพเจ้าเองที่จะระมัดระวัง และประสบการณ์ครั้งนี้ยังทำให้ข้าพเจ้ามีสติและความรอบคอบในการดำรงชีวิตมากยิ่งขึ้น มีความยั้งคิดก่อนที่จะทำอะไร ส่งผลต่อการทำกิจกรรมอื่น ๆ ในชีวิตประจำวัน ทำสิ่งใดก็ทำได้อย่างราบรื่น ไม่ประสบปัญหา และสิ่งที่น่าแปลกใจคือ เหตุการณ์นี้ยังทำให้ข้าพเจ้าขับรถช้าลงอีกด้วย
ข้อมูลเพิ่มเติมที่ข้าพเจ้าศึกษาและนำไปใช้
หลักพื้นฐานในการขับขี่ปลอดภัย 10 ประการ
1. สวมหมวกกันน็อคทุกครั้งเวลาขับขี่รถจักรยานยนต์
2. หมั่นตรวจระบบเบรก ยาง และระบบส่องสว่างให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์พร้อมใช้งานอยู่เสมอ
3. มองดูด้านหลังและให้สัญญาณไฟทุกครั้งเมื่อเปลี่ยนช่องทาง
4. สัญญาณจราจรที่สำคัญและควรจดจำ
5. อย่าขับขี่รถจักรยานยนต์ สวนทางหรือข้ามช่องทางวิ่ง
6. โปรดระมัดระวัง และลดความเร็วทุกครั้ง เมื่อพบกับสภาพถนนที่ขรุขระ เป็นหลุมทรายที่ถนนเปียกลื่น
7. อย่าขับรถเร็วกว่าที่กฎหมายกำหนด
8. ห้ามเสพหรือดื่มของมึนเมาขณะขับขี่รถจักรยานยนต์
9. การขับขี่รถจักรยานยนต์ผ่านบริเวณสี่แยก ควรหยุดรถหรือชะลอความเร็วของรถ
10. การขับขี่รถจักรยานยนต์บนถนนที่ไม่มีไฟส่องสว่าง ควรขับโดยใช้ความเร็วต่ำกว่าเวลา
หากจะกล่าวแล้ว ข้าพเจ้าคิดว่าเหตุการณ์ครั้งนี้เปรียบเสมือนบทเรียนที่มีค่า ที่ทำให้ได้พิจารณาตัวเอง และปรับปรุงพัฒนาความคิดต่าง ๆ ตอนนี้ข้าพเจ้ามีสติ ความระมัดระวัง ความรอบคอบมากกว่าเดิมแล้ว และข้าพเจ้าจะไม่ทำให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก
คลิปตัวอย่างการเกิดอุบัติเหตุทางรถจักรยานยนต์
อ้างอิง
http://www.rvp.co.th/knowledge/SaftyDriving/indexmain.htm
http://www.ryt9.com/s/iq01/498688/
(บันทึก 30-08-52)
ขอให้จำไว้เปนอุทธาหรณ์
แล้วอย่าทำอีกนะคับ
คิดถึงพ่อ แม่เราไว้ กว่าจะเลี้ยงเราโตมาได้ ^^
ยังไงก็ขอให้ตั้งสติอยู่ในความไม่ประมาทนะครับ ^^
รู้แล้ว อย่าทำอีกนะ เราก็จะเอาแนวคิดนี้มาใช้ในชีวิตประจำวันเหมือนกัน....................
ดีนะที่นัทไม่เป็นอะไรน่ะ โชคดีแล้ว
ทีนี้เราก็ใช้มันเป็นเครื่องเตือนสติให้เราระมัดระวังตัวมากขึ้น
ขับขี่ปลอดภัยมากขึ้น ทั้งตัวเราเองและคนอื่นด้วยเนอะ^^
จริงๆล่ะ เค้าเองก็เคยเกือบประสบอุบัติเหตุ จากการไม่ระวังอ่ะ
จำไปจนตายเลย เข็ดมากๆ
ก็ดีนะที่นำมาปรับปรุงเรื่องอื่นๆอีก
เป็นเหตุการณ์ที่น่าระทึกมากเลยนะ
โชคดีนะเนี่ยที่ไม่เป็นอะไรมาก
ตอนแรกที่ณัฐเล่าให้ฟังว่ารถล้มก็ไม่นึกว่าจะรุนแรงขนาดนี้
เหตุการณ์นี้ก็เอาไว้เป็นประสบการณ์แล้วกันนะ
ก็อย่างที่ณัฐบอกน่ะแหละว่าถึงแม้เราจะขับถูกกฎจราจรก็ตามแต่อุบัติเหตุก็ยังเกิดขึ้นได้
อยากให้ทุกคนเคารพกฏจราจรกัน จะได้ช่วยลดอุบัติเหตุ ชีวิตปลอดภัย...
ผมได้อ่านข้อความของคุณแล้ว เห็นนามสกุลเหมือนผม ถ้าคุณว่ากรุณติดต่อมาหาผมหน่อย โทร 0898682452