เมื่อเมฆขยาย จันทร์จะฉายท้องฟ้า
ครึกครืนคะครืนคลั่ง
เสียงฟ้าหลั่งจลนเสียง
แวบวาบปลาบเบี่ยง
ครั่นสำเนียงละเลียงฟ้า
มืดหับสลับฉาน
ขาวแสงกร้านส่านดังว่า-
โลกธาตุจักกลับกล้า
ณ รวิอรุณแสง
เมฆครึมทะมึนครึม
ทะทึมทั้งทะลักแทง
ทบทั่งทะทั่งตะละแดง
คะเคลื่อนอึมอึมพนำ
ปรายฝนก็ฝนหลั่ง
ประดังเม็ดละเม็ดพรำ
ห้วงฟ้าในคราคร่ำ
ระดะโดยทะมึนเมฆ
สักพักประจักษ์แจ้ง
ฟ้าสำแดงฟ้าวิเวก
ลุหมายไว้เอนก
ระเริงฟ้าไว้อารมณ์
จึงฟ้าขยับเมฆขยาย
รำระบายสุขสมน์
จันทร์เจ้าก็มาเย้าให้ชม
ณ ท้องธารแห่งดวงใจ
จึงจันทร์ฉายขยายฟ้า
มนัสธาราโสตถิ์ไสว
สงบงามอร่ามพิไล
โดยใดหาก- บ่แม่นฤดีฯ
ค่ำหนึ่ง เก้าจันทร์ฉาย
จันทร์แรม ๑๑ ค่ำ เดือน ๙
๒๕๕๒
* เมื่อเมฆขยาย จันทร์จะฉายท้องฟ้า
(คำจากเพลงในบทละครเรื่อง "เลือดสุพรรณ" ของหลวงวิจิตรวาทการ)
ไม่มีความเห็น