ทอดเทียนที่หนองบัวแปะ เรียนรู้คุณธรรม นำชีวิตพอเพียง


การเดินทางมาหลายกิโลเพื่อการทำบุญที่ยิ่งใหญ่ ในช่วงเข้าพรรษา ทอดเทียนที่บ้านหนองบัวแปะ ในโครงการเรียนรู้คุณธรรมนำชีวิตพอเพียง ปี 2552

เมื่อวันที่ 22  - 23 สิงหา่คม  2552

ผมได้กลับไปบ้านหนองบัวแปะ อันเป็นสถานที่ออกค่ายโครงการเรียนรู้คุณธรรม นำชีวิตพอเพียง ปี 2552 และในการไปครั้งนี้ไปเพื่อจะต่อยอดโครงการ คือ การทำเชิงเทียนและการจัดเก็บใบลาน และเราไม่ได้ไปตัวเปล่าเราได้ร่วมตั้งต้นเงินเพื่อให้นิสิตได้ทำบุญสมทบทุน ในการสร้างเชิงเทียนอีกด้วย ซึ่งเราก็ได้ออกแผ่เงินเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

    รถสองแถวที่ว่าจ้างให้ไปส่งออกเิดินทางจากกองกิจการนิสิต เวลา 06.30 น.

เรา ออกเดินทางแต่เช้าเพื่อกะให้มีเวลาในการทำกิจกรรมมากๆ เมื่อทุกคนพร้อมเราก็ออกรถทันที มีสมาชิกร่วมเดินทางกับเราในครั้งนี้ 15 คน พอดีนั่งรถสองแถวกำลังสบาย ผมขึ้นรถพอรถเคลื่อนผมก็หลับไปตลอดการเดินทาง มีตื่นบ้างเพราะเสียงคุยกันเสียงดังจากบนรถ แต่ถึงอย่างไรผมก็หลับได้ (เป็นเพราะการไปดูหนัง สามเรื่องซาว ทำให้ง่วงนอนมาก)

                      ตื่นอีกทีก็เป็นทางเข้าหมู่บ้านแล้ว

พอ ตื่นขึ้นมาผมก็ได้เห็นทุ่งนาสองข้างทางเขียวขจี ตัดกับต้นไม้สวยๆดูแล้วสบายตาสบายใจนัก ทำให้หายเหนื่อยจากการเรียน ไม่นานเราก็เดินทางถึงบ้านหนองบัวแปะ

            ถึงบ้านหนองบัวแปะ แต่ละคนดูยังไม่ทันตื่นนอน

เมื่อ เราถึงบ้านหนองบัวแปะเวลา 09.15 น. เราทุกคนได้ไปรวมกันที่บ้านแม่พิมพ์ พ่อตา อันเป็นบ้านแม่ฮักพ่อฮัก ของเราก่อน จากนั้นผมได้เดินทักทายแม่ฮักพ่อฮัก ตามบ้านต่างๆจนครบทุกบ้าน ชาวบ้านมีความสุขมากที่เห็นพวกเรากลับมาอีกครั้งโดยเฉพาะเห็นลูกฮักของตัว เองกลับมา ต่างก็เข้ามาทักทายถามไถ่สารทุกข์สุกดิบกัน บ้างก็ชวนไปกินข้าวที่บ้านแม่ ไปเล่นที่บ้านแม่ เราใช้เวลาในการทักทายไม่นานเราก็กลับมาที่บ้านแม่พิมพ์อีก เพื่อร่วมกินข้าวเดี๋ยวเราจะไปทอดเทียนกันแล้ว บางคนก็กินข้าวมาจากบ้านแม่ฮักพ่อฮักแล้วพอมากินข้าวที่บ้านแม่พิมพ์ ก็เกิดการแซวกันทำไมกินข้าวน้อยจังสงสัยนะเนี่ย

 

 

หลังจากที่เรากินข้าวเสร็จยังพอมีเวลาเราได้ตั้งต้นเงินที่ศาลากลางบ้านเพื่อให้ชาวบ้านได้ร่วมทำบุญต่อยอดกับเรา

ในระหว่างที่รอเวลาเดินทางไปทอดเทียนที่วัดเราก็ได้เล่นดนตรีเป็นการอุ่นเครื่องก่อนขบวนแห่ต้นเงิน

                                                อุ่นเครื่อง

เมื่อ ได้เวลาแล้วขบวนของเราได้เดินทางไปยังวัด มีชาวบ้านมาร่วมขวนมากมาย มีกลอง มีซอ มีฆ้อง และก็เสียงปรบมือ เป็นดนตรีประกอบ การฟ้อนรำของชาวบ้าน และชาวค่ายได้เกิดขึ้น อย่างสนุกสนาน แม้แดดตอน สี่โมงเช้า จะร้อนขนาดไหนเราทุกคนก็ไม่มีใครบนว่าร้อน ยังสนุกสนาน ม่วนไปกับการฟ้อนรำ ในขบวนแห่ต้นเงิน

            บรรยากาศขบวนแห่ต้นเงินและเทียนพรรษา

หลัง จากที่เราสนุกสนานกันเต็มที่ เดินแห่รอบศาลาวัดกันสามรอบแล้ว ก็ขึ้นบนศาลาวัด ประกอบพิธีทางศาสนา ดูสีหน้าและแววตาของทุกคนแล้วมีความสุขมากอิ่มบุญกันถ้วนหน้า

 


 

                                    ถวายต้นเงิน และเทียนพรรษา

เมื่อ เราประกอบพิธีกรรมทางศาสนาเสร็จเราก็ได้ถวายเพลพระ  พร้อมๆกับการทำหน้าที่เด็กวัด  กินข้าวก้นบาตร ความอบอุ่นในการกินข้าวที่ศาลาวัดได้เกิดขึ้นอีกแล้ว ผมยื่นยันว่าไม่ว่าวันไหนชาวบ้านจะมาทำบุญที่วัดเป็นประจำ แต่วันนี้เป็นงานบุญชาวบ้านมากันมากมายทำให้ศาลาที่ใหญ่ดูแคบลงทันที เป็นความสุขของผมที่ได้เข้าไปร่วมในกิจกรรมการทอดเทียนครั้งนี้และดีใจที่ ได้ทำบุญกับชาวบ้าน ได้เห็นความอบอุ่นได้เห็นความสามัคคีของชาวบ้าน ได้เห็นแรงศรัทธาของเพื่อนๆในการร่วมทำบุญ ไม่ว่าจะไกลขนาดไหนทุกคนก็ไปได้

                                       ได้เวลากินข้าววัดแล้ว

ความ อบอุ่นในวงข้าวเพลที่ศาลาวัด เป็นความรู้สึกที่ดีมากผมมองเห็นความสนุกสนาน ความสามัคคีของชาวบ้าน ความอบอุ่นระหว่างลูกกับแม่ กับพ่อ ครอบครัวดูอบอุ่นมากครับ คนแก่ๆได้มาพบปะพูดคุยกัน ถามไถ่กัน

"นาเจ่า ข้าวงามบ่"

"นาข่อย น้ำบ่มี"

เป็นความรู้สึกที่ว่าสาลาวัดเป็นที่ ที่ให้พบปะ ให้ทำบุญ สร้างความอบอุ่นแก่ครอบครัว

สุดท้ายผมขอลาด้วยภาพแม่ยายป้อนข้าวหลานครับ

 

                                   ปั้นข้าวเหนียว

 

หมายเลขบันทึก: 291748เขียนเมื่อ 28 สิงหาคม 2009 01:31 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 21:24 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (9)

สาธุ ร่วมอนุโมทนาบุญด้วยแล้วค่ะ

ตุลาคมนี้ พี่ครูต้อยก็จะไปทอดผ้าป่าที่อุดรเหมือนกันค่ะ

อยากเห็นความประทับใจแบบพื้นบ้านจัง

เห็นภาพที่นำมาให้ชมแล้วรู้สุขเป็นสุขใจจริงๆค่ะ

ขอบคุณนะคะ ภาพเหล่านี้หาดูยากมาก

อยากทราบว่าที่โคนต้นเทียนมีป้ายเขียนบอกอะไรค่ะ

สวัสดีค่ะ

มาชมภาพด้วยคนค่ะ

สวัสดีครับ      krutoi

การได้ไปทำบุญถือเป็นความสุขใจจริงๆครับ

การเดินทางที่ยาวไกลเพื่อไปทำบุญ บอกตามตรงว่าไม่เหนื่อยเลยครับ

สวัสดีครับคุณสายน้ำ ( ขออนุญาตเรียกสั้น ๆ นะครับ )  ผมมาเยี่ยมครับ  มาด้วยความซาบซึ้งในน้ำใจและไมตรีของคุณ  คิดถึงเสมอนะครับ คุณยังเป็นนักศึกษาอยู่ใช่ไหม  ผมชื่นชมในแนวเขียนและความคิดของคุณนะฮะ  คุณคงเป็นคนรุ่นใหม่ที่มีวิสัยทัศน์  มีแนวทางในการทำงานที่ดีงามและก้าวหน้า  เป็นประโยชน์แก่สังคมและประเทศชาติในอนาคตอย่างแน่นอนครับ  เมื่อถึงเวลานั้น...ขอเพียงอย่าท้อนะครับ  รับรองว่า อุปสรรคมาก ๆ พอ ๆ กะไวรัสคอม ฯ แน่นอนครับ

 

ขอบคุณ นายก้ามกุ้ง ที่เข้ามาให้กำลังใจ ในช่วงเวลาของการเป็นนิสิต นักศึกษา คือช่วงเวลาที่เรายังเป็นหนุ่มเป็นสาวกันอยู่ และหากการทำคุณประโยชน์ให้แก่สังคม และบ้านเมืองเราก็พร้อมที่จะเสียสละเวลาตั้งใจทำอย่างเต็มที่ตราบใดที่หัวใจเรายังเต้นอยู่

ขอบคุณอีกครั้งหนึ่งครับ

สวัสดีครับ   krutoi 

ผมยังตามหัวรูปต้นฉบับไม่เจอครับ จะได้นำรูปมาให้ดูว่าข้อความที่เขียนเขียนว่าอย่างไรบ้าง

ขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยมครับ

ดีใจนะที่มาที่หมู่บ้านของเราทำให้ผู้คนรู้จักมากมายเลย ขอขอบคุณพี่ๆเพื่อนๆทีม มมส.ด้วยที่มาเยี่ยมชมหมู่บ้านของเรา แต่ก็เสียดายนะที่ไม่ได้ไปร่วมขบวนด้วย คงจะสนุกน่าดูนะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท