แดดบ่ายใกล้เย็นกุมภาพันธ์ ส่องแสงงาม, ผมหลงรักดอกแดดที่เต้นรำบนใบไม้และพื้นถนนที่ส่องสายตามอง - แดดช่างไสวจริง ๆ ฤดูร้อนเริ่มแตกรับในร้อนกาย-ใจผู้คน, การดำเนินชีวิตที่ต่างพรากในวันเวลาทำให้ในดวงใจเราพกพาหลากหลายรู้สึกเสียจริง ๆ และทุกลมหายใจที่บางครั้งเราลืมสัมผัสรู้ทำให้หลงลืมการประมวลดอกผลชีวิต.. บางเราไขว่คว้าหาหวังและฝันอย่างมิอาจรู้แดนจบสิ้น บางเราหดหู่อยู่กับการแดดิ้นของหัวใจที่แตกพัง บางเราก็พยายามให้ชีวิตได้เป็นอยู่อย่างนิ่ง ๆ เข้าหาความเงียบงันและรำงับการดิ้นพล่านของแรงปรารถนา ชีวิตล่วงวันคืนโดยไม่ได้ยิ้มกับผืนดินที่เหยียบยืน ไม่ได้สบตากับจันทร์ ดวงดาว อาทิตย์ หรือแม้นแต่สักดวงดาวพระเคราะห์ใด ๆ แต่กลับหลงวุ่นวายอยู่กับเคราะห์กรรมชีวิตที่ตนพยายามตัด บางเราเฝ้าเดินทางสะเดาะเคราะห์ที่ว่านั้นกันอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยหรือเพียงพอกับความต้องการ บางเราก็ต่างแยกแตกเหล่ากอออกเป็นฝักฝ่ายพวกพ้องชักลากถ้อยคำและชีวิตเข้ามาห่ำหั่นกันและกันอย่างสนาน บางเรา ... .... ผมอยู่กับแดดและร้อนกุมภาพันธ์อย่างเหนียวเหนอะ นั่งมองรู้สึกของใจกายนั่งคำนึงถึงเรื่องราวและชีวิตผู้คน คนโน้น คนนี้ ... แดดร้อนแต่สวย ! สวยงามเมื่อมองโดยรู้สึกว่าแดดนั้นไสว สว่างงามทำให้ผมมองเห็นสรรพสิ่งที่ครรลองตาทาบไต่ไปถึง ดวงใจตามตาสองตาไปแต่รู้สึกอีกแป๊ปแห่งดวงใจเดียวกันของผม พลัดไปสู่อีกคำนึง - ใจดวงเดียว เที่ยวไปจริง ๆ .... ค่ำ - พอมืดสนิทเต็มที่แห่งวัน, ผมออกเดินไปด้วยเท้าทั้งสอง ตาทั้งสองและดวงใจเดิมเดียวนี้ลมหัวค่ำพัดกระทบกายสบายตัวดีจริง ๆ ลมนั้นพัดอย่างกลับบอกให้รู้ว่า-เป็นลมลาหนาวพร้อม ๆ กับเป็นลมรับร้อน ผมเอากายใจรับลมเย็นตัวนั้นอย่างสุขเต็มที่ ส่องตามองลม มองฟ้าหาที่มาของลม พลันตาทั้งสองก็พบกับจันทร์เสี้ยวงามของวันขึ้นสี่ค่ำเดือนสี่ ใกล้ ๆ กันมีดาวสว่างดวงหนึ่ง ผมหยุดตัวยืนมองจันทร์เสี้ยวงามกับดาวสว่างนั้นยืนมองอยู่อย่างมีสุขราวสิบนาที - ใจดวงเดียวของผม เที่ยวไปอีกแล้ว ผมประทับภาพนั้นไว้ในดวงใจที่รับรู้ แล้วเดินไปนั่งคำนึง ไต่ถามด้วยคิดในตน - - กันและกัน, สรรพสิ่งอิงรักกันและกันอยู่อย่างนั้นเกลียดโกรธหวังทำร้ายก็กันและกันอย่างนั้น แต่.. โอ ความรักมีมากกว่าความไม่รักเพราะหากมีความไม่รักมากกว่า - - ผมจะได้เห็นแดดไสวงามนั้นหรือผมจะได้เห็นจันทร์เสี้ยวงาม ดาวสว่างนั้นหรือผมจะได้รับลมร้อน ลมเย็นนั้นหรือและใจดวงเดียวของผมจะได้เที่ยวไปหรือ .. ในร้อนของแดดนั้น ไสวด้วยแสงสว่างให้ดวงตาเราพบเห็นสรรพสิ่งในจันทร์เพียงเสี้ยวสี่ก็ให้สว่างงามมาสู่ดวงตาดวงใจในดาวที่เห็นเพียงดวงน้อยนิดก็ให้สว่างดวงตาดวงใจเช่นเดียวกัน ดวงตา ดวงใจ- ตัวเรา เป็นธรรมชาติทั้งหมดรอบตัวเรานั้นก็ล้วนธรรมชาติและการเสกสรรปั้นแต่งด้วยมนุษย์- - ผู้มาจากธรรมชาติไม่มีอื่นใดที่จะไม่ - กันและกันทั้งฝ่ายที่เราสมมติว่า ดี ว่า ชั่ว ทั้งหมดนั้นก็- กันและกันอยู่เช่นนั้น ! - - และไม่ได้ขึ้นอยู่กับกำหนดนิยาม การตีความ การประเมินค่า ฯมันเพียงความคงอยู่ - เป็นสิ่งที่ดำรงอยู่แล้วอย่างนั้นเราเพียงผู้รับรู้ ประมวลผล เก็บรับ แล้วผ่องถ่ายเข้าออก ๆ ให้กับชีวิต - - ความธรรมดา คือ ธรรม, ความหลากหลาย คือ ธรรม,และธรรมนั่นแหล่ะ คือ รักเพราะรัก คือธรรมที่ดำรงอยู่แล้วอย่างนั้นเป็นเมตตาสุญญตาอยู่โดยภาวะ - คือ ความรักสุญญตาที่อยู่คงคู่กับโลก คือแผ่นดิน กับโลก คือหมู่สัตว์ - - แดดไสวจันทร์สว่าง จงส่องทางกันและกัน. ---------------------------------------------------------เกษตร กสิกร จาก.. เรื่องสั้นเรื่องรักเรื่องที่สอง
ไม่มีความเห็น