เรื่องสั้น-สั้นเชิงกวีนิพนธ์ "กันและกัน"


ความรักสุญญตาที่อยู่คงคู่กับโลก คือแผ่นดิน กับโลก คือหมู่สัตว์

 

 


แดดบ่ายใกล้เย็นกุมภาพันธ์ ส่องแสงงาม,
ผมหลงรักดอกแดดที่เต้นรำ
บนใบไม้และพื้นถนนที่ส่องสายตามอง - แดดช่างไสวจริง ๆ

ฤดูร้อนเริ่มแตกรับในร้อนกาย-ใจผู้คน, 
การดำเนินชีวิตที่ต่างพรากในวันเวลา
ทำให้ในดวงใจเราพกพาหลากหลายรู้สึกเสียจริง ๆ และทุกลมหายใจที่บางครั้ง
เราลืมสัมผัสรู้ทำให้หลงลืมการประมวลดอกผลชีวิต..

         บางเราไขว่คว้าหาหวังและฝันอย่างมิอาจรู้แดนจบสิ้น
บางเราหดหู่อยู่กับการแดดิ้นของหัวใจที่แตกพัง
บางเราก็พยายามให้ชีวิตได้เป็นอยู่อย่างนิ่ง ๆ เข้าหาความเงียบงัน
และรำงับการดิ้นพล่านของแรงปรารถนา 

ชีวิตล่วงวันคืนโดยไม่ได้ยิ้มกับผืนดินที่เหยียบยืน ไม่ได้สบตากับจันทร์
ดวงดาว อาทิตย์ หรือแม้นแต่สักดวงดาวพระเคราะห์ใด ๆ
แต่กลับหลงวุ่นวายอยู่กับเคราะห์กรรมชีวิตที่ตนพยายามตัด 

บางเราเฝ้าเดินทางสะเดาะเคราะห์ที่ว่านั้นกันอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
หรือเพียงพอกับความต้องการ

บางเราก็ต่างแยกแตกเหล่ากอออกเป็นฝักฝ่ายพวกพ้อง
ชักลากถ้อยคำและชีวิตเข้ามาห่ำหั่นกันและกันอย่างสนาน


บางเรา ...


....

ผมอยู่กับแดดและร้อนกุมภาพันธ์อย่างเหนียวเหนอะ นั่งมองรู้สึกของใจกาย
นั่งคำนึงถึงเรื่องราวและชีวิตผู้คน คนโน้น คนนี้ ...

         แดดร้อนแต่สวย !  สวยงามเมื่อมองโดยรู้สึกว่าแดดนั้นไสว สว่างงาม
ทำให้ผมมองเห็นสรรพสิ่งที่ครรลองตาทาบไต่ไปถึง ดวงใจตามตาสองตาไป
แต่รู้สึกอีกแป๊ปแห่งดวงใจเดียวกันของผม พลัดไปสู่อีกคำนึง

         - ใจดวงเดียว เที่ยวไปจริง ๆ


....

ค่ำ - พอมืดสนิทเต็มที่แห่งวัน, 
ผมออกเดินไปด้วยเท้าทั้งสอง ตาทั้งสองและดวงใจเดิมเดียวนี้
ลมหัวค่ำพัดกระทบกายสบายตัวดีจริง ๆ  ลมนั้นพัดอย่างกลับบอกให้รู้ว่า-
เป็นลมลาหนาวพร้อม ๆ กับเป็นลมรับร้อน

ผมเอากายใจรับลมเย็นตัวนั้นอย่างสุขเต็มที่ 
ส่องตามองลม มองฟ้าหาที่มาของลม 
พลันตาทั้งสองก็พบกับจันทร์เสี้ยวงามของวันขึ้นสี่ค่ำเดือนสี่
ใกล้ ๆ กันมีดาวสว่างดวงหนึ่ง
ผมหยุดตัวยืนมองจันทร์เสี้ยวงามกับดาวสว่างนั้น
ยืนมองอยู่อย่างมีสุขราวสิบนาที

- ใจดวงเดียวของผม เที่ยวไปอีกแล้ว

ผมประทับภาพนั้นไว้ในดวงใจที่รับรู้
แล้วเดินไปนั่งคำนึง ไต่ถามด้วยคิดในตน -

- กันและกัน, สรรพสิ่งอิงรักกันและกันอยู่อย่างนั้น
เกลียดโกรธหวังทำร้ายก็กันและกันอย่างนั้น

แต่.. โอ ความรักมีมากกว่าความไม่รัก
เพราะหากมีความไม่รักมากกว่า - -
ผมจะได้เห็นแดดไสวงามนั้นหรือ
ผมจะได้เห็นจันทร์เสี้ยวงาม ดาวสว่างนั้นหรือ
ผมจะได้รับลมร้อน ลมเย็นนั้นหรือ
และใจดวงเดียวของผมจะได้เที่ยวไปหรือ

.. ในร้อนของแดดนั้น ไสวด้วยแสงสว่างให้ดวงตาเราพบเห็นสรรพสิ่ง
ในจันทร์เพียงเสี้ยวสี่ก็ให้สว่างงามมาสู่ดวงตาดวงใจ
ในดาวที่เห็นเพียงดวงน้อยนิดก็ให้สว่างดวงตาดวงใจเช่นเดียวกัน

ดวงตา ดวงใจ- ตัวเรา เป็นธรรมชาติ
ทั้งหมดรอบตัวเรานั้นก็ล้วนธรรมชาติและการเสกสรรปั้นแต่งด้วยมนุษย์
- - ผู้มาจากธรรมชาติ
ไม่มีอื่นใดที่จะไม่ - กันและกัน
ทั้งฝ่ายที่เราสมมติว่า ดี ว่า ชั่ว  ทั้งหมดนั้นก็- กันและกันอยู่เช่นนั้น !

- - และไม่ได้ขึ้นอยู่กับกำหนดนิยาม การตีความ การประเมินค่า ฯ
มันเพียงความคงอยู่ - เป็นสิ่งที่ดำรงอยู่แล้วอย่างนั้น
เราเพียงผู้รับรู้ ประมวลผล เก็บรับ แล้วผ่องถ่ายเข้าออก ๆ ให้กับชีวิต


- - ความธรรมดา คือ ธรรม, ความหลากหลาย คือ ธรรม,
และธรรมนั่นแหล่ะ คือ รัก
เพราะรัก คือธรรมที่ดำรงอยู่แล้วอย่างนั้น
เป็นเมตตาสุญญตาอยู่โดยภาวะ -

คือ ความรักสุญญตาที่อยู่คงคู่กับโลก คือแผ่นดิน กับโลก คือหมู่สัตว์


- - แดดไสวจันทร์สว่าง จงส่องทางกันและกัน.

---------------------------------------------------------
เกษตร กสิกร

จาก.. เรื่องสั้นเรื่องรักเรื่องที่สอง


หมายเลขบันทึก: 291746เขียนเมื่อ 28 สิงหาคม 2009 01:22 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 09:02 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท